หลัง ครม. อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/2566 ไร่ละ 1,000 บาท จ่ายไม่เกิน 20 ไร่ ชาวนาตั้งข้อสังเกตเหตุจ่ายล่าช้าเพราะใกล้เลือกตั้ง แนะรัฐ ออกแนวทางควบคุมต้นทุนการผลิต จะช่วยชาวนายั่งยืน
วันนี้ (23 พ.ย. 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 4 ฤดูกาล 2565/2566 ในวงเงิน 81,200 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรสำหรับช่วยลดต้นทุนการเพาะปลูกไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2565 นั้น
ทีมข่าวสอบถามไปยัง เกษตรกรที่เข้าเกณฑ์จะได้รับเงินประกันรายได้ฯ ดังกล่าว พยง แสงทอง ชาวนา อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุทธยา ระบุว่า ไม่คุ้ม หากดูจากต้นทุนการผลิตที่ต้องจ่ายไป จึงอยากให้รัฐบาลลงพื้นที่เพื่อเห็นปัญหาที่แท้จริงว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรกรตกไร่ละเท่าไร เช่น ราคาปุ๋ย ราคาเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าน้ำมัน ค่าเชื้อเพลิงที่แพงขึ้น หรือแม้กระทั่งการเช่าที่ทำนา
“เรื่องการเช่านาของเกษตรกรเป็นปัญหาใหญ่ เพราะว่าบางพื้นที่ตกเกือบไร่ละ 1,500 บาท ใช้คำว่ามันไม่คุ้มก็ได้ เพราะตอนนี้เราจะได้การช่วยเหลือมาแค่ไร่ละ 200 กว่าต่อไร่ ครอบครัวละไม่เกิน 30 ตัน ถ้าเป็นรายใหญ่ ซึ่งมันไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตเราที่ขาย แม้รัฐบาลตั้งข้าวขาวไว้ 10,000 บาท แต่เราขายจริง ๆ แล้วราคาไม่เกิน 7,500 แต่มาชดเชยไร่ละ 200 มันไม่คุ้มเลย ถ้าไม่มีส่วนต่างประกันช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,000 ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ เราจะได้กันแค่หมื่นนิด ๆ”
ชาวนา ต.ผักไห่ ยังกล่าวว่า หากพูดถึงกรณีการประกันรายได้ไม่ตอบโจทย์ชาวนา เพราะมองยังไงก็ไม่คุ้ม จึงแนะว่าอยากให้มีการควบคุมราคาของปุ๋ย และช่วยเรื่องราคาข้าวมากกว่า
“รัฐบาลไม่ต้องมาช่วยเหลือตรงนี้ เพราะมันไม่ยั่งยืน แถมยังเป็นภาระของรัฐบาลอีก ถ้าเราสามารถส่งออกได้ สามารถที่จะทำเมล็ดพันธุ์ให้มันดีได้ และสามารถที่จะสู้กับคู่แข่งได้ อยากจะให้ไปทุ่มกับการควบคุมราคาต้นทุนการผลิตและประกันราคาข้าว”
สอดคล้องกับ ชำนาญ ชินบุตร ชาวนา จ.ลพบุรี ระบุว่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างแรงงาน ต้นทุนการผลิตแพงขึ้นทุกอย่าง แต่ราคาข้าวกลับเท่าเดิม หรือน้อยกว่าเดิม ฉะนั้น ทางเลือกของการควบคุมราคาต้นทุน และการประกันราคาข้าวจะเป็นทางเลือกที่ดีและยั่งยืนกว่า
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทุกปีจะต้องจ่ายค่าประกันรายได้ไปแล้ว แต่ครั้งนี้เพิ่งจะมีการประกาศ อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของการเลือกตั้ง และใช้การจ่ายค่าประกันครั้งนี้เป็นการเรียกคะแนนเสียง
สำหรับการจ่ายเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 4 ฤดูกาล 2565/2566 ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ บอร์ด ธ.ก.ส. ที่มี อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พร้อมมาตรการคู่ขนานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก และยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างยั่งยืน ปีการผลิต 2565/2566 จำนวน 4 โครงการ โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการประกันรายได้จะเริ่มได้รับเงินเข้าบัญชี ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2565
