ผญบ. ระบุ ถ้ารู้ก่อนจะห้าม เผยเหตุชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกิน อยู่ก็อดตาย เชื่อ อุทยานฯ ไม่ทำเกินหน้าที่ หลังส่ง จนท. ตามขึ้นไปหลายชุด
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 เว็บไซต์ สำนักข่าวชายขอบ รายงานข่าวชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยล่าง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กลุ่มหนึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน พากันเดินเท้ากลับขึ้นไปยังหมู่บ้านบางกลอยบนที่อยู่กลางป่าใหญ่ “ใจแผ่นดิน” ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกินเดิมก่อนที่จะถูกอพยพลงมาทั้งหมู่บ้านในปี 2539
อภิสิทธิ์ เจริญสุข ชาวบ้านบางกลอย ระบุว่า สาเหตุหลักที่ต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิมเนื่องจากบริเวณหมู่บ้านบางกลอยล่างไม่มีที่ทำกินเพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมา ก็พยายามเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ขณะที่แต่ละครอบครัวมีสมาชิกเพิ่มขึ้นทุกวัน ต้องอยู่กันอย่างแออัดในบ้านหลังเดียว และไม่มีการจัดการเรื่องสิทธิในที่ดิน ยิ่งตอนนี้มีข่าวว่ารัฐบาลได้ยื่นเสนอให้ป่าแก่งกระจานประกาศเป็นมรดกโลก ทำให้ชาวบ้านยิ่งรู้สึกกดดันและตื่นตัวที่จะขึ้นไปอยู่บ้านเดิม
“ตั้งแต่พวกเราถูกอพยพลงมา ทุกครอบครัวไม่เคยมีความสุข ขนาดพี่น้องของพวกเราคือบิลลี่ถูกอุ้มฆ่าและจับถ่วงน้ำ แต่กลับจับตัวฆาตกรไม่ได้ แถมคดีก็กำลังจะเงียบไปแล้ว ตอนนี้อุทยานฯ ยังออกกฎหมายใหม่ ทำให้ชาวบ้านช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้”
ด้าน มานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่าได้รับรายงานแล้วว่ามีชาวบ้านบางกลอยกลุ่มหนึ่งเดินเท้าขึ้นไปด้านบนป่าใหญ่ตั้งแต่ 5 วันก่อน เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีประมาณ 7 คน ซึ่งยังไม่ทราบเหตุผลชัดเจนว่าขึ้นไปทำไม โดยสันนิษฐานไว้ 3 แบบคือ 1. เพื่อเดินข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 2. เพื่อขึ้นไปเก็บเกี่ยวพืชผลบางชนิด และ 3. ขึ้นไปเพื่อแสดงสัญลักษณ์บางประการ
โดยทางอุทยานฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 4 ชุดติดตามไปตั้งแต่เมื่อ 3 วันก่อน พร้อมกำชับให้ทุกคนปฎิบัติตามกฏหมายด้วยความละมุนละม่อม ถ้าเขายังไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมายก็ให้พาลงมา
มานะ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจพื้นที่ พบว่ามีการสร้างกระท่อม 1 หลังบริเวณผาใหญ่ ซึ่งอยู่ตอนเหนือของหมู่บ้านบางกลอย นอกจากนี้พบการปลูกข้าวจำนวน 10 ไร่บริเวณใกล้ชายแดน โดยทางอุทยานฯ มีแผนส่งกำลังเข้าไปตรวจสอบว่ามีเป็นการบุกรุกพื้นที่หรือไม่ อย่างไร
ขณะที่วันนี้ (15 ม.ค.) เฟซบุ๊ก ภาสกร จำลองราช บรรณาธิการสำนักข่าวชายขอบ โพสต์ข้อความว่า เมื่อช่วงเช้าได้โทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก นิรันดร์ พงษ์เทพ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย เล่าว่า มีชาวบ้านไปร่วมกันประมาณ 30-40 คน และไปทั้งครอบครัว โดยผู้ใหญ่บ้านเข้าใจว่า ชาวบ้านคงตั้งใจจะกลับไปอยู่พื้นที่เดิมที่เคยอยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ
“ผมถามว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพกลับไปคืออะไร ผู้ใหญ่นิรันดร์ตอบว่า อยู่ที่นี่เขาก็อดตาย ยิ่งโควิด-19 ระบาดรอบสอง มีกลุ่มเยาวชนกลับกันมาเยอะ เพราะตกงานจากในเมือง ถ้าเขาอยู่เฉย ๆ ก็อดตาย ขณะที่ชาวบ้านเดิมก็ไม่รู้ทำอะไรเพราะแทบไม่มีที่ดินทำกิน”
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวด้วยว่า ถ้ารู้ก่อนก็จะห้าม แต่ชาวบ้านทำกันเงียบ ๆ เพราะกลัวข่าวจะหลุดออกไป โดยเชื่อว่าทางอุทยานฯ จะไม่ทำอะไรเกินอำนาจหน้าที่ หลังจากส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตามหลายชุด และเห็นว่าอยากให้มีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
The Active สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปยังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระบุว่า กำลังรอเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปตามกลับลงมา ซึ่งคาดว่าจะเดินทางลงมาถึงภายในวันนี้ และจะมีการชี้แจงข้อมูลอีกครั้ง
