ขอแค่เห็นหน้า ครอบครัวห่วง “สันติ” 1 ใน 19 ตัวประกันอิสราเอล

พี่สาวเผย น้องชายตั้งใจทิ้งความลำบากที่บ้านเกิดไปทำงานเก็บเงิน ก่อนขาดการติดต่อสัญญาจะกลับบ้าน “เศรษฐา” เข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมาร-นายกฯ ซาอุดีอาระเบีย พร้อมช่วยเหลือตัวประกันไทย

วันนี้ (21 ต.ค.2566) จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งมีคนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกลักพาตัว ข้อมูลล่าสุด (20 ต.ค.66) กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งสถานะคนไทยที่ได้รับผลกระทบในอิสราเอลว่า มีผู้เสียชีวิตรวม 30 คน บาดเจ็บ 16 คน คาดว่ามีผู้ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้น 2 คน รวมเป็น 19 คน ส่วนการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอกลับไทย มีจำนวน 8,273 คน ไม่ขอกลับ 115 คน

สันติ (ขวาบน) แรงงานไทยในอิสราเอล ระหว่างโทรศัพท์หาครอบครัวตามปกติ ก่อนขาดการติดต่อช่วงเที่ยง วันที่ 7 ต.ค.66

The Active พูดคุยกับ สุนี บุญพร้อม พี่สาวของ สันติ บุญพร้อม ชาวบ้านหนองไทร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็น 1 ในแรงงานไทยที่ทำงานในโมชาป มิชตาคิม ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน เธอเล่าว่า ได้คุยกับสันติครั้งล่าสุดคือช่วงเช้าของวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะขาดการติดต่อกับครอบครัวในช่วงเที่ยง โดยมีเพื่อนของสันติที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ขณะที่นายสันติถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป และกระทรวงการต่างประเทศออกมายืนยันในภายหลัง

สุนี เล่าต่ออีกว่า ปกติตนเอง และภรรยา รวมถึงลูกชายของสันติ จะคุยวีดีโอคอลกันเป็นประจำ ทุกครั้งน้องชายจะบอกว่าได้ยินเสียงสู้รบ ยิงจรวดโจมตีกันจนเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้มีทหารหรือกองกำลังติดอาวุธรบกันภาคพื้นดินเหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งทุกครั้งน้องชายจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง และขอให้ครอบครัวอดใจรออีกไม่นานก็จะครบ 6 ปี ในวันที่ 19 ต.ค.นี้ จะเดินทางกลับประเทศไทย

”เขาส่งเงินมาให้ที่บ้านทุกเดือน สร้างบ้านให้ครอบครัว ย้ำอีกว่าอย่าเพิ่งทำบุญขึ้นบ้านใหม่นะ รอ 19 ต.ค.นี้ ค่อยทำบุญพร้อมหน้าพร้อมตากัน ตอนนี้เราแค่อยากรู้ว่าเขายังปลอดภัยดี กลับมาอยู่บ้าน และจะบอกเขาว่าไม่ต้องไปไหนอีกแล้วนะ“ 

สุนี พี่สาวของสันติ แรงงานไทยในอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
บ้านหลังใหม่จากน้ำพักน้ำแรงของสันติ ใน จ.บุรีรัมย์

6 ปีที่แล้ว สันติ ตั้งใจเดินทางไปทำงานเป็นเกษตรกรที่ประเทศอิสราเอล หวังสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว เนื่องจากอาชีพขับรถส่งน้ำแข็งรายได้เฉลี่ยวันละ 400 บาท ดูแลทั้งภรรยา และลูก รวมถึงพ่อแม่ แต่สันติมีความฝันว่าอยากมีบ้านใหม่ให้ครอบครัว มีทุน มีพื้นที่ในการทำเกษตร เพื่ออนาคตชีวิตจะได้ไม่ต้องลำบาก จึงตัดสินใจจากบ้านไปทำงานที่อิสราเอล ช่วงแรกตั้งใจจะไปประมาณ 4 ปี แต่ภายหลังขออยู่ต่อครบ 6 ปี เฉพาะในหมู่บ้านมีแรงงานประมาณ 4 คน ที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอล

ตอนนี้ครอบครัวเป็นห่วงสันติมาก ติดต่อใครไม่ได้ มีเพียงกรมการจัดหางาน และผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เข้ามาสอบถามและบอกให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถเจรจากับประเทศอิสราเอล หรือกลุ่มคนที่จับตัวไป ช่วยเหลือน้องชายออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย

ด้านความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล วันนี้ (21 ต.ค. 66) เศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ขณะเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ว่า  ขณะนี้มีคนไทยที่อิสราเอลถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจ แต่การต่อรองเรื่องตัวประกันยังคงต้องดำเนินการต่อไป ส่วนการลำเลียงคนไทยกลับนั้น ตอนนี้มีผู้แสดงเจตจำนง 8,500 คนแล้ว แนวโน้มน่าเป็นห่วงว่าจำนวนคนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เกือบเท่ากับจำนวนคนที่มีการนำกลับมาประเทศไทยแล้ว  ซึ่งหมายความว่าจำนวนไม่ได้ลดลง ดังนั้น ทางที่ดีคือต้องพยายามหาทางเอาคนไทยกลับมาให้ได้อีก ซึ่งตนได้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับภาคเอกชนอีกหลายๆ ส่วน ที่มีเครื่องบินนำกลับเข้ามาขณะนี้มีเครื่องบินของมุสลิมลำหนึ่งที่จะสามารถนำกลับมาได้ จากแถวชายแดนประเทศจอร์แดน ขณะนี้กำลังพยายามใช้ความสามารถติดต่อสามารถนำคนมาขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่

“เขามีให้ทุกวันๆ ละ 200 คน ตรงนี้จะพยายามสานต่อ และเพื่อให้มีการติดตามงานที่ชัดเจนมากขึ้น และรายงานให้กับประชาชนและครอบครัวที่มีความเป็นห่วงใยญาติพี่น้อง ซึ่งในวันที่ 23 ต.ค. เวลา 14.30 น. จะประชุมครั้งใหญ่ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรายงานความคืบหน้าให้ทราบ”

โดยก่อนหน้านี้ นายกฯ ยังได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย พร้อมขอบคุณรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ดูแลคนไทยกว่า 6,000 คน ที่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งมีคนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกลักพาตัว ซึ่งซาอุดีอาระเบียรับที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุมตัว

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active