ตั้ง 3 คณะอนุกรรมการ หนุนนโยบายรักษาทุกที่

ขีดเส้น 15 มี.ค. นี้ เปิด รพ.ประจำเขตดอนเมือง เดินหน้าบัตรประชาชนรักษาทุกที่ ระยะ 2 ใน 8 จังหวัด ใช้ค่ายทหารรองรับผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด

วานนี้ (16 ม.ค. 2567) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยความคืบหน้านโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยมีการตั้งคณะอนุกรรมการฯ 3 คณะ เพื่อประสานความร่วมมือระหว่าง สธ. กทม. และ กระทรวงกลาโหม 3 ประเด็น ได้แก่ 

นโยบาย

1. นโยบายโรงพยาบาลกรุงเทพมหานคร 50 เขต 50 โรงพยาบาล และปริมณฑล มี นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อจัดทำแนวทางบริหารและพัฒนาหน่วยบริการที่ใช้ที่ดินในเขตพื้นที่ทหาร รวมถึงแนวทางพัฒนาระบบบริการรองรับนโยบายนี้ โดยจะมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ รพ.ประจำเขตดอนเมือง คือ รพ.ทหารอากาศ (สีกัน) ให้แล้วเสร็จใน 60 วัน หรือวันที่ 15 มี.ค. 2567

2. การขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว มี นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อบูรณาการความร่วมมือ จัดทำแนวทางเชื่อมโยงระบบข้อมูล รวมถึงกำกับติดตาม แก้ไขปัญหาอุปสรรคการขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งจะมีการเดินหน้าระยะที่ 2 ในอีก 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, สระแก้ว, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, อำนาจเจริญ และพังงา โดยหน่วยบริการสังกัดกระทรวงกลาโหม จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและการบริการได้มากขึ้น

3. ระบบการดูแลสุขภาพจิต/ยาเสพติด ค่ายทหารสุขภาพดี และการจัดระบบบริการทางการแพทย์ร่วมกันในเขตสุขภาพ (One Region One Hospital) มี นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน โดยใช้สถานที่ในค่ายทหารรองรับผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาล แต่ยังไม่พร้อมกลับสู่ครอบครัว สังคมและชุมชน โดยทหารทำหน้าที่เสมือนญาติในการดูแลเตรียมพร้อมก่อนกลับคืนสู่สังคม และใช้โรงพยาบาลค่ายและค่ายทหาร เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมบางส่วนของระบบการบำบัดรักษาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน

1 จังหวัด 1 ค่ายทหารสุขภาพดี

นพ.ชลน่าน ระบุรายงานสถานการณ์สุขภาพกำลังพลกองทัพบกประเทศไทย (2560-2564) พบว่า ความชุกของภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน เพิ่มจากร้อยละ 42 เป็นร้อยละ 44 อัตราความชุกโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น อาทิ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน 

จึงได้เห็นชอบ แนวทางค่ายทหารสุขภาพดี 1 จังหวัด 1 ค่ายทหารสุขภาพดี โดยจัดตั้งองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพในค่ายทหารทั่วประเทศ ส่งเสริม ป้องกัน และรักษาโรค โดยใช้ระบบประเมิน ปรับเปลี่ยน ติดตาม รักษาตามหลักของเวชศาสตร์วิถีชีวิต และสร้างสิ่งแวดล้อมภายในค่ายทหารเพื่อเอื้อต่อสุขภาวะที่ดี 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active