หากค่าฝุ่นเกิน 37.6 มคก./ลบ.ม. ผอ.โรงเรียนสั่งปิดได้ครั้งละไม่เกิน 3 วัน ด้านภาครัฐ เอกชน กว่า 5 หมื่นคน ร่วมเป็นเครือข่าย Work From Home ลดปริมาณรถบนท้องถนน
วันนี้ (12 ธ.ค. 2566) ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการเตรียมพร้อมรับมือคุณภาพอากาศในสถานศึกษา สังกัด กทม. ว่า ได้กำชับให้โรงเรียนสังกัด กทม.ดำเนินการตามแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในโรงเรียนสังกัด กทม.ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2567
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/12/IMG_9798-1024x768.jpeg)
โดยให้ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศทางเว็บไซต์ www.airbkk.com หรือแอปพลิเคชัน AirBKK ในช่วงเวลา 07.00 น. 11.00 น. และ 15.00 น. และในช่วงที่นักเรียนต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยแจ้งเตือนผ่านกิจกรรมธงคุณภาพอากาศในโรงเรียน ได้แก่ ค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 0-15.0 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ติดตั้งธงสีฟ้า ค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 15.1-25.0 มคก./ลบ.ม. ติดตั้งธงสีเขียว ค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 25.1-37.5 มคก./ลบ.ม. ติดตั้งธงสีเหลืองค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 37.6-75.0 มคก./ลบ.ม. ติดตั้งธงสีส้ม และค่าฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ 75.1 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป ติดตั้งธงสีแดง โดยช่วงเช้าวันนี้ (12 ธ.ค.66) เวลา10.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ยที่ 50 มคก./ลบ.ม. (ระดับธงส้ม)
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/12/IMG_9797-1024x683.jpeg)
กรณี ฝุ่นมีค่าตั้งแต่ 37.6 มคก./ลบ.ม. และสถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลงและเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อนักเรียน ให้ใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนดังนี้ ค่าระหว่าง 37.6 – 75 มคก./ลบ.ม. ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา สั่งปิดได้ครั้งละไม่เกิน 3 วัน ผู้อำนวยการเขต ครั้งละไม่เกิน 7 วัน ค่ามากกว่า 75 มคก./ลบ.ม.
สถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลง และเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน ให้ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนตามอำนาจ ครั้งละไม่เกิน 15 วัน เมื่อฝุ่นละออง PM2.5 มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม เกิน 2-5 เขต สถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลง และเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สามารถใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนตามอำนาจไม่จำกัดเวลา
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาลสำนักงานเขตอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ การปรับปรุงกาพภาพของห้องเรียน โดยใช้งบประมาณซ่อมบำรุง 500,000 บาท/โรงเรียนในการดำเนินการปรับปรุงสภาพ และขอจัดสรรงบประมาณปรับปรุงสภาพกาพภาพของห้อง ให้เป็นระบบปิดโดยการกรุช่องเปิด การจัดหาระบบปรับอากาศภายในห้อง จะดำเนินการโดยกระบวนการประสานความร่วมมือ (Public Private Partnership) หรือ CSR (Corporate Social Responsibility) นำเครื่องปรับอากาศส่วนที่มีความจำเป็นน้อยมาใช้ในห้องปลอดฝุ่น และขอจัดสรรงบประมาณของกรุงเทพมหานคร และการจัดหาเครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนย้ายได้ จำนวน 1,743 เครื่อง สำนักการศึกษาได้รับประมาณปี 2567 ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างสรรหาผู้รับจ้าง (e-biding)
รัฐ-เอกชน Work From Home
พรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ได้ขอความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นเครือข่าย Work From Home เพื่อลดฝุ่น PM2.5 ในช่วงที่มีการคาดการณ์พยากรณ์ว่าค่าฝุ่นสูงเพื่อช่วยลดจำนวนยานพาหนะบนท้องถนน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ลงทะเบียนแล้ว 133 แห่ง และสนใจเข้าร่วม 114 แห่ง รวมจำนวนพนักงาน 5 หมื่นคน หากหน่วยงานหรือองค์กรประสงค์เข้าร่วม Work From Home ลดฝุ่น PM 2.5 สามารถลงทะเบียนได้ในลิงค์ https://me-qr.com/LM6Q8Jhs
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/12/IMG_9795-819x1024.jpeg)
สกัดแหล่งกำเนิดฝุ่น
เอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ของกรุงเทพมหานคร สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 – 11 ธ.ค. 66 โดยตรวจ 2 ครั้ง/เดือน ว่า จากการตรวจสถานประกอบการ/โรงงาน 350 แห่ง พบว่าไม่ผ่านจำนวน 8 แห่ง แพลนท์ปูน 119 แห่ง ไม่ผ่าน จำนวน 17 แห่ง สถานที่ก่อสร้าง219 ไม่ผ่าน จำนวน 33 แห่ง และสถานที่ก่อสร้างที่อยู่ในความดูแลของสำนักการโยธา กทม. 306 แห่ง ไม่ผ่าน จำนวน 1 แห่ง นอกจากนี้ยังได้ตรวจสถานที่ถมดิน/ท่าทราย 23 แห่ง จำนวน 271 ครั้ง ซึ่งผ่านครบทุกแห่ง
ในส่วนการตรวจยานพาหนะควันดำของสำนักงานเขต จำนวน 2,890 คัน สั่งให้ปรับปรุงแก้ไข 18 คัน การตรวจรถยนต์ปล่อยควันดำ โดยความร่วมมือระหว่างกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) และกรุงเทพมหานคร จำนวน 142,448 คัน สั่งห้ามใช้ 2,221 คันการตรวจรถโดยสารประจำทาง/ไม่ประจำทาง โดยขบ. จำนวน 37,497 คัน สั่งห้ามใช้ 117 คัน และการตรวจรถบรรทุก โดยขบ. จำนวน 94,731 คัน สั่งห้ามใช้537 คัน
เอกวรัญญู กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองPM2.5 ของกรุงเทพมหานครในปี 2567 ว่า มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย การเฝ้าระวัง แจ้งเตือนฝุ่น การควบคุมแหล่งกำเนิด และการป้องกันดูแลสุขภาพประชาชน รวมทั้งมีการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ การเดินทางทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ พัฒนาทางเท้า ส่งเสริมการเดินทางด้วยจักรยาน การให้บริการ Feeder ไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะ หรือส่งเสริมการใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษเพื่อการมีส่วนร่วมลดปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นละอองก่อนออกจากบ้าน ผ่านทางช่องทาง ดังนี้ แอปพลิเคชัน AirBKK www.airbkk.com FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม FB: กรุงเทพมหานคร LINE ALERT และ LINE OA @airbangkok
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/12/IMG_9772-819x1024.jpeg)