เตือน กทม.-ปริมณฑล ฝุ่น PM2.5 หนัก! สัปดาห์หน้า

อุตุฯ คาด 30 ม.ค.- 2 ก.พ.นี้ กทม., ปริมณฑล อากาศปิด ความเข้มข้น PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้อง ภาคเหนือ ประเทศเพื่อนบ้าน พบจุดความร้อนเพิ่มหลายจุด นักวิชาการ ชี้การเผายังเกิดขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนมาตรการรัฐยังไร้ประสิทธิภาพ

The Active รวบรวมสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หลายจังหวัดภาคเหนือ พบค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งสาธารณสุข เตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในที่โล่งและดูแลผู้มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด

โดยที่ จ.ลำปาง ชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ระบุว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาค่าฝุ่นใน จ.ลำปาง เกินมาตรฐาน ซึ่งมีปัจจัยทั้งการเผาพื้นที่เกษตร รวมถึงกิจกรรมในย่านชุมชน เบื้องต้นจึงขอความร่วมมืองดเผา ทำแนวกันไฟป้องกันและจัดการเชื้อเพลิงก่อนถึงช่วงประกาศห้ามเผาวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้

ที่ จ.เชียงใหม่ ท้องฟ้าเหนือตัวเมือง ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นทำให้ทัศนะวิสัยการมองเห็นทางอากาศลดต่ำลงแต่ เครื่องบิน ยังสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ สำหรับวันนี้ วัดค่าฝุ่น PM 2.5 เขตพื้นที่ตำบลศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ กว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเกินค่ามาตรฐาน

ขณะที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฝุ่นควัน จ.เชียงใหม่ รายงาน ค่าฝุ่นที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการเผาพื้นที่เกษตรพบมากในพื้นที่ อ.อมก๋อย, กัลยาณิวัฒนา และไชยปราการ ซึ่งได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอ เข้มงวดมาตรการควบคุมไฟในที่โล่งทุกเขตพื้นที่แล้ว

ส่วนที่ จ.พิษณุโลก และพะเยา คุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน สาธารณสุขจังหวัดจึงเตือนประชาชนงดทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง ส่วนผู้มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะทางเดินหายใจ เด็กและคนชรา ต้องดูแลเป็นพิเศษในช่วงที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศภาคเหนือเมื่อวานนี้(27 ม.ค.66) มี 11 จังหวัดที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน ประกอบด้วย เชียงราย, เชียงใหม่, ลำปาง, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, ตาก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก, พิจิตร และ เพชรบูรณ์

สำหรับสถานการณฝุ่น PM2.5 วันนี้(28 ม.ค.66) พบว่า ภาคเหนือได้รับกระทบจากฝุ่น PM2.5 มากที่สุด คือที่ จ.เชียงราย, เชียงใหม่, ตาก, ลำปาง ค่าฝุ่นสีส้มและสีแดง เกินมาตรฐานมากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มากกว่าภาคอื่น ๆ ขณะที่ ภาคกลางแม้จะมีฝุ่น PM2.5 บางจังหวัด แต่ยังประมาทไม่ได้เพราะ อีก 1-2 วันนี้ สภาพอากาศจะเริ่มปิดอีกครั้ง

ขณะเดียวกันข้อมูลจุดความร้อนจากจิสด้า พบว่า เวลานี้ ยังมีการเผาพื้นที่การเกษตรต่อเนื่องทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน อย่างที่ กัมพูชา มีมากถึง 2,193 จุด รองลงมาคือ เมียนมา 1,490 จุด ไทย 1,047 จุด ลาว 680 จุด และ เวียดนาม 191 จุด

รศ.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์

ด้าน รศ.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเกษตร  สะท้อนว่า แม้จะรู้ล่วงหน้าว่าอากาศปิดแต่การเผากลับเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นมาตรการรัฐยังมีประสิทธิภาพน้อย โดยพบว่า ข้าว ยังครองแชมป์การเผาในภาคการเกษตร 185 จุด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 85 จุด อ้อยโรงงาน 54 จุด เกษตรอื่น ๆ 137 จุด เผาพื้นที่ป่า 511 จุด

“หากแยกเฉพาะ กทม. เราทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีปัจจัยอื่น วันนี้ ฝุ่น กทม.ยังหนาแน่นโดยเฉพาะฝั่งตะวันตก เกินมาตรฐาน เป็นสีส้มในหลายเขต และคาดการณ์ว่าหลังจากนี้จะมีทิศทางเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 วัน เพราะจะเกิดปรากฏการณ์ฝาชีครอบต่ำมาก ทำให้ฝุ่นทั้งในรถยนต์ รถบรรทุก และโรงงานอุสาหกรรม ระบายอากาศออกไม่ได้ และฝุ่นนอกพื้นที่มาสมทบ สำหรับฝาชีครอบต่ำเปรียบเสมือนแรงลมดันจากด้านบน และด้านล่างพร้อมกัน ซึ่งปกติแล้วเวลาเกิดฝุ่น ฝุ่นจะลอยขึ้นไปด้านบน แต่เมื่อมีแรงดันจากด้านบน ทำให้ฝุ่นลอยไปไหนไม่ได้ เหมือนมีอะไรมาครอบไว้ทำให้ฝุ่นวนเวียนไม่ไปไหน”

ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. ถึง 2 ก.พ.นี้ จะเกิดสภาวอากาศปิดใกล้ผิวพื้นที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละออง PM2.5 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและลดลงสลับกัน บางช่วงฝุ่นจะทรงตัว จึงมีคำเตือนว่า สัปดาห์หน้า กทม.และปริมณฑล มีความเสี่ยงสูง เน้นย้ำให้โรงเรียน, บริษัท, สำนักงานภาครัฐ เอกชน ต้องเตรียมพร้อม หาก Work From Home ได้ อาจจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงจากฝุ่นได้มาก

“ถ้ามองภาพรวมฝุ่นละลองในไทย ปี 2562 มีฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานเพิ่มขึ้นจาก ปี 2561 จาก 34 วัน เป็น 59 วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 73 ขณะที่ทิศทางปีนี้ อาจต้องจับตา เพราะสาเหตุฝุ่นพิษวันนี้มาจากการเผากลางแจ้งในภาคการเกษตรและป่าไม้ กับความเร็วลมที่ลดลง”

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active