Workshop ‘ปลดหนี้ 2’ พบปัญหาสำคัญ ไม่รู้ยอดหนี้จริง

ปลดหนี้ 2 ออนทัวร์ จ.ฉะเชิงเทรา 5 วัน 4 คืน พบผู้ร่วม Workshop แรก ตามไปปลดหนี้เชิงปฏิบัติการจริง ทีมโค้ช มั่นใจ 7 เทคนิคปรับวิธีคิดปลดหนี้ได้ผล เตรียมสัญจรปลดหนี้ 4 ภาคทั่วไทย

หลังจากเวทีสอนวิชาการเงิน-ปลดหนี้ ที่ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา มีประชาชนทั่วไปที่สนใจมาสมัครเรียนรู้เกือบ 100 คน ทั้งกลุ่มประชาชนที่สนใจ มีหนี้และไม่มีหนี้มาร่วมรับฟัง สู่ปฏิบัติการปลดหนี้จริงครั้งที่ 2 ที่สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมที่ติดตามมาจากการทำเวิร์คชอปครั้งแรก 8% หรือประมาณ 4-5 คน แต่เป็นประชาชนที่ตั้งใจจะปลดหนี้อย่างจริงจัง เพราะปฏิบัติการครั้งนี้จะต้องเปิดเผยหนี้สินทั้งหมด และลงมือคำนวณวางแผนการปลดหนี้ ผ่านการให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ทีมโค้ชการเงิน “อัจฉริยะศึกษา วิสาหกิจเพื่อสังคม” (Money Genius) ระยะเวลา 5 วัน 4 คืนต่อเนื่อง

หนึ่งในผู้เข้าอบรม ระบุว่า รับรู้เรื่องการสอนวิชาปลดหนี้ครั้งนี้มาจากการเข้าอบรม 101-ปลดหนี้ ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ตั้งใจจะนำความรู้ที่ได้ไปสอนเด็กๆ ในครอบครัว แต่เนื่องจากคอร์สเรียนวิชาการเงินมีราคาค่อนข้างสูง การมาเรียนครั้งนี้จึงได้แนวคิดด้านการเงินที่เป็นประโยชน์ และคาดหวังให้ครอบครัวเรียนต่อในช่วงที่ทีมปลดหนี้ไปสัญจรที่จังหวัดของตัวเอง ขณะที่อีกหลากหลายเคสที่มาร่วมอบรม มีอาชีพที่แตกต่างกัน ทั้ง ครู, ข้าราชเกษียณ ที่เพิ่งเริ่มกู้ในวัย 50 ปี, มนุษย์เงินเดือนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต, และคนค้าขาย ที่ได้รับผลกระทบจากช่วงวิกฤตโควิด-19

5 วัน 4 คืนจะปลดหนี้ได้อย่างไร? ทีมโค้ชยัน หนี้ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน อยู่ที่วิธีคิด

รอบนี้ ทุกคนจะต้องผ่านการอบรม 5 วัน ผ่านการ สำรวจหนี้ เปลี่ยนวิธีคิด แผนงาน และวิธีการนำมา สู่ การปลดหนี้ และการวางแผนเพื่อสร้างรายได้ และความมั่นคงในชีวิต

ครูบี๊-นุกูล ลักขณานุกุล และครูพัช-พัสชนันท์ คงวณิชกิจเจริญ จากทีมโค้ชการเงิน “อัจฉริยะศึกษา วิสาหกิจเพื่อสังคม” (Money Genius) เล่าความแตกต่างของการเริ่มต้น 101 ที่ให้ความรู้เรื่องการเงินในครั้งแรก กับปฏิบัติการจริงในครั้งที่ 2 ว่า จากครั้งแรก 50 คน ครั้งนี้เหลือเพียง 4 คน แต่เป็น 8% ที่ตั้งใจจริง แม้จะมีผู้สมัครมาเพิ่มเติมเพื่อเข้าร่วมกระบวนการในรอบที่ 2 แต่จะถูกคัดกรองด้วยวิธีการต่างๆ จนเหลือคนที่ทำจริง ทำการบ้านครบเพียง 20% และเชื่อมั่นว่าแม้จะเป็นจำนวนที่น้อยแต่จะสามารถปลดหนี้ได้ทุกคน เพราะทีมโค้ชจะมีการติดตามประเมินผลตลอด 1 ปี

