ตั้งข้อสังเกตคณะกรรมการฯ ไม่รับลูกแนวนโยบายใหม่ โยนต่ออนุกรรมการฯ แต่ละกระทรวง ไร้กรอบเวลาชัดเจน
วันนี้ (31 ม.ค.65 ) ภายหลังแกนนำ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ประชุมร่วมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่ 1/2565 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ผ่านระบบ Video Conference เพื่อหารือข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้ง 15 ข้อ ของกลุ่มพีมูฟ โดยการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นเพียงครั้งที่ 2 เท่านั้น หลังมีคำสั่งตั้ง พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 ก.ย.62
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม กลุ่มพีมูฟ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ท่าที โดยประเมินว่าการประชุมดังกล่าว ไม่ใช่การเจรจาตามสิ่งที่กลุ่มพีมูฟ ได้มีกระบวนการเตรียมการกันไว้ ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มี อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งพีมูฟได้ใช้เวลาจัดทําเอกสาร ข้อมูล และข้อเรียกร้อง ตลอดจนร่างมติคณะรัฐมนตรี ร่วมกับสํานักงาน ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ถึง 2 วัน แต่สิ่งที่พบคือการพูดคุยกันครับทั้ง 15 ข้อ แต่พีมูฟเห็นว่าวาระการเจรจา ไม่เป็นไปตามสิ่งที่ได้เสนอและจัดทําร่วมกันมา
สำหรับข้อเรียกร้องเดียวที่มีชัดเจน คือข้อเรียกร้องว่าด้วยการยกระดับแนวทางการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบ “โฉนดชุมชน” ให้เป็นหนึ่งในแนวทางการจัดการที่ดินตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่ พล.อ.ประวิตร รับหลักการ ว่าจะนําเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (1 ก.พ.65)
ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ นั้น กลับไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ทั้งเรื่อง การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่, การตั้งคณะทํางานเพื่อพิจารณาแก้ไขกฎหมายป่าไม้ 3 ฉบับ และ กฎหมายลําดับรองกรณีการดําเนินงานขององค์การบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน), การผลักดันกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมคดีที่ดินป่าไม้ของคนจน, การผลักดันรัฐสวัสดิการ, การแก้ไขปัญหาโครงการพัฒนาของรัฐ, การผลักดันกลไกใหม่ ในการผลักดันแนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ นอกจากนั้น การแก้ไขปัญหาของชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ก็ยังไม่คืบหน้า
“ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อเรียกร้องใดที่เป็นแนวนโยบายใหม่ คณะกรรมการมีท่าทีจะไม่รับเรื่อง พยายามผลักดันให้เข้าสู่กลไกการแก้ไขปัญหาของคณะอนุกรรมการฯ ของแต่ละกระทรวง ซึ่งยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนว่า จะดําเนินการหารือแก้ไขปัญหาเมื่อไร จะส่งผลต่อ กรอบเวลาการนําเข้าพิจารณาใน คณะรัฐมนตรีให้มีมติเห็นชอบตามที่ ขปส. ได้ยืนยันตั้งแต่วันแรกของการชุมนุม ว่าอาจไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ หากแนวทางยังเป็นเช่นนี้”
กลุ่มพีมูฟ ยังแถลงตําหนิการจัดทําวาระการประชุมของหน่วยงานที่เป็นเลขานุการ ที่จัดทําวาระไม่ตรงตามที่เตรียมการร่วมกัน ตลอดจนขอประกาศจุดยืนว่าจะยังคงติดตามทวงสิทธิต่อหลังจากนี้ และจะมีการหารือเพื่อกำหนดเคลื่อนไหวต่อกรณีดังกล่าวซึ่งจะแถลงก่อนการประชุม ครม.