‘บุหรี่ไฟฟ้า’ สู่ความเสี่ยง ‘ปอดอักเสบ’ สธ. สั่งเก็บข้อมูลผู้ป่วยทุก รพ.

กรมควบคุมโรค เผยข้อมูล หลังพบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรง ที่ รพ.บุรีรัมย์ มีประวัติการสูบบุหรี่ไฟฟ้า สั่งกองระบาดวิทยา เร่งเฝ้าระวัง สอบสวนโรค ในกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า

นพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ร่วมกับ พญ.ภาวิณี วงค์ประสิทธิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญโรงพยาบาลบุรีรัมย์ แถลงข่าวกรณีผู้ป่วยปอดอักเสบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้ารับการรักษา

พญ.ภาวิณี เปิดเผยว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเป็นโรคปอดอักเสบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือ โรค EVALI โดยมีอาการหอบเหนื่อย เหงื่อออกมาก และไอเป็นเลือด แพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อช่วยชีวิต จากการซักประวัติ พบว่า ผู้ป่วยสูบบุหรี่ไฟฟ้าควบคู่กับบุหรี่มวน และมีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวานและความดันโลหิตสูง ผลตรวจร่างกายพบฝ้าขาวในปอด แต่ไม่มีการติดเชื้อไวรัส เชื้อรา หรือแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม พบอาการคล้ายการขาดนิโคติน โรงพยาบาลจึงประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อดำเนินการสอบสวนโรค

ขณะที่ นพ.ชยนันท์ ระบุว่า กรมควบคุมโรคได้สั่งการให้กองระบาดวิทยาจัดทำระบบเฝ้าระวังและรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า โดยกำชับให้สถานพยาบาลซักประวัติการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างละเอียด หากพบผู้ป่วยเข้าข่าย ต้องรายงานในระบบทันทีและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบสวนและดำเนินการต่อไป

นพ.ชยนันท์ ยังย้ำว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายและอันตรายต่อสุขภาพ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าประกอบด้วยสารพิษ เช่น นิโคติน สารโลหะหนัก และสารเคมีปรุงแต่งอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการเสพติดและยากต่อการเลิกใช้ กรมควบคุมโรคจึงขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ให้เลิกใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพราะอาจก่อให้เกิดภาวะปอดอักเสบรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต

สำหรับ ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติผู้ป่วยปอดอักเสบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยยัง ไม่มีการรายงานตัวเลขเฉพาะเจาะจงในปี 2567 อย่างชัดเจน แต่กรมควบคุมโรคได้เน้นย้ำถึงความรุนแรงของโรคนี้ (เรียกว่า EVALI – E-cigarette or Vaping product use-Associated Lung Injury) ซึ่งเป็นภาวะอักเสบในปอดที่มีความเชื่อมโยงกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า โดย สารนิโคติน และ สารปรุงแต่งในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ถูกระบุว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าว สำหรับผู้ป่วยในกรณีนี้ มักมีอาการเช่น ไอ หายใจลำบาก หรือมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น หายใจล้มเหลว   

ขณะที่จำนวนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในปี 2564 มีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 78,742 คน (อายุ 15 ปีขึ้นไป) ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 709,677 คนในปี 2565 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าในช่วงหนึ่งปี โดยเยาวชนกลุ่มอายุ 15-24 ปีเป็นกลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active