การศึกษาราคาไม่ถูก: เมื่อต้นทุนชีวิตเราไม่เท่ากัน

“อุ่ย 900 บาท ไม่แพงเลย ถูกมาก”

หากประโยคนี้ ไม่ใช่คำตอบของ ‘ผู้จัดการระบบ TCAS’ เกี่ยวกับค่าสมัครเลือกอันดับสอบเข้ามหาวิทยาลัยยุคโควิด-19 สังคมอาจละความสนใจ แต่เพราะเป็นเสียงจากคนทำงานในภาคการศึกษา จึงเกิดคำถามต่อมาว่า หากใบเบิกทางการเรียนต่อมีมูลค่า แล้ว “ใบปริญญา” จะเป็นของใครได้บ้าง?

The Active พบว่า โอกาสทางการศึกษาที่เหลื่อมล้ำ ส่งผลให้คนเริ่มต้นชีวิตไม่เท่ากัน เมื่อระบบไม่ได้บังคับให้เข้าเรียนอุดมศึกษา คนมีศักยภาพ แต่ขาดทุนทรัพย์ในกระเป๋า ก็อาจไม่ได้เข้าไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย


[1.] โอกาสทางการศึกษากับราคาที่ต้องจ่าย

เฉพาะต้นทุนขั้นต่ำเพื่อก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยขั้นแรกในระบบคัดเลือกกลาง TCAS ปีการศึกษา 2565 ต้องมีค่าสมัครสอบประมาณ 1,300 – 1,500 บาทเป็นอย่างน้อย เพราะแต่ละคณะใช้เกณฑ์คัดเลือกไม่เหมือนกัน ราคาที่ต้องจ่ายจึงต่างกันตามรายวิชาที่ต้องสอบ

GAT-PAT วิชาละ 140 บาท

GAT ความถนัดทั่วไป
PAT 1 คณิตศาสตร์
PAT 2 วิทยาศาสตร์
PAT 3 วิศวกรรมศาสตร์
PAT4 สถาปัตยกรรมศาสตร์
PAT 5 วิชาชีพครู
PAT 6 ศิลปกรรมศาสตร์
PAT 7.1 – 7.7 ภาษาต่างประเทศ
(เลือกสมัครได้สูงสุด 15 วิชา จาก 23 วิชา)

9 วิชาสามัญ วิชาละ 100 บาท

ชีววิทยา ฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์ทั่วไป ภาษาไทย สังคมศึกษา คณิตศาสตร์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) คณิตศาสตร์ 2 (พื้นฐาน) ภาษาอังกฤษ เคมี

เลือกสมัครอันดับรอบแอดมิชชันได้สูงสุด 10 อันดับ

อันดับ 1 ค่าสมัคร 150 บาท
อันดับ 2 ค่าสมัคร 200 บาท
อันดับ 3 ค่าสมัคร 250 บาท
อันดับ 4 ค่าสมัคร 300 บาท
อันดับ 5 ค่าสมัคร 400 บาท
อันดับ 6 ค่าสมัคร 500 บาท
อันดับ 7 ค่าสมัคร 600 บาท
อันดับ 8 ค่าสมัคร 700 บาท
อันดับ 9 ค่าสมัคร 800 บาท
อันดับ 10 ค่าสมัคร 900 บาท


[2.] คนรวยมีโอกาสเรียนต่อมากกว่าคนจน

ปัจจุบัน ไทยมีเด็กและเยาวชนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานประมาณ 13 ล้านคน กว่า 1.17 ล้านคน มีฐานะยากจนโดยมีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนเดือนละ 1,021 บาท และมากกว่า 730,000 คน มีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนเดือนละ 1,358-2,700 บาท

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยสถิติอัตราการเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรี และ ปวส. ของนักเรียนหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ระหว่างปี 2552-2562 พบว่า นักเรียนกลุ่ม “ฐานะดี” 10% แรก มีโอกาสเรียนต่อมากกว่านักเรียนกลุ่ม “ยากจน” 10% รั้งท้าย มากกว่า 10 เท่า ยกตัวอย่างปี 2562 นักเรียน 10% ที่ “ฐานะดี” เข้าเรียนปริญญาตรี และ ปวส. 65 คน จาก 100 คน ขณะที่นักเรียน 10% ที่ “ยากจน” ได้เข้าเรียนปริญญาตรี และ ปวส. เพียง 5 คน จาก 100 คน


[3.] โอกาสเรียนต่อมากกว่า รายได้จึงต่างกัน

จริงอยู่ที่การประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ได้วัดคุณค่าด้วยวุฒิการศึกษา แต่หากคุณเกิดมามีโอกาสน้อยกว่าเพื่อน ๆ หนทางในการเริ่มต้นสร้างมูลค่าในชีวิตคือ “การเรียน” ให้มีวุฒิการศึกษาสูงที่สุด เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงรายได้ในระบบมากที่สุด

ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดข้อมูลปี 2544-2563 พบว่า ค่าจ้างแรงงานไทยตามวุฒิการศึกษา โดยเฉลี่ยหากสำเร็จการศึกษาต่ำกว่าประถมศึกษา จะได้ค่าแรงอยู่ที่เดือนละ 7,712.03 บาท แต่ถ้ามีวุฒิปริญญาตรี จะอยู่ที่ 23,832.95 บาท และปริญญาเอก 55,102.03 บาท นั่นหมายความว่า การศึกษาที่ต่างกัน ทำให้คนมีรายได้ไม่เท่ากัน


[4.] รายได้ต่างกัน โอกาสขยับฐานะจึงต่างกัน

“การศึกษา” คือประตูแห่งโอกาสในการขยับฐานะทางสังคมของคนต่างรุ่น ธนาคารโลกพบว่า เด็กไทยที่เกิดในครอบครัวมีฐานะอยู่ “ครึ่งล่าง” ของสังคมไทย มีโอกาสขยับฐานะมาอยู่ “ครึ่งบน” ได้เพียง 35% ขณะที่เด็กไทยที่เกิดในครอบครัว “รวยที่สุด 25% บน” มีโอกาสจะขยับฐานะลงไปอยู่ใน “ครึ่งล่าง” ของสังคมเพียงแค่ 20% หากคนวัยเรียน ไม่มีโอกาสเรียน ก็ยากจะหนีพ้นวงจรความยากจน ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า

เมื่อการศึกษาราคาไม่ถูก ขณะที่ต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วอะไรคือทางเลือกสู่การสร้างคนให้เท่ากันในสังคม? The Active พบว่า คำตอบคือ “การศึกษา” ที่ควรเป็นพื้นฐานแห่ง “รัฐสวัสดิการ” ให้โอกาสทุกคนเริ่มต้นชีวิตได้อย่างเท่าเทียม แต่เป็นเพราะที่ผ่านมาเด็กไทยไร้ศักยภาพ หรือระบบคัดพวกเขาออกจากโอกาสกันแน่ คำตอบอยู่ที่ทุกคน


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Author

Alternative Text
AUTHOR

ศศิธร สุขบท

มนุษย์ช่างฝัน ชอบสร้างสรรค์ข่าวเชิงบวก มีพรรคพวกชื่อจินตนาการ แสนสุขกับงานขับเคลื่อนสังคม

Alternative Text
AUTHOR

กษิพัฒน์ ลัดดามณีโรจน์

ผู้รู้ | ผู้ตื่น | ผู้แก้งาน ...กราบบบส์