‘ภาคีเพื่อการศึกษาไทย’ ยกขบวนทุกภาคส่วนเปิดวงคุย TEP Forum 2022 หวังเปลี่ยนการศึกษาไทยให้ก้าวทันโลก ชี้ วิกฤตโควิดสะท้อนชัด “เด็กไทยอยู่ในระบบเรียนรู้แบบผูกขาด” เตรียมเสนอนโยบาย ‘รัฐบาล’ ปฏิรูปการศึกษารองรับความสนใจระดับบุคคล
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/03/IMG_1029-1024x683.jpg)
วันนี้ (19 มี.ค. 2565) ภาคีเพื่อการศึกษาไทย (Thailand Education Partnership หรือ TEP) จัดงานประชุมวิชาการ “TEP Forum 2022 ก่อร่างสร้างใหม่ การศึกษาไทยแห่งอนาคต” ระหว่างวันที่ 19–20 มีนาคม 2565 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการชั้นนำ เครือข่ายพัฒนาครู โรงเรียน คนรุ่นใหม่ เด็กและเยาวชนเข้าร่วมในระบบออนไลน์
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์ ภาคีเพื่อการศึกษาไทย (TEP) กล่าวว่า 20 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีความพยายามปฏิรูปการศึกษามาแล้ว 2 รอบ แต่กลับไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน สาเหตุหลักเกิดจากเน้นปฏิรูปโครงสร้างมากกว่าปฏิรูปการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม และเป็นการขับเคลื่อนจากบนลงล่าง (Top–down) ด้วยการประกาศนโยบายจากส่วนกลาง ขาดการมีส่วนร่วมของระบบนิเวศ (Ecosystem) ของการศึกษาในพื้นที่
“เราได้บทเรียนที่สำคัญว่าในอดีตที่ปฏิรูปการศึกษาไม่สำเร็จ เป็นเพราะการกำหนดนโยบายขาดการมีส่วนร่วม ปฏิรูปการศึกษาไม่ได้เป็นหน้าที่ของภาครัฐอย่างเดียว นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่เราผนึกพลังในการตั้งโจทย์สร้างการเปลี่ยนแปลงการศึกษาจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่สนใจ”
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/03/FG_28721-1024x683.jpg)
นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีบทเรียนที่เกิดขึ้นในระบบการศึกษา ได้แก่ การเรียนการสอนแบบท่องจำความรู้ (Passive Learning) ส่งผลให้คุณภาพผู้เรียนถูกลดทอนลง ความท้าทายจากการระบาดโควิด–19 ที่ซ้ำเติมการศึกษาไทยให้เสียหายอย่างหนัก สะท้อนให้เห็นว่าเกิดจากการรวมศูนย์การเรียนรู้ไว้ที่โรงเรียนเป็นหลักมาอย่างยาวนาน เมื่อโรงเรียนถูกปิดการเรียนรู้ก็ขาดหายไปเกิดเป็นปรากฎการณ์ความรู้ถดถอย เพราะสูญเสียโอกาสจากการที่โรงเรียนไม่สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพได้
“ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกคนในสังคม เป็นการศึกษาที่เสริมสร้างสมรรถนะให้ผู้เรียน ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุกที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติ หรือ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ และพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ”
จากโจทย์ต่าง ๆ เป็นที่มาของการจัดงาน TEP Forum 2022 ครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “ก่อร่างสร้างใหม่ การศึกษาไทยแห่งอนาคต” เพื่อขับเคลื่อนภารกิจปฏิรูปการศึกษาไทยให้ก้าวทันโลกในทุกมิติ และสร้างแรงกระเพื่อมให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยในวงกว้าง
