เทศบาลเมืองแสนสุข ฟื้นกิจกรรม ‘วันไหล’ หลังงดจัดไป 2 ปี จากสถานการณ์โควิด ปีนี้ยังไม่พบเหตุทะเลาะวิวาท ยอมรับควบคุมการดื่มไม่ได้ 100%
วันนี้ (17 เม.ย.66) ที่ชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี จัดเทศกาลวันไหล ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย. มีนักท่องเที่ยว ประชาชน มาร่วมเล่นสาดน้ำจำนวนมาก การจราจรโดยรอบติดขัดอย่างหนัก
ณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข เปิดเผยว่า การจัดงานวันไหลบางแสนปีนี้เป็นการกลับมาจัดเต็ม 100% หลังงดมา 2 ปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ปีนี้เทศบาลเมืองแสนสุขจึงเน้นเรื่องงานประเพณีเป็นหลัก มีการก่อพระเจดีย์ทรายวันไหล มีการประกวดเต็มรูปแบบอย่างยิ่งใหญ่ มีกีฬาการละเล่นมากมาย มีสินค้าประชาชนเข้ามาจำหน่าย
ที่สำคัญได้ร่วมกับ สสส. และ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์( นิด้า) จัดพื้นที่ชายหาดบางแสนให้เป็นพื้นที่ปลอดเหล้าบุหรี่มาหลายปีต่อเนื่อง ก็ได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายหาดจะไม่พบเห็นการซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนรอบนอกพื้นที่เอกชนก็อาจจะยังมีบ้าง แต่ถือว่าลดการสูบและการดื่มไปได้มาก โดยมีเจ้าหน้าที่ปกครองและสาธารณสุข คอยตรวจตราความเรียบร้อย และจากการย้ายช่วงเวลาการจัดกิจกรรมมาเป็นช่วงกลางวัน สิ้นสุดเวทีในช่วงหัวค่ำ คือไม่เกิน 19.00 น. หวังช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุและทะเลาะวิวาทในพื้นที่ ก็พบว่าตลอดช่วงเทศกาลไม่พบการทะเลาะวิวาทในพื้นที่งาน ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการรณรงค์วันชายหาดปลอดเหล้าที่ทำต่อเนื่องมาถึง 3 ปี
“จากการประมาณการณ์คิดว่าน่าจะมากกว่าวันละ 1 แสนคน คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เพราะสถิติการจัดงานวันไหล 16-17 เมษายนมีเงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท ปีนี้ต้องมากกว่าเดิมราว 20-30%”
ณรงค์ชัย คุณปลื้ม
ทั้งนี้จากการสำรวจ ยังพบเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ประชาชน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณชายหาดบางแสน แม้จะรณรงค์ชายหาดปลอดเหล้า แต่ยังเป็นเพียงการขอความร่วมมือ อีกทั้งอยู่ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง
รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบจะส่งผลต่อสุขภาพอนามัยทั้งในด้านร่างกายและจิตใจรวมทั้งมีแนวโน้มก่อให้เกิดความรุนแรงต่อครอบครัวและความรุนแรงในสังคมได้ ซึ่งการดำเนินโครงการในพื้นที่ชายหาดบางแสน เราเห็นความร่วมมือ แม้จะห้ามไม่ได้ 100% แต่เห็นว่านักท่องเที่ยวมาในรูปแบบครอบครัวกลับมาเที่ยวมากขึ้น และเกิดความปลอดภัยมากขึ้น
“งานวันไหลบางแสนปีนี้ ถ้าใครได้ลงมาเดินดูในช่วงค่ำ จะรู้สึกว่ามีบรรยากาศของความอบอุ่น ปลอดภัย เด็กเล็ก ผู้ใหญ่ ครอบครัว ก็มาเดินกัน มาชมการก่อพระเจดีย์ทราย และในส่วนของประชาชน เราเห็นได้ชัดว่าเขาเกิดความตระหนักรู้ว่า การนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มบนชายหาด หรือสูบบุหรี่บริเวณพื้นที่ห้ามสูบเป็นสิ่งที่ผิด แต่อาจจะมีการปกปิด ไม่โจ่งแจ้ง แต่ไม่พบการตั้งวงในพื้นที่ชายหาดเลยซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากพบเห็นก็จะมีการเตือนกันบอกกันอันจะนำไปสู่เป้าหมายในการสร้างพื้นที่ชายหาดให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน เข้ามาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกังวล”
รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ
รุ่งอรุณ กล่าวอีกว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจประเทศ ถ้าเทียบ GDP ก็คือราว 1.2 ของ GDP ที่ทำให้ประเทศต้องรับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน
ขณะที่ ผศ.เกศรา สุกเพชร อาจารย์สาขาอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยวคณะจัดการท่องเที่ยว นิด้า หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ดำเนินโครงการในพื้นที่ชายหาดบางแสนมาเป็นเวลา 3 ปี แล้ว โดยใน 1-2 ปีแรก ทำโครงการไปที่ผู้ประกอบการบนชายหาด และวันนี้มาลงพื้นที่จะเห็นได้ว่าในแต่ละร้านบนพื้นที่ชายหาดบางแสน ไม่พบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่เลยโดยกลไกที่เข้าไปทำกับผู้ประกอบการ คือการเข้าไปดูช่องว่างในกรณีที่เกิดการขายปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ แล้วเกิดผลกระทบอะไรตามมาบ้าน
จากนั้นได้สร้างความรู้เรื่องระเบียบข้อบังคับทางกฎหมาย เพื่อลดข้อพิพาทในการบังคับใช้กฎหมายเกิดเป็นกระบวนการมีส่วนร่วมเมื่อผู้ประกอบการมีความเข้าใจ ขณะที่ประชาชนเราได้มีการสำรวจความเห็นประชาชน พบว่า นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย โดยพื้นที่หาดบางแสน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเป็นคนไทย มาเป็นรูปแบบครอบครัวความมุ่งหวังของคนที่มาเที่ยว คือเรื่องของความปลอดภัย ทั้งเรื่องอาชญากรรมควันบุหรี่มือสอง ซึ่งเห็นผลชัดเจนมากในวันนี้ จากการดำเนินโครงการลอด 3 ปีที่ผ่านมา