‘พีมูฟ’ ขู่ชุมนุมยืดเยื้อ จี้ ‘พัชรวาท’ เปิดเจรจาด่วน! หลัง ทส. คู่ขัดแย้งชาวบ้านมากสุด

แถลงการณ์พีมูฟ อ้าง รัฐบาลเพิกเฉยแก้ปัญหาประชาชน ระบุ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟ้องคดีชาวบ้านมากถึง 169 กรณี พบ 13 กรณีเร่งด่วน ชาวบ้านถูกไล่ที่ พร้อมเรียกร้องเดินหน้าโฉนดชุมชน ยืนยันชุมนุมไม่มีกำหนดกลับ จนกว่าปัญหาจะแก้ได้   

วันนี้ (5 ก.พ. 67) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ปักหลักชุมนุมบริเวณด้านหน้า ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล โดยครั้งนี้ กลุ่มพีมูฟประกาศชุมนุมแบบไม่มีกำหนด เพื่อทวงถาม และเจรจากับรัฐบาล แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน พร้อมผลักดันนโยบายสิทธิชุมชน การจัดการที่ดินและทรัพยากร

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสถานีนครบาลดุสิต ได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมย้ายจุดการชุมนุมจากหน้าทำเนียบ บริเวณประตู 4 ไปชุมชนุมบริเวณด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ภายในเวลา 12.00 น. วันนี้ โดยอ้างตามกฎหมายการชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 7 วรรคท้าย ตามคำสั่งกองบังคับตำรวจนครบาล วันที่ 2 ก.พ. 2567 ขอให้ออกประกาศห้ามชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาลในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร แต่ทางกลุ่มพีมูฟ ยืนยัน ปักหลักชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลต่อไป อย่างไม่มีกำหนด

ทั้งนี้กลุ่มพีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า เป็นเวลากว่า 3 เดือน ภายหลังได้มาปักหลักชุมนุมเป็นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน โดยมีข้อเสนอเชิงนโยบายทั้ง 10 ด้าน ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องปากท้อง, ที่ดินทำกิน, ที่อยู่อาศัย, สิทธิในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและภัยพิบัติ, สิทธิ สถานะบุคคล และประเด็นชาติพันธุ์ รวมถึงข้อเสนอว่าด้วยการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การกระจายอำนาจ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และ 16 ตุลาคม 2566  

“เราเห็นว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งเชิงนโยบายและรายกรณีของรัฐบาลชุดนี้ล่าช้า ไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับปากไว้กับประชาชน การกระทำตรงกันข้ามกับปากพูด เปิดทางให้ราชการใช้อำนาจกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรมไล่รุกชาวบ้าน ทั้งการดำเนินคดี ยึดที่ทำกิน ขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ดั้งเดิมของตัวเอง ซึ่งหายนะที่เกิดแก่ประชาชนคนยากคนจนเช่นนี้ ก็สืบเนื่องจากฝ่ายนโยบายมีความเพิกเฉย จิตใจที่เย็นชา และความหน้ามืดตาบอดจนมองไม่เห็นและไม่อาจรู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ร้อนของประชาชน”

แถลงการณ์พีมูฟ ยังระบุด้วยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าพบ ไม่เคยมอบนโยบายที่เป็นประโยชน์ และเป็นธรรมต่อการแก้ไขปัญหาคืนสิทธิ์ให้ประชาชน ซึ่งขณะนี้พีมูฟมีกรณีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากถึง 169 กรณี คิดเป็นจำนวนมากถึง 63.5% ของจำนวนกรณีปัญทั้งหมดในพีมูฟ และมีกรณีเร่งด่วนมากถึง 13 กรณี ที่ชาวบ้านกำลังถูกไล่ที่ จับกุมดำเนินคดี

ทั้งยังระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่กำกับดูแลโดย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งควบตำแหน่งประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขณะนี้ สคทช. กำลังพยายามทำลายแนวทางสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ หรือ โฉนดชุมชน โดยการแบ่งแยก ยุยงให้ประชาชนในพื้นที่ต้องแตกแยกในเรื่องแนวทางแก้ปัญหา เป็นเครื่องมือของหน่วยงานราชการอื่น ๆ ในการแย่งยึดที่ดินของประชาชน ด้วยการบีบให้คนจนต้องรับโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งพีมูฟมองว่า เป็นมรดกบาปจากรัฐบาล คสช.

กลุ่มพีมูฟ จึงประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก้

  1. เดินหน้าโฉนดชุมชน ยุติการคุกคามประชาชนด้วย คทช. โดยต้องเปิดประชุมคณะกรรมการโฉนดชุมชนและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ

  2. แก้ปัญหาเรื่องด่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยขอเปิดเจรจากับ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อหารือกรอบแนวทางการทำงานร่วมกันทั้งระบบรายกรณีและนโยบาย และหากไม่เปิดโอกาสให้ได้เข้าพบ ก็จะไม่ร่วมประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้

  3. ขอให้เปิดประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานต่อไป


Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active