สภาผู้บริโภค จี้ยุติ ‘ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯ’

ยื่นหนังสือต่อ ‘ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ ชี้ กทม. ลัดขั้นตอน ติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก มองข้ามคนตัวเล็ก ขอให้กลับไปรับฟังความเห็นใหม่แต่ต้น ขีดเส้น 30 วัน หากไม่คืบ ขู่ดำเนินการตามกฎหมาย

วันนี้ (19 ก.ค. 67) ก้องศักดิ์ สหะศักดิ์มนตรี อนุกรรมการด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และเครือข่ายชุมชน เข้ายื่นหนังสือต่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรียกร้องให้ยกเลิกการรับฟังความเห็นในโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) ระบุถึงปัญหาการรับฟังก่อนหน้านี้ ไม่สะท้อนเสียงผู้อยู่อาศัยจริง และพบพิรุธ จึงเสนอให้เริ่มกระบวนการรับฟังความคิดเห็นใหม่แต่ต้น โดยไม่ลัดขั้นตอนใด ๆ

ในเอกสารข้อเรียกร้องดังกล่าวระบุใจความว่า การวางผังเมืองรวมที่ดำเนินการอยู่นั้น ขัดต่อพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เพราะการรับฟังความคิดเห็นไม่ครบถ้วนและขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน เมื่อสืบค้นจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว เครือข่ายได้ให้ข้อสังเกตต่อการดำเนินงานเพื่อวางผังเมืองรวมใหม่ ดังนี้

  • ผังเมืองในครั้งนี้เน้นการเพิ่มความหนาแน่นเข้าสู่จุดศูนย์กลางของเมือง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อาทิ ปัญหาการจราจร ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาที่เกิดจากมลภาวะฝุ่น PM2.5 ขาดการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มคนผู้มีรายได้น้อย
  • การรับฟังความคิดเห็นไม่เป็นไปตามขั้นตอนของประกาศคณะกรรมการผังเมือง ทั้งยังนำ “ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับเดิม” ที่จัดทำไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 มาใช้เป็นสารตั้งต้น ขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย
  • การรับฟังความคิดเห็นฯ ไม่ได้มีการให้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการที่ประชาชน เพื่อตระหนักรู้ถึงผลกระทบต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม ขาดการชี้แจงแนวทางการเยียวยาความเดือดร้อน จึงทำให้ประชาชนไม่สามารถที่จะร่วมแสดงความคิดเห็นได้รอบด้าน
  • กทม. มีประชากรที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 5.5 ล้านคน และยังมีประชากรแฝงไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านคน แต่กลับขาดการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง เน้นแต่ช่องทางออนไลน์ จึงทำให้การรับฟังความเห็นตกหล่น โดยมีคนเข้าแสดงความเห็น นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – ปัจจุบัน มีเพียงประมาณ 20,000 คน หรือ 0.39% ของประชากรเท่านั้น
  • การตัดถนน ขยายถนนมีความคลุมเครือ และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง สร้างความวิตกกังวล แต่ยังมีผู้อาศัยจำนวนมากยังมิได้มีโอกาสทราบข้อมูล ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินของประชาชน จากการเวนคืนที่ดิน

ขอให้หยุดกระบวนการของผังเมืองที่กระทำอยู่ และกลับมาจัดทำผังใหม่ที่รับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่สุด ความล้มเหลวของผังเมืองฉบับนี้ เราทักท้วงมาหลายปีแล้ว…มันต้องมีเสียงจากพวกเราเข้าไปให้ความเห็น แต่ถามทุกคนในที่นี้หรือที่ถามมาทั้งหมด ร้อยละร้อย ไม่เคยมีส่วนร่วมในกระบวนการของ กทม. เลย

ก้องศักดิ์ สหะศักดิ์มนตรี

ชี้ขาดการมีส่วนร่วม – ขีดเส้นเริ่มกระบวนการใหม่ ใน 30 วัน

ข้อเรียกร้องของสภาผู้บริโภค และเครือข่ายชุมชน คือ ให้กรุงเทพมหานครยุติการรับฟังความคิดเห็นฯ ประชาชนใน 50 เขต และเริ่มกระบวนการรับฟังความคิดเห็นใหม่ โดยจัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึงก่อนการจัดทำร่างผังเมืองรวม หาก กทม. ไม่แก้ไขหรือยุติการกระทำดังกล่าวภายใน 30 วัน (นับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2567) สภาผู้บริโภคและเครือข่ายประชาชนอาจต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

การยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ กทม. เพื่อคัดค้านการเดินหน้าร่างผังเมืองฉบับดังกล่าว มีถึง 20 เครือข่ายชุมชนเข้าร้องเรียนปัญหากับทางผู้ว่าฯ กทม. โดยตรง ซึ่งแต่ละชุมชนต่างได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันไป เช่น ชุมชนในย่านอารีย์ – ราชครู ได้รับผลกระทบอย่างหนักต่อการตัดถนนใหม่จนรุกล้ำกรรมสิทธิ์บ้านเรือน ชุมชนคลองเตย ที่เรียกร้องสิทธิในที่ดินเพื่อคนจนโดยใช้ที่ดินของหน่วยงานรัฐมาสร้างประโยชน์ หรือ ชุมชนบึงคู้บอน ที่เข้ามาสอบถามว่าเหตุใดจุดรับน้ำแก้มลิงหายไปไหนจากผังเมือง แต่โดยสรุปแล้วทุกชุมชนต่างมองเห็นไปในทางเดียวกันว่า เหตุที่ร่างผังเมืองรวมใหม่มีปัญหามาก เพราะขาดการรับฟังเสียงอย่างมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น

‘ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ รับปากนำข้อร้องเรียนไปพิจารณาต่อ

ด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้เข้ารับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยตรง และรับปากนำทุกข้อร้องเรียนไปพิจารณาต่อ โดยมองว่าการที่แต่ละชุมชนออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนเช่นนี้ จะเป็นนิมิตหมายที่ดีในการสร้างเมืองอย่างมีส่วนร่วม แต่ขอว่าอย่ารอทำผังเมืองใหม่ เพราะหลายปัญหาไม่ใช่จะแก้ได้ด้วยผังเมืองเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัยการแก้ไขจากภาคส่วนอื่นร่วมด้วย

แต่ทางเครือข่ายที่ยื่นหนังสือในวันนี้ ยืนกรานว่ารอร่างผังเมืองใหม่ได้ และขอให้ผู้ว่าฯ รับปากเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะนำปัญหาและข้อร้องเรียนให้ยุติ นำไปดำเนินการต่อ

“ไม่มีลายลักษณ์อักษรหรอก คือต้องรับข้อร้องเรียนไปแล้วดำเนินการตามกฎหมาย แล้วก็รับฟังความเห็น คือผมให้เป็นลายลักษณ์อักษรไม่ได้ ผมไม่มีอำนาจ กระบวนการคือรับฟังความเห็น แล้วส่งต่อให้กรมโยธาฯ และหน่วยงานอื่น ๆ อีก ผมรับปากว่าจะควบคุมคุณภาพการจัดทำร่างผังเมืองได้ แต่ผมรับปากไม่ได้ว่าผมจะทำตามที่เราร้องขอ”

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active