ตลอดทั้ง 5 วันเป็นการปฏิบัติการอย่างจริงจัง ทั้งการเปลี่ยนวิธีคิด สำรวจตัวเลขจริงของหนี้ก่อนฝังแนวคิดการสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ติดตัวผู้เรียนกลับไป จากการทำเวิร์คชอป พบว่า วันแรกที่ทีมโค้ชสำรวจมีประชาชนทั้งหมดเป็นหนี้รวมกัน 17 ล้านบาท แต่หลังจากการตรวจสอบหลักฐาน และทำเวิร์คชอป กลับพบหนี้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว 33 ล้านบาท สะท้อนว่ามีประชาชนหลายคนไม่รู้ตัวเลขหนี้ที่แท้จริง หรือไม่รู้ว่าตัวเองติดหนี้ 

วันแรกสำรวจหนี้ของคนที่มาเรียน พวกเขาบอกว่า เป็นหนี้รวมกัน 17 ล้านบาท แต่หลังจากตรวจสอบหลักฐาน ถามอย่างละเอียด ตัวเลขที่ได้มาใหม่ คือ 33 ล้านบาท

สะท้อนว่า มีประชาชนหลายคน ที่ไม่รู้ตัวเลขหนี้ที่แท้จริงของตัวเอง หรือ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหนี้

ทีมโค้ชการเงิน “อัจฉริยะศึกษา วิสาหกิจเพื่อสังคม” (Money Genius)

หลังจากสำรวจตัวเลขนี้ชัดแล้ว ก็จะเติมความรู้เรื่องการเงิน, วัฒนธรรมทางการเงิน, และปรับความเชื่อผิดๆ การอบรมครั้งนี้มีถึง 7 เทคนิค ที่ผู้เรียนจะได้พกกลับบ้าน The Active สรุปมาให้บางส่วนที่สำคัญจำเป็น และนำไปปรับใช้ได้ทันที เช่น เทคนิคการลดดอกเบี้ย, การประเมินหลักทรัพย์, การรวมหนี้, และการประนอมหนี้ ฯลฯ

เทคนิค ลดต้น-ลดดอกเบี้ย

ความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยแบบคงที่กับดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เพื่อให้เห็นประโยชน์ของการเจรจาลดต้นลดดอกกับทางธนาคาร โดย ดอกเบี้ยลดต้น (Effective Rate) คือ ดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปตามจำนวนเงินต้นที่ผู้ขอสินเชื่อได้ชำระในแต่ละงวด ดอกเบี้ยจะลดลงเรื่อยๆ ตามเงินต้นที่ลดลง เนื่องจากถูกหักออกไปจากการชำระหนี้งวดก่อนหน้า ข้อดี คือ อัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนไปตามจำนวนเงินต้นที่ผู้ขอสินเชื่อได้ชำระในแต่ละงวด โดยดอกเบี้ยจะลดลงเรื่อยๆ ตามเงินต้นที่ลดลง, เหมาะสำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองมีกำลังมากพอที่จะมีเงินมาปิดยอดได้เร็ว

เทคนิค การประเมินหลักทรัพย์

อีกเทคนิคหนึ่งของการปลดหนี้ คือ การประเมินหลักทรัพย์เป็นรายปี เพราะกรมที่ดินจะปรับราคาประเมินที่ดิน ดังนั้นผู้ที่เอาที่ดินไปวางค้ำประกัน เพื่อขอกู้เงิน ก็จะได้ประโยชน์จากการได้วงเงินกู้เพิ่มขึ้น 

