ม็อบชาวนา ปักหลักหน้ากองทุนฟื้นฟูฯ ทวงสัญญาแก้หนี้เกษตรกร

สหพันธ์เกษตรกรหวังเกษตรกร 100 รายแรกได้ทำสัญญาเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะได้รับการฟื้นฟู พร้อมเดินทางกลับหากได้ทำสัญญา

กลุ่มเกษตรกรปักหลักบริเวณหน้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามมติ ครม. ซึ่งเห็นชอบแนวทางการดำเนินการและกรอบวงเงินชดเชย ตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)   ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)

ศักดิ์ดา ดวงดารา ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย บอกกับ The Active ว่า ช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. มีการประชุมหารือร่วมกันของเลขาธิการสำนักนายก เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการคลัง) ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง และกลุ่มเกษตรกร ที่กองทุนฟื้นฟูฯ โดยมีความคืบหน้าว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดใหญ่ของ ธ.ก.ส. ในวันที่ 24 ส.ค. 2566 กลุ่มเกษตรกรจึงไม่แน่ใจว่าควรจะปักหลักอยู่ต่อเพื่อรอดูความคืบหน้าจนถึงวันที่ 24 ส.ค. นี้ หรือไม่ เพราะด้วยสภาพอากาศและสถานที่อาจไม่สะดวกมากนัก

ทางกลุ่มเกษตรกรยังหวังว่าจะได้เห็นการทำสัญญาของเกษตรกร 100 รายแรกกับ ธ.ก.ส. อย่างเป็นเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเกษตรกรว่าจะได้รับการฟื้นฟูและเยียวยาจริง หากในวันที่ 11 ส.ค. มีการทำสัญญาเกิดขึ้นกลุ่มเกษตรกรก็จะเดินทางกลับ

“เมื่อมีการทำสัญญา ผมเชื่อว่า ธ.ก.ส. จะบิดพลิ้วไม่ได้แล้ว ตอนนี้เราก็คิดได้แค่นั้น”

ศักดิ์ดา ดวงดารา

ด้าน เกตุแก้ว สำเภาทอง เกษตรกรผู้ทำนาเกลือ จ.สมุทรสงคราม มองว่าการที่เกษตรกร เข้ามาอยู่ในกองทุนฟื้นฟูฯ ก็เนื่องมาจากความล้มเหลว กองทุนฟื้นฟูฯ จึงเป็นเหมือนโรงพยาบาลสำหรับรักษาเกษตรกร แต่การมาอาศัยกองทุนฟื้นฟูฯ ก็ต้องเจอกับกฎระเบียบที่พัฒนาเร็วกว่าปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ และหนี้ก็พัฒนาตามไปด้วย บางทีเกษตรกรตามไม่ทัน และย้ำว่าหนี้เกษตรกรควรได้รับการแก้ไขได้แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องที่เห็นชอบด้วยกฎหมาย ท้ายที่สุดก็ต้องถูกดำเนินการต่อ

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active