กอ.รมน. แจง ไม่เกี่ยว “นักรบองค์ดำ”

หลังกลุ่ม “นักรบองค์ดำ – สองคาบสมุทร” ติดปลอกแขนสัญลักษณ์ กอ.รมน. จัดการคนจาบจ้วงสถาบันฯ ระบุ หากพบกระทำผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2564 วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ระบุว่า

กอ.รมน. ยัน ‘นักรบองค์ดำ-สองคาบสมุทร’ ปกป้องสถาบันฯ
ไม่เกี่ยว “กอ.รมน.”
หลังแอบอ้างใช้ สัญลักษณ์ “กอ.รมน.” เป็นอาร์ม ติดชุดการ์ดชุดดำ
สั่ง กอ.รมน. ภาค-จังหวัด ตรวจสอบ เป็นมวลชน กอ.รมน. หรือไม่ ยันไม่มีนโยบายให้มวลชน มาทำหน้าที่แบบนี้ แต่งตัวแบบนี้
ชี้ หาก พบกระทำผิด ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายราชการ โทษทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า พลตรี ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น กอ.รมน. ขอยืนยันว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับกลุ่มนี้ โดย กอ.รมน. ได้แจ้งไปทาง กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ให้ตรวจสอบว่ามี จนท. และมวลชนไปเกี่ยวข้องหรือไม่

โดยหากพบว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมีการนำตรา กอ.รมน. ไปแอบอ้าง โดยไม่ได้อนุญาต จะถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 มาตรา 6 ที่ห้ามบุคคลใช้เครื่องหมายราชการ เว้นได้รับอนุญาต ซึ่งคนฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 8 คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 2,000 บาท

สำหรับมวลชน กอ.รมน. มีบทบาทหน้าที่หลัก คือ นำข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงกระจายไปพื้นที่ต่าง ๆ รวมพลังเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และงานจิตอาสาต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่ง มวลชน กอ.รมน. จะไม่แต่งกายแบบกลุ่มนักรบองค์ดำ-สองคาบสมุทร ซึ่งขณะนี้ได้ให้ กอ.รมน. ภาค กับจังหวัดตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบบุคคลกระทำผิด จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2564 โดยเฟซบุ๊ก นักรบองค์ดำ-สองคาบสมุทร โพสต์ข้อความระบุว่า ปฏิบัติการดัดสันดานคนจาบจ้วง โดยเป็นการไปตามตัวชายรายหนึ่งในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง ที่โพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันฯ จากนั้นกลุ่มดังกล่าวได้เดินทางไปในพื้นที่และได้ยื่นหนังสือต่อผู้นำชุมชน เพื่อขอให้ดำเนินการทางสังคมกับชายคนดังกล่าว

เพจระบุว่า ทางกลุ่มได้พูดคุยชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้โพสต์ เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นผู้กระทำจริง ทำไปเพราะป่วยซึมเศร้า ขอยอมรับผิดทั้งหมด พร้อมทั้งเต็มใจทำพิธีขอขมาขอพระราชทานอภัยโทษ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และให้คำมั่นสัญญาว่าจะประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดี ไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีก

เพจดังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ใครมีพฤติกรรม​จาบจ้วงล่วงละเมิดเช่นนี้อีก​ อาจเป็นเป้าหมายต่อไปของกลุ่ม พร้อมลงรูปและคลิป รวมทั้งมีภาพจดหมายที่ส่งถึงผู้นำชุมชนเพื่อขอความร่วมมือ

โดยหลังภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไปได้มีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นจำนวนมากทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยว่าทำไมไม่ให้กฎหมายจัดการ

ขณะที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ โดยเห็นว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ที่กำหนดว่าผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมระบุว่า นี่ไม่ใช่สภาพที่บ้านเมืองซึ่ง “มีขื่อมีแป” ควรจะเป็น และไม่ใช่สิ่งที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างตำรวจจะนิ่งเฉย ปล่อยให้เกิดขึ้นได้ เพราะการที่ท่านจะปล่อยปละละเลยแบบนี้ ประชาชนเขาจะมองว่าท่านปกป้องความปลอดภัยให้เขาไม่ได้ สุดท้ายถ้าประชาชนต้องปกป้องตัวเอง มันไม่โกลาหลกันไปหมดหรือ

Author

Alternative Text
AUTHOR

เพ็ญพรรณ อินทปันตี

อดีตนักกิจกรรม รักการอ่าน งานเขียน ว่ายน้ำ และเล่นกับแมว