คนไทยกินหวานแค่ไหน ทำไมต้องกังวล ?

ความสะดวกของการสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนไทยเข้าถึงการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงขึ้น จากข้อมูลด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2560–2562 พบว่า คนไทยดื่มเครื่องดื่มผสมน้ำตาลเฉลี่ย 3 แก้วต่อวัน และบริโภคน้ำตาลจำนวนถึง 2.5–2.6 ล้านตันต่อปี 

นอกจากนี้สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ยังพบว่า คนไทยบริโภคเกลือโซเดียมมากถึง 3,636 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน ซึ่งเกินเกณฑ์ที่กำหนด คือ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน 

สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำรวจทัศนคติและพฤติกรรมในการบริโภคอาหารของคนไทยผ่านช่องทางออนไลน์ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 จากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน ซึ่งครอบคลุมกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยพบพฤติกรรมการสั่งเครื่องดื่ม น้ำหวาน ชา กาแฟ ของคนไทยพบว่ามีเพียง 6% ที่สั่งไม่หวานเลย 28% สั่งหวานน้อย 51% ดื่มตามที่ร้านชงให้ และ 14% สั่งเพิ่มความหวาน 

หวาน

กรมอนามัยชี้ว่าการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มทั้งหวาน และเค็มเกินเกณฑ์ที่กำหนดของคนไทย ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยสาเหตุการตาย 3 อันดับแรก ได้แก่ 

  • โรคมะเร็ง 123.3 คน ต่อประชากรแสนคน 
  • โรคหลอดเลือดสมอง 47.1 คน ต่อประชากรแสนคน
  • โรคหัวใจขาดเลือด 31.8 คน ต่อประชากรแสนคน 

สถานการณ์โรคดังกล่าวเป็นที่น่ากังวลจนกระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนนโยบายหวานน้อยสั่งได้ ผนึกกำลังห้างสรรพสินค้า คาเฟชื่อดังรณรงค์คนไทยใส่ใจสุขภาพ แนะคนไทยทานหวานพอดี ลดโรคอ้วน ตั้งเป้าหมายมีร้านหวานน้อยสั่งได้ในแพลตฟอร์ม จำนวน 2,400 ร้าน ครอบคลุมทุกจังหวัด ตั้งเป้าหมาย ให้ประชาชนจะมีการสั่งเครื่องดื่มหวานน้อยเพิ่มขึ้น 60%

ขณะที่ วิถีชีวิตในปัจจุบันของคนไทย ที่สั่งอาหารผ่าน Food delivery มากขึ้นเนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และมีโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ มากมาย ซึ่งตรงกับข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ในปี 2564 ที่พบว่า คนไทยสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์ม Food delivery มากกว่าวันละ 330,000 ครั้ง หรือปีละกว่า 120 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปี 2562 ช่วงก่อนโควิดระบาด ที่มีจำนวนราว 35-45 ล้านครั้ง 

ล่าสุดกรมอนามัย จับมือกับ แพลตฟอร์มออนไลน์ Food delivery ชื่อดัง ให้มีช่องทางการเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น และเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ในการเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่ดี เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพื่อให้มีสุขภาพดีแบบยั่งยืน 

 สีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนา และให้บริการแอปพลิเคชัน “Robinhood” กล่าวว่า หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนหันมาสั่งอาหารผ่านช่องทาง Food delivery มากขึ้นการร่วมมือกับ กรมอนามัย จึงเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนโครงการหวานน้อยสั่งได้ และ เมนูชูสุขภาพ โดยเพิ่มทางเลือกให้ร้านอาหารร้านค้า ที่มีเมนูหวานน้อย 5% และอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัยนำมาไว้บนแอปพลิเคชัน Robinhood เพื่อให้ลูกค้าสั่งอาหารเพื่อสุขภาพง่าย ๆ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มมีทางเลือก และสามารถเข้าถึงอาหาร และเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ สอดรับกับเทรนด์การเติบโตของอาหารเพื่อสุขภาพในปัจจุบันอีกด้วย

เลิกติดหวานทำอย่างไร ?

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินน้ำตาล เริ่มต้นได้จากเครื่องดื่มต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เมื่อต้องการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล เช่น ชานม ชาเขียว กาแฟโกโก้ หรือ นมเย็น แนะนำให้สั่งสูตรหวานน้อย เพื่อลดปริมาณน้ำตาลที่จะได้รับในแต่ละแก้ว หรือลดขนาดเครื่องดื่มเป็นขนาดเล็กลง 

ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ โดยเลือกแบบที่ไม่เติมน้ำตาลเป็นดีที่สุด รองลงมาคือเติมน้ำตาลไม่เกิน 5% หากน้ำตาลเกิน 10% ถือว่าหวานจัด ควรต้องหลีกเลี่ยงทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายคือ น้ำเปล่า โดยควรดื่มอย่างน้อย 6 – 8 แก้วต่อวัน และควรกินอาหารให้ครบถ้วน หลากหลาย และมีคุณค่าทางโภชนาการ เน้นการกินผัก ผลไม้สดในทุกมื้ออาหาร   

7 วิธี ลดหวานแบบไม่ทรมานใจ

  1. ลดหวานแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักดิบ
  2. ลดการซื้อขนมหวาน หรือเครื่องดื่มน้ำตาลสูง
  3. น้ำเปล่าลดความอยากของหวาน
  4. กินผักใบเขียว ลดอาการโหยของหวาน
  5. กินอาหารให้หลากหลาย ก็ช่วยลดอาการอยากหวานได้
  6. ลดหวานได้ง่าย ๆ ด้วยการจดบันทึก
  7. หากิจกรรมดึงความสนใจออกจากของหวาน

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS

Alternative Text
GRAPHIC DESIGNER

วิฑิตา โอชวิช

มนุษย์นอนน้อยแต่นอนนะ มีอีกชื่อคือแฮปปี้เพราะคนต่างชาติเรียกชื่อปลื้มไม่ได้ ผู้ปกครองประชาชนชาวก้อน เชื่อว่าการส่งต่อความสุขให้ผู้อื่นจะทำให้เรามีความสุขด้วยเช่นกัน แต่อย่าลืมให้ความสุขกับตัวเองด้วยนะ