เทคนิคการรวมหนี้-ลดภาระ

การจัดการกับหนี้ก้อนใหญ่ ที่อยู่กับเจ้าหนี้รายเดียว หรือน้อยราย จะทำให้เราจัดการกับหนี้สินได้ดีกว่าหนี้ก้อนย่อยๆ ที่อยู่อย่างกระจัดกระจาย เพราะแต่ละสถาบันการเงินก็จะมีดอกเบี้ย และมีวิธีการเก็บเป็นของตัวเอง ผู้เป็นหนี้จะต้องแบกรับภาระหนัก ดังนั้นเทคนิคการรวมหนี้จะเป็นการลดภาระในการจ่าย ไปไว้ที่สถาบันการเงินเพียงที่เดียว ซึ่งจะช่วยลดดอกเบี้ย และภาระในการจ่ายต่อเดือนได้

เทคนิควางแผนชำระหนี้ 12 เดือนแรก จนถึงการมีอิสระจากหนี้ 

เมื่อสามารถบริหารหนี้มาถึงจุดหนึ่ง จะเห็นภาพชัดขึ้นว่าหนี้ประเภทใดสามารถรวมกันได้,หนี้ประเภทใดขอประเมินทรัพย์สินใหม่ได้, รวมถึงการจัดการเงินที่มีวินัย และมีเป้าหมายมากขึ้น นำมาสู่ การวางแผนที่ดีขึ้นเพื่อทยอยชำระหนี้ 

เทคนิคการประนอมหนี้

แต่หากมาถึงจุดที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้อีกต่อไป การขอประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ เป็นหนทางที่ควรทำ เพราะเจ้าหนี้ทุกรายต้องการเงินคืน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย จึงควรหาหนทางเข้าไปเจรจาและแสดงความจริงใจในการชำระหนี้ และบอกยอดเงินที่สามารถชำระคืนได้ เจ้าหนี้ก็จะพร้อมประนีประนอมช่วยจัดการหนี้แต่ละก้อนอย่างแน่นอน 

เตรียมขยายผลปลดหนี้-สัญจร 4 ภูมิภาค สร้างความเข้มแข็งเรื่องการเงินตั้งแต่ระดับชุมชน

จากการอบรมครั้งนี้ทีมโค้ช เล่าว่ามีหลายคนที่มากับความสิ้นหวัง คอตกกับตัวเลขหนี้ของตัวเอง เช่น กรณีของครูที่มีหนี้สหกรณ์, มนุษย์เงินเดือนที่เต็มไปด้วยบัตรเครดิต เป็นหนี้สินหลักล้าน, ข้าราชการวัยเกษียณ ที่กู้เงินมาซื้อที่ดินเตรียมปลูกผักในวัยเกษียณ ทำให้เขาต้องสูญเสียเงินบำเหน็จยามบั้นปลายเพื่อใช้หนี้ ฯลฯ

แต่หลังอบรมจบแล้ว พฤติกรรม ความคิด และความรู้สึกเปลี่ยนไป เพราะเป็นการกลับบ้านไปพร้อมความรู้ คู่มือและแผนงานที่จะใช้ปลดหนี้จริงๆ โดยทางทีมโค้ชการเงินยังเตรียมปลดหนี้ต่อในระดับชุมชนทั่วทุกภูมิภาค โดยจะเริ่มต้นที่จังหวัด สกลนคร, ชัยภูมิ,เพชรบูรณ์, เชียงใหม่ และกระบี่ เพื่อสร้างองค์ความรู้ทางด้านการเงินที่เข้มแข็งในระดับพื้นที่ โดยหวังให้ชุมชนได้นำองค์ความรู้ไปใช้ต่อเพื่อเป้าหมายสำคัญคือ ช่วยคนไทยออกจากวังวนหนี้สิน สู่ความมั่งคั่งทางการเงิน

สอดคล้องกับ แนวทางขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN ที่พบข้อมูล หลังโควิด-19 ทั่วโลกมีคนจนลงถึง 130 ล้านคน จำเป็นต้องแก้ปัญหาเรื่องหนี้ และความยากจนอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ 1 : ขจัดความยากจนทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ เพื่อนำสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active