“นพ.อุดม” หนุนยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. เป็น รพ.

ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข พร้อมเป็นคนกลางเชื่อม กทม. – กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าเพิ่มหน่วยบริการปฐมภูมิ 530-800 หน่วย ดึงคลินิกสหวิชาชีพเข้าระบบกองทุนสุขภาพ 3 กองทุน ชี้ ฝั่งธนฯ เหมาะทำแซนด์บ็อกซ์

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ที่ โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการปฏิรูประบบบริการปฐมภูมิในกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคระดับชาติและโรคอุบัติใหม่ (Big Rock 1) ภายใต้โปรแกรมยุติโรคระบาดด้วยนวัตกรรม

ศ.นพ.อุดม คชินทร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข กล่าวว่า มาเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานคร กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เกิดระบบสุขภาพปฐมภูมิ โดยจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้เห็นจุดอ่อนของหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร นอกจากนี้ยังพบว่ากรุงเทพมหานครมีช่องว่างระบบการส่งต่อจากหน่วยบริการปฐมภูมิ ไปสู่ทุติยภูมิ เพราะโรงพยาบาลส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ มีแต่เป็นหน่วยบริการตติยภูมิ ทำให้ประชาชนไปรวมกันอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นต้น 

“ที่สุดแล้วอาจมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่าควรยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 77 แห่ง ขึ้นเป็นหน่วยบริการทุติยภูมิ มากกว่าการสร้างโรงพยาบาลใหม่ โดยทำให้ศูนย์สาธารณสุข มีสถานะเทียบเท่ากับโรงพยาบาลชุมชนหรือโรงพยาบาลประจำอำเภอ​ในต่างจังหวัด”

สาธารณสุข กทม.
ศ.นพ.อุดม คชินทร

ศ.นพ.อุดม กล่าวอีกว่า ในส่วนของหน่วยบริการปฐมภูมิ จะต้องดึงสหวิชาชีพ เข้ามาเข้าสู่ระบบ ทั้งร้านขายยา และคลินิกชุมชนอบอุ่น หรือมีหน่วยบริการเพิ่ม จะทำให้เพิ่มปริมาณหน่วยบริการปฐมภูมิมากขึ้น และศูนย์บริการสาธารณสุขก็ขยับขึ้นไปเป็นหน่วยบริการทุติยภูมิ มีเตียงรับผู้ป่วยในอย่างน้อย 60 เตียง โดยโมเดลทั้งหมดอาจเริ่มต้นทำเป็นแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ในโซนเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุดคือ โซนฝั่งธนบุรี เพราะมีความหนาแน่นไม่มากเท่าฝั่งพระนคร 

ด้าน วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เป็นความท้าทายของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้งสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย หลังจากที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ตั้งเป้าเห็นการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขปฐมภูมิเป็นรูปธรรมภายใน 100 วัน โดยเฉพาะการทำพื้นที่แซนด์บ็อกซ์  

เบื้องต้นประเมินว่ากรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรีมีความหนาแน่นน้อย มีความพร้อมที่จะทำแซนด์บ็อกซ์ ระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ และระบบการส่งต่อ ส่วนเขตพระนครมีความหนาแน่นมาก ก็มีความท้าทายอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งยังมีโซนรอบนอกที่ยังมีการทำเกษตรกรรม ลักษณะพื้นที่ที่แตกต่างกันทำให้ต้องศึกษาการจัดการที่ต่างกันด้วย 

กทม.
วันทนีย์ วัฒนะ 

ข้อเสนอ 5 เด็นปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ กทม. 

สำหรับการประชุมดังกล่าว ตัวแทนสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ที่ได้ทำงานระดมความคิดเห็นการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ จากหลายภาคส่วนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ได้นำเสนอข้อเสนอทั้งหมด 5 ด้านดังนี้ 

1. การเข้าถึงบริการปฐมภูมิ

  • ปัจจุบันมีหน่วยบริการปฐมภูมิ เช่น คลินิกอบอุ่น​ 248 แห่ง แต่ควรมีหน่วยบริการปฐมภูมิลักษณะนี้​ 580​ แห่ง​ แต่ถ้ารวม​ประชากรแฝง​ ควรมี​ 80​0​ แห่ง จึงจะเพียงพอ​
  • จะทำอย่างไรจึงจะเพิ่ม​หน่วยบริการปฐมภูมิ ภายใต้ระบบประกันสังคม​ เนื่องจากในกรุงเทพฯ มีผู้ใช้สิทธิประกันสังคม 3.6​ ล้านคน​ สิทธิข้าราชการ​ 6​ แสนคน​ 
  • เพิ่มเครือข่าย​ คลนิกสหวิชาชีพ​ เช่น ร้านขายยา​ ศูนย์กายภาพ​ แพทย์แผนไทย​ คลินิก ฯลฯ ครอบคลุมงานเยี่ยมบ้าน และการควบคุม​โรค​ 

2. การพัฒนา​ระบบการเงิน​ สุขภาพ

  • การเพิ่มแหล่งทรัพยากร​ เช่น เก็บภาษียาสูบบำรุงท้องถิ่น​ 
  • การขึ้นทะเบียน​ประชากรแฝง​ ทั้งไทยและแรงงานข้ามชาติ​ ซึ่งคากว่ามีจำนวน 1 ล้านคน 
  • กระจายทรัพยากรจาก​โรงพยาบาลทุติยภูมิ​ สู่​ ปฐมภูมิ​ ให้ทั้ง​ 3​ กองทุนสุขภาพ​ ต้องลงไปที่​หน่วยบริการปฐมภูมิ 
  • แหล่งงบฯ ปฐมภูมิ​ อาจมาจากโครงการของกองทุนสุขภาพ​ กทม.​  ค่าบริการผู้ป่วยนอก​  การบริจาค สนับสนุน​ภาคเอกชน

3​. เพิ่มการเข้าถึง​ รพ.ทุติยภูมิ​ 

  • ประชาชนเข้าถึง ​Intermediate Care/ Longterm Care ในสถานพยาบาลใกล้บ้าน 
  • มีระบบส่งระหว่างหน่วยบริการปฐมภูมิ และโรงพยาบาลทุติยภูมิแบบไร้รอยต่อ 
  • หน่วยบริการสุขภาพ กทม.​ เชื่อมโยงกับ กระทรวงสาธารณสุข และโรงเรียนแพทย์ 
  • เพิ่มโรงพยาบาลขนาดทุติยภูม ขนาด 60 เตียงในพื้นที่ขาดแคลน 

4. การสนับสนุน​ภาคประชาชนในการจัดการสุขภาพ

  • อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.​)​  มีทั้งแค่หนึ่งหมื่นกว่าคน​ แต่ควรมีแสนคน และพัฒนาอสส. รูปแบบใหม่ ทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยบริการปฐมภูมิ
  • สร้างเครือข่ายการทำงาน ร่วมกับห้องพยาบาลสถานประกอบการ 
  • ให้เครือข่ายภาคประชาชนจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพ ขอเงินสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ กทม.  

5.​ การอภิบาล​ระบบสุขภาพในกรุงเทพมหานคร 

  • กทม. เป็นเจ้าภาพ​ ปฐมภูมิ​ เป็นหลัก​ โดยมีผู้ว่าเป็นประธาน​ (supreme coordinating body ที่​ เชื่อมโยง​ ประสาน หน่วยบริการรัฐ เอกชน กองทุนสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และภาคประชาชน)
  • ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขเป็นผู้จัดการพื้นที่สุขภาพในระดับเขต
  • ให้โรงพยาบาลเป็นผู้จัดการพื้นที่มากกว่าหนึ่งเขต
  • มีหน่วยงานภายนอก ให้ข้อเสนอแนะ 

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS