Kick off 26 ส.ค.นี้ เพิ่มช่องทางพิเศษ บริการประชาชนเข้าถึงข้อมูล นัดหมาย จองคิว ประสานส่งต่อ ขณะที่หน่วยบริการ สามารถตรวจสอบ รับรองสิทธิ์การเบิกจ่ายได้สะดวกขึ้น
วันนี้ (19 ส.ค. 67) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลเตรียมประกาศ Kick off โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร “30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า” ในวันที่ 26 ส.ค. นี้ โดย สปสช. ได้ดำเนินการจัดเตรียมความพร้อม เพื่อให้บริการประชาชนผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ในพื้นที่กรุงเทพมหานครไว้แล้ว
สายด่วน 1330 กด 6 ประชาชนสอบถามข้อมูล
นพ.จเด็จ กล่าวว่า นอกจากการเตรียมหน่วยบริการนวัตกรรมเพื่อรองรับการเข้ารับบริการในพื้นที่ กทม. แล้ว ยังเตรียมระบบสายด่วน สปสช. 1330 คอยให้บริการประชาชนที่จะเข้ารับบริการ เบื้องต้นได้เปิดช่องทางพิเศษ คือ “สายด่วน สปสช. 1330 กด 6” เป็นการเฉพาะประชาชน ตั้งแต่การให้บริการสอบถามข้อมูล, บริการนัดหมายและจองคิว, บริการแนะนำการเข้ารับบริการ, บริการรับรองสิทธิการเข้ารับบริการ, การประสานโรงพยาบาล, ส่งต่อข้อมูลให้หน่วยบริการนวัตกรรม กรณีที่ผู้ป่วยต้องการเข้ารับบริการที่หน่วยนวัตกรรม เช่น กายภาพบำบัด เป็นต้น การประสานรับบริการกรณีที่ไม่ได้รับบริการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคเชิงรุก อาทิ บริการแว่นตาเด็ก เป็นต้น
“นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยบริการกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งข้อมูลคิวการรักษา ข้อมูลเตียงว่างของโรงพยาบาลที่เข้าร่วมนโยบายฯ ในพื้นที่ การจัดระบบและประสานการจัดหาพาหนะรับส่งผู้ป่วยและผู้ทุพพลภาพในพื้นที่ ทั้งการรับส่งระหว่างหน่วยบริการ หรือระหว่างที่พำนักกับหน่วยบริการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา”
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี
เลขาฯ สปสช. บอกอีกว่า การกำหนดพื้นที่เป้าหมายและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้บริการเชิงรุกในชุมชน พื้นที่เฉพาะ เพื่อจัดบริการตามจำเป็น บริการที่ยังเข้าถึงได้น้อย เช่น บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน สถานประกอบการ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ในชุมชน การเจาะเลือดที่บ้าน
นอกจากนี้ยังมีการจัดทีมสายด่วน สปสช. 1330 เชิงรุกประจำที่โรงพยาบาลตติยภูมิใน กทม. ช่วยสนับสนุนการคัดกรองผู้ป่วย อำนวยความสะดวก และประสานส่งต่อผู้ป่วย กรณีเกิดปัญหาจากการ walk in เข้าไปรับบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาได้ทุกที่ ประสานและจัดหาหน่วยบริการรัฐ เอกชน สถานบริการอื่นตามมาตรา 7 เพิ่มเติม เพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการตามความจำเป็น
1330 กด 5 หน่วยบริการ สอบถาม-ตรวจสอบ-รับรองสิทธิ
นพ.จเด็จ ยังกล่าวถึงหน่วยบริการ สปสช. ที่ได้เปิดสายด่วนเฉพาะ 1330 กด 5 เพื่อให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกสำหรับหน่วยบริการ เช่น สอบถามข้อมูล ตรวจสอบและรับรองสิทธิ์การเบิกจ่าย เชื่อมโยงบริการ ขอรหัสการเบิกจ่าย (Claim code) ตรวจสอบการจ่ายเงิน
พร้อมย้ำว่า ในการเข้ารับบริการตามนโยบายนี้ เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วย นอกจากจะเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำของตนแล้ว ยังสามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการนวัตกรรมฯ ได้ ได้แก่ ร้านยา คลินิกหมอ-หมอฟัน กายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย ตรวจแล็บ คลินิกพยาบาล ฯลฯ ที่เข้าร่วมโครงการกับ สปสช.
ส่วนในกรณีเกินศักยภาพรักษาผู้ป่วยสามารถเข้ารักษาที่หน่วยบริการประจำเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล หรือร้านยา และคลินิกเอกชนที่มีระบบส่งต่อผู้ป่วยแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Referral) สามารถส่งต่อผู้ป่วยด้วยระบบนี้ได้ ทั้งนี้ในส่วนของโรงพยาบาลรัฐสังกัดต่าง ๆ ที่อยู่ใน กทม. เป็น รพ.ระดับทุติยภูมิ และตติยภูมิ จะรับเฉพาะผู้ที่ได้รับการส่งตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากติดขัดการเข้ารับบริการในขั้นตอนใด สามารถโทร. สายด่วน สปสช. 1330 เพื่อแก้ปัญหาได้