โดยกิจกรรมวันแรก มีการเปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ “วิกฤตโควิด สร้างโอกาสการศึกษาใหม่” โดย พงศ์ทัศ วนิชานนท์ นักวิจัยอาวุโส กลุ่มงานวิจัยนโยบายด้านการปฏิรูปการศึกษา สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย, Dr. Aarti saihjee Chief of Education Section UNICEF, นรรธพร จันทร์เฉลี่ย เสริบุตร CEO Starfish Education และเสวนา “ภูมิทัศน์การศึกษาไทยแห่งอนาคต : เปลี่ยนอย่างไรให้ตอบโจทย์” โดย รศ.อนุชาติ พวงสำลี ประธานบริหารโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สราวุฒิ อยู่วิทยา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาการศึกษา, มิรา เวฬุภาค CEO mappa และ CEO & Founder, Flock Learning, ศศิธร สุขบท ผู้สื่อข่าวและ Content Creator ศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ ไทยพีบีเอส และ ธนวรรธน์ สุวรรณปาล ครูโรงเรียนราชดำริ กรุงเทพฯ พร้อมกิจกรรมระดมสมอง 5 โจทย์สำคัญเพื่อการเปลี่ยนระบบการศึกษาไทย เช่น การพัฒนาหลักสูตรใหม่ที่เป็นฐานสมรรถนะ, ร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ เป็นต้น
ส่วนวันที่สองมีกิจกรรม TEP Talk กับ 5 แรงบันดาลใจเพื่อการเปลี่ยนการศึกษาไทย พร้อมสรุปผลการระดมสมอง 5 โจทย์สำคัญเพื่อการเปลี่ยนระบบการศึกษาไทย สำหรับนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และกิจกรรมล้อมวงเสวนา “บทบาทของคนรุ่นก่อน และคนรุ่นใหม่ ต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย” โดย อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี, รศ.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา, นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ CEO & Editor–in–Chief THE STANDARD และ พริษฐ์ วัชรสินธุ CEO StartDee ปิดท้ายด้วยกิจกรรม Network Meeting ผนึกกำลังเครือข่ายพัฒนาครู, เครือข่ายโรงเรียน, เครือข่ายคนรุ่นใหม่/เด็กและเยาวชน และเครือข่ายปฐมวัย
“TEP Forum ครั้งนี้ ต้องการเน้นย้ำให้การปฏิรูปการศึกษาขยายไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้นและกลายเป็นกระแสหลัก โดยเฉพาะวิกฤตโควิด–19 ยิ่งทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการปฏิรูปการศึกษาอย่างเร่งด่วน รวมถึงการขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ ที่แต่ละกลุ่มสนใจ เพื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นผลสำเร็จเชิงรูปธรรมสู่สาธารณะ คาดหวังว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ มีทักษะการทำงาน ทักษะชีวิต มีทัศนคติที่ถูกต้อง และเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวข้ามความล้าหลังด้านการศึกษา พร้อมก้าวสู่สังคมที่เข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน”
เสวนา “วิกฤตโควิด สร้างโอกาสการศึกษาใหม่” เสวนา “ภูมิทัศน์การศึกษาไทยแห่งอนาคต : เปลี่ยนอย่างไรให้ตอบโจทย์”
ทั้งนี้ ภาคีเพื่อการศึกษาไทย (TEP) เกิดจากการรวมตัวของเครือข่ายที่สนใจด้านการศึกษา โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ มุ่งมั่นปฏิรูปการศึกษาไทย ด้วยความเชื่อว่าระบบการศึกษาที่ดีต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกคน ทั้งองค์กรภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคสังคม ด้วยการสร้างพื้นที่การทำงานร่วมกันและรวบรวมความคิดเห็นจากทั้งนักเรียน ครู นักการศึกษา พ่อแม่ นักวิชาการ ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไปเพื่อเป็นเสียงสะท้อนความต้องการจากผู้ปฏิบัติงาน หรือผู้ที่เผชิญกับปัญหาจริงไปยังผู้กำหนดนโยบาย และสังเคราะห์ความคิดเห็นเหล่านี้บนฐานวิชาการเพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอที่จะสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง – ‘ภาคีเพื่อการศึกษาไทย’ ชวนส่งเสียงทิศทางปฏิรูปการศึกษา เสนอ ‘รมว.ศธ.’