กังวลกลุ่มทุน แทรกแซง กมธ. ค้านตั้ง ‘กองทุนอากาศสะอาด’

เครือข่ายแรงงาน จี้ กมธ.อากาศสะอาด ทบทวนการทำหน้าที่ของที่ปรึกษา กมธ. ตัวแทนภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม หวั่นตั้งแง่คัดค้าน ‘กองทุนอากาศสะอาด’ มากเกินไป สะท้อนขาดความรับผิดชอบ หวังแต่ผลกำไร บนความเดือดร้อนประชาชน

วันนี้ (24 พ.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา เครือข่ายสหพันธ์แรงงาน ยื่นหนังสือขอให้ทบทวนบทบาทการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. (กมธ.กฎหมายอากาศสะอาด) โดย วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์. โฆษกคณะกรรมาธิการ กฎหมายอากาศสะอาด เป็นผู้รับหนังสือ 

สาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) บอกว่า มีประเด็นที่เป็นข้อกังวลของประชาชนที่เฝ้าติดตามการทำหน้าที่ของกรรมาธิการอากาศสะอาดฯ โดยเฉพาะบทบาทของที่ปรึกษากรรมาธิการฯ ที่มาจากภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม ซึ่งอาจรับฟังความเห็นค่อนข้างมากจนเกินไป จนเสมือนเป็นการด้อยค่าบทบาทของกรรมาธิการตัวจริงลงไป และยังแสดงออกอย่างชัดเจนถึงการคัดค้านการจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาด ซึ่งต้องมีการจัดเก็บรายได้เข้าสู่กองทุน เพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการอากาศสะอาดให้เกิดประสิทธิภาพ โดยกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม

กฎหมายอากาศสะอาด จึงควรกำหนดทั้งมาตรการเชิงบังคับ ลงโทษ และมาตรการเชิงจูงใจ เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับอากาศสะอาด 

“ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญต่ออากาศสะอาด และสุขภาพของประชาชน ย่อมไม่คัดค้านการจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาด ในขณะที่ ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่คัดค้านการจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาด สะท้อนให้เห็นถึงการไม่รับผิดชอบและคิดแต่การได้กำไรอยู่บนปัญหาความเดือดร้อน ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน” 

สาวิทย์ แก้วหวาน

ส่วนการคัดค้านการจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาด เพราะขัดกฎหมายวินัยการเงินการคลัง สาวิทย์ เชื่อว่า เป็นการขาดความเข้าใจอย่างถูกต้องในหลักการของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง และมองไม่เห็นถึงความจำเป็นของการต้องมีกองทุนอากาศสะอาด ทั้ง ๆ ที่การพึ่งพางบประมาณแผ่นดินด้านสิ่งแวดล้อมมีข้อจำกัดเพราะได้รับส่วนแบ่งที่น้อยมาก 

โดยกองทุนสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ ก็ยังเป็นกองทุนในงบประมาณ ซึ่งก็ไม่เพียงพอ ไม่ทันสมัย ไม่ทันต่อสถานการณ์ สำหรับการจัดการปัญหาด้านคุณภาพอากาศอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นเรื่องซับซ้อนและต้องใช้เงินจำนวนมาก แม้ความกังวลดังกล่าวจะมาจากบทเรียนสภาพปัญหาในปัจจุบันของการบริหารจัดการกองทุนนอกงบประมาณประเภทอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย แต่ก็ไม่ควรใช้เป็นเหตุผลเพื่อขัดขวาง ปิดประตูตายว่าไม่ควรจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาด

ขณะที่ รศ.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม รองประธาน กมธ.กฎหมายอากาศสะอาด ระบุว่า ทราบถึงความกังวลของเครือข่ายประชาชนถึงความจริงใจของ กมธ.กฎหมายอากาศ ว่าจะทำจริง หรือแค่ได้ชื่อว่าทำให้มีกฎหมายอากาศสะอาดออกมา แต่เนื้อหาข้างในไม่มีอะไรที่จะแก้ปัญหาประชาชนได้ 

“ขอปลอบประชาชนว่าอย่าน้อยใจ เราจะช่วยกันประคับประคอง ให้ไปตลอดรอดฝั่งและพลังประชาชนที่อยู่รอบหน้าก็พร้อมรับฟัง ส่วนจะได้ผลในการปกป้องประชาชนมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความเข้าอกเข้าใจของภาคทุน จะมีมากน้อยแค่ไหนด้วย ส่วนพลังของประชาชนก็สามารถเป็น Watch dog ติดตามได้ตลอดเวลา”

รศ.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม