ห่วง! พบเด็ก 9 ขวบ ทดลองสูบดอกกัญชาอ้างปลดล็อกไม่ใช่ยาเสพติด

เครือข่ายต้านภัยยาเสพติด พบเยาวชนเสพกัญชาอายุต่ำลงเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว ส่องยูทูบทำบ้องใช้เอง  ยื่นเรื่อง ‘วิษณุ’ เร่งหามาตรการป้องกันใช้กัญชาในทางที่ผิดก่อนปลดล็อกกัญชาเสรี

วันนี้ (24 พ.ค. 2565) วัชรพงศ์ พุ่มชื่น  นักพัฒนางานวิชาการ ศูนย์วิชาการสารเสพติดภาคเหนือ หนึ่งในเครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด กล่าวว่า เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างพบเยาวชนอายุ 9-13 ปี จับกลุ่มจำนวน 6 คนกำลังทดลองสูบช่อดอกกัญชาสด ระหว่างการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเยาวชนกลุ่มเสี่ยง และครอบครัวที่มีความ เปราะบาง โดยกลุ่มเยาวชนอ้างเหตุผลว่ากัญชาไม่เป็นยาเสพติด ไม่ผิดกฎหมาย เพราะปลดล็อคแล้วตามข่าวสารที่ได้รับ อีกทั้งยังประดิษฐ์อุปกรณ์สูบกัญชาขึ้นใช้เอง ผ่านการเลียนแบบจากคลิปวีดิโอในยูทูบ และเมื่อตรวจสอบภาพรวมระดับประเทศ พบรายงานเยาวชนไทยใช้กัญชาในทุกภูมิภาค ส่วนอายุของเด็กที่ทดลองใช้ กัญชาในทางที่ผิดก็ต่ำลงเรื่อย ๆ 

“กัญชาที่เด็ก ๆ เอามาสูบก็ไปขโมยจากหลังบ้านของคนในหมู่บ้าน ซึ่งแอบปลูกกันทุกหลังคาเรือน แต่ด้วยเพราะยังเด็กไม่ได้มีความรู้ก็ไปเก็บช่อดอกกัญชาสดมาสับแล้วใส่ไปกับบุหรี่เพื่อสูบ อีกส่วนก็ ใส่ในบ้องกัญชาที่ทำขึ้นเองแล้วสูบ”

วัชรพงศ์ พุ่มชื่น  นักพัฒนางานวิชาการ

วัชรพงศ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่กรุงเทพฯ ในเขตบางกอกน้อยและคลองเตย เราได้รับรายงานว่า “การสูบแป๊ะ” หรือการโรยเฮโรอีนบนกัญชาที่อยู่ในรูบ้องเพื่อให้มีการอาการเมาที่ถึงมากขึ้นนั้นเริ่มกลับมา  กล่าวได้ว่ากลับมาในรอบ 20 ปี หลังจากที่หายไปนาน เป็นข้อน่ากังวลว่าสถิติการใช้กัญชาในรูปแบบยาเสพติด ที่เพิ่มมากขึ้นนี้ จะนำไปสู่การใช้ยาเสพติดอื่น ๆ ที่เคยบรรเทาลงเช่น กรณีการสูบแป๊ะที่จะทำให้คนสูบกัญชา หันไปติดเฮโรอีน และนำไปสู่การเสพเฮโรอีนอย่างเดียวในที่สุด ซึ่งข้อมูลนี้ตรงกับนักวิจัยของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ประสานงานพื้นที่ภาคเหนือเครือข่ายผู้ใช้ยาประเทศไทย

เสนอชะลอปลดกัญชาพ้นยาเสพติด  

จากสถานการณ์การใช้กัญชาในกลุ่มเยาวชนไทยที่มากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญทาง เครือข่ายนักวิชาการ และภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ วิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามยาเสพติดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา 

เนื้อความจดหมายระบุว่า ด้วยจุดยืนสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ในทาง ที่ถูกต้อง และความห่วงใยต่อโอกาสที่จะเกิดการใช้กัญชาในทางที่ผิด ทางเครือข่ายฯ มีความประสงค์ ขอให้ประธานและคณะกรรมการ ป.ป.ส. จัดประชุมพิจารณาด่วนเรื่องครบ 120 วัน ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องรายชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท  5 ในวันที่ 9 มิ.ย.2565 ที่จะถึงนี้ เพื่อพิจารณาชะลอการบังคับใช้ประกาศ กระทรวงสาธารณสุขฉบับดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่าจะมีมาตรการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดที่เพียงพอ ควบคู่ไปกับมาตรการสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากกัญชา ก่อนที่จะมีการปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด อย่างเป็นทางการ

เนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ระบุรายชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีเพียงสารสกัดที่มี THC (Tetrahydrocannabinol) มากกว่าร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนักเท่านั้นที่เป็นยาเสพติด  ส่วนพืชกัญชา ส่วนของกัญชา และสารสกัดที่มี THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก ไม่เป็นยาเสพติด สามารถเสพใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายยาเสพติด โดยมีผลบังคับใช้ เมื่อพ้น 120 วัน หลังจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคือวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2565 นั้น ผลที่จะตามมาด้านบวก คือ จะสามารถใช้กัญชาหรือสารสกัดกัญชา ที่มีส่วนผสมของCBD (Cannabidiol) ที่เหมาะสม และมี THC น้อยเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ได้  

แต่ผลที่จะตามมาด้านลบ คือ 1.เด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่สามารถสูบช่อดอกได้(ช่อดอกมีสารเมา THC สูงมากถึงร้อยละ 20-30) เพราะช่อดอกไม่ใช่ยาเสพติดโดยสามารถอ้างว่าใช้เพื่อสุขภาพ 2.การตรวจวัดระดับ THC ในผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่น อาหาร และเครื่องดื่ม ว่ามี THC มากกว่าหรือน้อยกว่าร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก เป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ในสถานการณ์จริง ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคือจะมีการเสพใช้ช่อดอกกัญชาอย่าง แพร่หลาย และยากที่จะบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับนี้ได้ 

และ 3. การปลดกัญชาจากการ เป็นยาเสพติดให้ใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่นได้ นอกจากเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นการกระทำผิด ต่อการเป็นสมาชิกของอนุสัญญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาททั้ง 3 ฉบับ อันเป็นเหตุให้ประเทศไทยสามารถถูกคณะกรรมการ ควบคุมยาเสพติดระหว่งประเทศเรียกไปสอบถาม ตักเตือนตำหนิ แนะนำ หรืออาจจะตอบโต้ได้ เช่น การตัดการนำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์ยาบางชนิด ซึ่งจะทำให้ยาที่จำเป็น ชนิดนั้นขาดแคลนได้ในประเทศไทย เป็นต้น  

อีกทั้งการที่พรรคภูมิใจไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ…. เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรวันที่  10 ก.พ. 2565 แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรแต่ประการใด ทำให้ไม่มีมาตรการ ควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดใด ๆ เมื่อครบ 120 วัน 

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS