วธ. เปิดร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ ฉบับใหม่ คุมเข้มเนื้อหากระทบ “เกียรติภูมิประเทศ”

ตั้งบอร์ดส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ วางแนวทางขอถ่ายทำในไทย คุมเข้มเนื้อหาที่อาจกระทบต่อความมั่นคง ชวนประชาชนแสดงความเห็นภายใน 24 ส.ค. นี้

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า วธ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อจัดทำ ร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ฉบับใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 7 หมวด 112 มาตรา เพื่อใช้แทน พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551

รมว.กระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า สาระสำคัญของร่างกฎหมายใหม่ หวังส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขันระดับนานาชาติ และหนุนการสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยมีมาตรการรองรับอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในทุกด้าน ทั้ง ยังลดบทบาทการกำกับดูแลของรัฐลง เพื่อให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบกิจการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เคยเกิดขึ้น

ภาพ ส.ส. สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.กระทรวงวัฒนธรรม

ตั้งบอร์ดส่งเสริมภาพยนตร์ วางแนวทางขอถ่ายทำในไทยให้รัดกุม

ทั้งนี้ภายในร่างกฎหมายใหม่ มีใจความที่เพิ่มเติมจากกฎหมายฉบับเดิมอยู่หลายประการ เช่น

  • การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์: ร่าง พ.ร.บ.ใหม่ ได้กำหนดให้จัดตั้ง คณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์แห่งชาติ และ สภาอุตสาหกรรมภาพยนตร์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการภาพยนตร์มีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรม


    โดยคณะกรรมการฯ มีอำนาจในการเสนอนโยบายและแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบ รวมถึงตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการกำกับดูแลอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยบอร์ดนี้จะมี นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานฯ และมี รมว.วัฒนธรรม และ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นั่งเป็นรองประธานฯ
  • การสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย: ได้กำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการในการขออนุญาต ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย รวมถึงการกำกับดูแลการถ่ายทำให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ เพื่อป้องกันความเสียหายและส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยผ่านการถ่ายทำภาพยนตร์


    หากการสร้างภาพยนตร์นั้นก่อให้เกิดความเสียหาย สิ่งแวดล้อม ศิลปะ วัฒนธรรม ศีลธรรมอันดี ภาพลักษณ์ของประเทศไทย เจ้าหน้าที่สามารถสั่งให้หยุดการสร้างภาพยนตร์ และดำเนินการแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสมภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เจ้าหน้าที่จะเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ต่างประเทศ เพื่อพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตสร้างภาพยนตร์ดังกล่าวต่อไป

กำกับดูแลเนื้อหาที่กระทบต่อ “ความมั่นคง-เกียรติภูมิของประเทศ”

ในเนื้อหาของร่างกฎหมายฉบับใหม่ยังได้ ปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการจัดระดับความเหมาะสมของภาพยนตร์ และกำกับดูแลการประกอบกิจการภาพยนตร์ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าภาพยนตร์ที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต หรือแพลตฟอร์มอื่น ได้รับการตรวจสอบและรับรองความเหมาะสม โดยเฉพาะเนื้อหาที่อาจกระทบต่อความั่นคงหรือเกียรติภูมิของประเทศ จะมีมาตรการทางกฎหมายโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนใน พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฉบับปี 2551 ดังนี้

  • มาตรา 53 ในกรณีที่พบการฉายหรือจำหน่ายในราชอาณาจักร ซึ่งภาพยนตร์หรือสื่อโฆษณาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีเนื้อหากระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือเกียรติภูมิของประเทศ ไม่ว่าจะได้รับการจัดระดับความเหมาะสมของเนื้อหาหรือไม่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

  • มาตรา 54 ในกรณีที่พบการฉายหรือจำหน่ายนอกราชอาณาจักร ซึ่งภาพยนตร์หรือสื่อโฆษณาที่มีเนื้อหากระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือเกียรติภูมิของประเทศ ให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเนื้อหานั้น ตลอดจนประสานงานไปยังกระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานของประเทศไทยในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ ให้มีการระงับการกระทำดังกล่า
วิชาชีพ, รูปภาพ, ภาพยนตร์, กล้อง, อาวุธปืน, การสร้างภาพยนตร์, การทำภาพยนตร์, การถ่ายทำภาพยนตร์, ผู้ประกอบการกล้อง

ชวนประชาชนแสดงความเห็น ร่างกฎหมายฯ ภายใน 24 ส.ค. 67

รมว.กระทรวงวัฒนธรรม บอกด้วยว่า ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และประชาชนทุกภาคส่วน ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหรือเสนอแนะต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการแก้ไขปรุงร่าง พ.ร.บ. ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้นจะส่งร่าง พ.ร.บ.ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และส่งให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ มีระยะเวลารับฟังความคิดเห็น 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2567 โดยสามารถศึกษาสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่ และแสดงความคิดเห็นได้ที่ เว็บไซต์นี้

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active