คนไทยแห่ติดแฮชแทค #แบนเกาหลี อีกระลอก เหตุเจอคอมเมนต์ดูถูกเชื้อชาติ เหยียดไทย หลังรัฐสภาไทยผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซ้ำเติมสถานการณ์สถิตินักท่องเที่ยวไทยในเกาหลีใต้ครึ่งปีแรก ลด 20%
วันนี้ (23 มิ.ย.2567) #แบนเกาหลี ยังคงติดเทรนด์ X กรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์หลังรัฐสภาไทยผ่านร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หากย้อนไปเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา โลกโซเชียลมีเดียของไทยแห่กันติด #แบนเกาหลี เพื่อรณรงค์คว่ำบาตรเกาหลีใต้ เนื่องจากการใช้คำพูดเหยียดเชื้อชาติและเลือกปฏิบัติต่อคนไทยและชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่น ๆ เป็นผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง เมษายน 2567 ลดลงถึง 21.1% (กราฟสีแดงของรูปด้านล่าง) เมื่อเทียบกับยอดสถิติปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกัน สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีเคยตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ล้านคนต่อปี แต่กลับมีความกังวลถึงจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ลดฮวบ ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการท่องเที่ยวมายังเกาหลี
ระบบ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) หรือ ระบบขออนุญาตเดินทางเข้าเกาหลี กำหนดให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าจำนวน 112 ประเทศต้องลงทะเบียนขออนุมัติเข้าประเทศ แต่กลับมีหลายชาติที่ได้รับการยกเว้นระบบดังกล่าว เช่นญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ แต่คนไทยกลับไม่ได้สิทธินั้น จนนำมาสู่เหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนถูกกักตัวอยู่ที่ ตม.สนามบินเกาหลี ถูกเลือกปฏิบัติ และถูกส่งตัวกลับหลายราย จนเกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่คนไทย
สำนักข่าว The Korea Times รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้เน้นย้ำว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นแหล่งผู้อพยพผิดกฎหมายอันดับต้น ๆ ของเกาหลีใต้ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวระบุว่า แม้ว่าปี 2567 นี้จะเป็นปีแห่งการเยือนเกาหลี-ไทย และได้มีการขอยกเว้นการบังคับระบบ K-ETA ชั่วคราวในปีนี้กับคนไทยแล้วก็ตาม แต่กระทรวงยุติธรรมยังคงยืนหยัดในเหตุผลดังกล่าว
กระแส #แบนเกาหลี กลับโหมหนัก เจอเหยียดเพศ-เชื้อชาติ
ล่าสุด แฮชแท็ก #แบนเกาหลี กำลังกลับมาเป็นกระแสอีกครั้งใน X หลังจากที่มีชาวเกาหลีใต้จำนวนมากเริ่มใช้คำพูดเหยียดและดูถูกคนไทยกรณีร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านรัฐสภาในวาระ 3 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองไทยทั้งฟากเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม ยิ่งไปกว่านั้น สื่อเกาหลีที่เผยแพร่ข่าวการผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมก็ถูกผู้ชมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเช่นเดียวกัน เหตุหวั่นเป็นภัยคุกคามประเทศ
ผู้ใช้บัญชี X ในไทยหลายรายยังเปิดเผยถึงวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงการเหยียดเชื้อชาติต่อคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างกรณีที่ชายเกาหลีดูถูกหน้าตาหญิงชาวอินโดนีเซีย ทั้งยังยกตนข่มกว่าในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งในแฮชแท็ก #แบนเกาหลี ยังมีข้อความอีกจำนวนมากที่แสดงให้เห็นถึงการดูถูกคนไทยและชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยชาวเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมีหลายข้อความที่รณรงค์ให้คนไทยเลือกท่องเที่ยวในประเทศอื่นแทน เช่น จีน ญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียน