วอน นายกฯ เร่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน พร้อมนั่งหัวโต๊ะ จัดประชุมทันที
วันนี้ (15 ต.ค. 67) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ยังคงปักหลักชุมนุมด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ที่มี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่ยังไร้การตอบรับ ขณะที่ การส่งตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาลมาเจรจาก็ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง
นั่นทำให้ทันทีที่ นายกรัฐมนตรี มาถึงทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มพีมูฟ ได้ตะโกนเรียก เพื่อขอพบนายกฯ พร้อมทั้งเขย่าประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล ระบุถึงข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ คือ
- ขอให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพีมูฟ
- ขอให้รองนายกฯ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาพีมูฟทั้ง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ ประเสริฐ จันทรวงทอง ร่วมเป็นรองประธานฯ และมีคณะกรรมการจากอีก 7 กระทรวง
- หลังลงนามตั้งคณะกรรมการชุดนี้แล้ว ขอให้มีการประชุมภายใน 7 วัน
จำนงค์ หนูพันธ์ ที่ปรึกษาพีมูฟ บอกว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ยังไม่ได้รับการตอบรับ มีความคืบหน้าเพียงการที่รัฐบาลส่ง สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง มารับหนังสือ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องอื่น ถ้ายังไม่มีความชัดเจน ก็จะอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป เพราะกลับบ้านไปก็ไม่มีที่ทำกิน แถมยังโดนคดีด้วย
“คงต้องใช้ทำเนียบฯ เป็นที่อยู่อาศัย ไปเรื่อย ๆ จนกว่ารัฐบาลจะเห็นว่าความเดือดร้อนของพี่น้องมีจริง ไม่ใช่ว่าตามแกนนำมา พี่น้องก็แสดงตัวตนจริงว่าเขาเดือดร้อน”
จำนงค์ หนูพันธ์
ที่ปรึกษาพีมูฟ บอกด้วยว่า นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมอาเซียน เป็นแนวร่วมในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เพราะฉะนั้นก็ต้องเข้าใจเรื่องเหล่านี้ องค์การสหประชาชาติ (UN) ก็จ้องมองอยู่ แต่ภาพที่เกิดขึ้นในประเทศไม่ใช่แบบนั้น จึงไม่อยากให้นายกฯ เสียหายในเรื่องเหล่านี้
“พวกเราพร้อมเป็นกำลังใจ และอยากให้นายกฯ แก้ปัญหาด้วยการลงนาม และนั่งเป็นประธานมอบหมายให้รองนายกฯ ดูแลพี่น้องประชาชน”
จำนงค์ หนูพันธ์
สำหรับปัญหาที่กลุ่มพีมูฟ เรียกร้องมีหลายเรื่อง ตัวอย่างเช่น ปัญหาสถานะบุคคลของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ซามาบี จันทร์หอม ชาวไทยพลัดถิ่น อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตกหล่นการสำรวจ ไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ลูกชายที่เกิดมาวัยเพียง 4 เดือนซึ่งเธอพาดูแลในที่ชุมนุม กลายเป็นเด็กไร้สัญชาติ ท่ามกลางความยากลำบากในการยืนยันสิทธิ์ความเป็นคนไทย ซึ่งกระบวนการพิสูจน์ต่าง ๆ ที่ซับซ้อน
แม้เธอจะเป็นที่ยอมรับของเพื่อนบ้าน แต่ข้อระเบียบต่าง ๆ ยังฝ่าด่านไปไม่ได้ จึงเกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิต มีสิทธิ์ไม่เท่ากับคนทั่วไป ไม่ได้รับสวัสดิการจากรัฐ ไม่มีความมั่นคงในที่ดินที่อยู่อาศัย ไม่สามารถการถือครองสิทธิ์ในทรัพย์สินเหมือนอย่างประชาชนคนอื่น
ขณะที่อีกปัญหาเร่งด่วนคือ ปัญหาที่ดินทำกินของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติ โดย ยุพิน งามยิ่ง ชาวกะเหรี่ยง บ้านป่าผาก อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มีที่ทำกินอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติพุเตย มีกรณีพิพาทยืดเยื้อ เพราะชาวบ้านบอกว่าอยู่อาศัยในพื้นที่แถบนี้มานานหลายชั่วอายุคน แต่วันดีคืนดีกลับถูกละเมิดสิทธิทำกิน เมื่อพื้นที่สวนป่าที่ให้เอกชนเช่าในปัจจุบันมาทับที่ดินทำกินของชาวกะเหรี่ยงเดิม 37 ครอบครัว
ขณะที่ในวันนี้ ผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการ เผาพริกเผาเกลือ ตามความเชื่อว่า จะเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่บดบังจิตใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จนทำให้มองไม่เห็นความทุกข์ร้อนและปัญหาของประชาชนที่มาเรียกร้อง และปักหลักชุมนุมอยู่ข้างรั้วทำเนียบรัฐบาล
สำหรับการดำเนินกิจกรรมของพีมูฟตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ยกระดับการเคลื่อนไหวจากเบาไปหาหนัก โดยตลอดเวลาการทำกิจกรรม ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานงานจากตัวแทนรัฐบาลและฝ่ายการเมืองแต่อย่างใด ทางฝั่ง ตำรวจก็ยังคงตรึงกำลังปิดทางเข้า-ออกบริเวณที่ชุมนุมเดิม โดยยังไม่มีการชี้แจงว่า การปิดทางเข้า-ออกบริเวณที่ชุมนุมเช่นนี้ เป็นไปตามคำสั่ง นโยบาย หรือข้อกฎหมายใด
