‘ไอติม’ ย้ำ สส. 143 คน ตบเท้าร่วมพรรคประชาชนครบ ไม่มีแตกแถว เดินหน้าต่อขับเคลื่อน ผลักดันการเปลี่ยนแปลงประเทศ เร่งรวบรวมสมาชิกพรรคต่อเนื่อง เตรียมจัดงานใหญ่พรุ่งนี้
วันนี้ (9 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า ภายหลังการประชุม สส.อดีตพรรคก้าวไกล ได้มีมติเปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคประชาชน” โดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ สส.เท้ง ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค ศรายุทธ ใจหลัก อดีตผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล ได้รับการเสนอชื่อเป็น เลขาธิการพรรค
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.อดีตพรรคก้าวไกล แถลงย้ำว่า นับไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า “เราได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วในนามพรรคประชาชน” วันนี้ สส.อดีตพรรคก้าวไกลทั้งหมด 143 คน ที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และ สก. 11 คน รวมถึงแนวร่วมเครือข่ายทั่วประเทศ มาประชุมกันเพื่อตกลงร่วมกัน จะเดินหน้าต่อขับเคลื่อนและผลักดันการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ในนามของพรรคประชาชน
“เหตุผลที่เลือกชื่อพรรคประชาชนนั้น เพราะต้องการเป็นพรรคการเมืองโดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตย คุณค่าสูงสุดอยู่ที่ประชาชน สถาบันการเมืองทุกสถาบันควรยึดโยงกับประชาชน ถูกตรวจสอบได้โดยประชาชน และดำรงอยู่ อย่างมั่นคงและชอบธรรม ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชนทุกคน”
พริษฐ์ วัชรสินธุ
ขณะที่ ณัฐพงษ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงว่า พรรคประชาชนเป็นสถาบันทางการเมือง สืบต่ออุดมการณ์พรรคตั้งแต่อนาคตใหม่ และก้าวไกล วันนี้จากที่ตนได้รับการเลือกเป็นหัวหน้าพรรค สามารถออกมาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า มีภารกิจสร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งปี 2570 ซึ่งจำเป็นที่จะต้องชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า และต้องตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากการเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ในปี 2566 เป้าหมายขั้นต่ำ คือ อยากจะชนะการเลือกตั้งโดยสามารถเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ นั่นคือเป้าหมายสูงสุด
“สิ่งที่ยืนยันมาตลอดคือ ไม่ต้องการเข้ามาต่อรองการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ถ้าถามว่าจะเจรจากลุ่มขั้วอำนาจเดิมอย่างไร ถ้ามีผลการเลือกตั้งออกมา จัดตั้งรัฐบาล มีรัฐมนตรีทุจริต แล้วไม่ยอมจัดการ ก็ถือว่าขัดอุดมการณ์พรรค ดังนั้นจะเจรจาบนหลักการของประชาชน อะไรที่เป็นเจรจาทางการเมือง ไม่ขัดความเชื่อเหลืออุดมการณ์พรรค เราพูดคุยได้หมด”
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
ส่วนกรณี “สส.งูเห่า” นั้น ณัฐพงษ์ บอกว่า ตอนนี้เป็นบทพิสูจน์เราย้ายมาพรรคประชาชนได้หมด รวมถึง สก.ก็ตามมาหมดด้วย คิดว่าเรื่องนี้บทพิสูจน์ “งูเห่า” ไม่น่าเป็นประเด็นตอนนี้
สำหรับประเด็นที่ว่า ใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ณัฐพงษ์ ย้ำว่า ขอพูดตรง ๆ คิดว่าวันนี้ยังไม่ดีพร้อม แต่พร้อมพัฒนาตัวเอง ตราบใดที่ประชาชนสนับสนุน เห็นว่าสิ่งที่ทำมาโดยตลอด ทำในสิ่งที่เรียบง่ายมาก การเมืองเป็นของทุกคน เป็นของประชาชน ตราบใดที่ได้รับเสียงสนุนเหล่านี้อยู่ ก็พร้อมผลักดันตัวเองไปข้างหน้า
“แคนดิเดตนายกฯ ได้ถอดบทเรียนมาในอดีต เราเปิดกว้าง เสนอหลายชื่อได้ แต่ต้องผ่านการหารือในอนาคตด้วย คิดว่าผมพร้อมทำหน้าที่แทนทุกคน ส่วนคนเป็นนายกฯ ต้องพร้อมทุกด้าน ผมพร้อมพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น”
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
เมื่อถามว่า จะนำพาพรรคประชาชนชนะเลือกตั้ง 2570 อย่างไร ณัฐพงษ์ ยอมรับว่า ต้องทำงานหนัก ถ้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบอดีตแกนนำพรรค คิดว่าคุณสมบัติอาจไม่เทียบเท่า แต่สิ่งที่คิดว่ามีไม่แพ้คนอื่น คือทำงานหนัก เพื่อนำพาพรรคชนะการเลือกตั้งได้
เมื่อถามถึง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากมีการจัดตั้งรัฐบาล จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาชน บอกว่า ตอนนี้เร็วไปที่จะตอบตรงนั้น แต่ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งหรือไม่ว่าชนะการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้เสียงเกินครึ่ง ก็ต้องจับมือกับพรรคการเมืองต่างพรรคด้วย แต่จะจับมือใครบ้าง ก็ต้องดูนโยบายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าพรรคที่เสนอนโยบายไม่ได้ขัดแย้งพับพรรค ก็พร้อมทำงานกับทุกฝ่าย
ณัฐพงษ์ ย้ำอีกว่า รู้สึกกดดัน รวมถึงรู้สึกว่าเพื่อน ๆ ทุกคนด้วย ที่กดดันไม่ใช่ไม่ดี แต่เป็นการยกระดับตัวเองไปอีก และเป็นสิ่งที่ถูกต้องว่า สื่อต้องตั้งคำถาม ประชาชนตั้งคำถามถึงพรรคทุกพรรค และคนเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในอนาคตด้วย ไม่ใช่ข้อผิดพลาดอะไร อยากให้ทุกคนช่วยกันจับตาการทำงานของพรรคด้วย
“ไม่กี่วันก่อนได้พูดคุยกับคุณธนาธร บ้าง และเขาได้สื่อสารตรง ๆ โดยบอกว่า ถ้ามารับตำแหน่งตรงนี้ ถ้าคุณต้อง เป็นแคนดิเดตนายกฯ คุณต้องพัฒนาตัวเอง ต้องเห็นนโยบายอีกหลายด้าน ต้องทำงานอย่างหนัก คิดว่าสิ่งที่คุณธนาธรแนะนำมาถูกต้องที่สุด วันนี้ที่มาแถลงข่าวคิดว่าสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ ถ้าเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ จะสื่อสารตรงไปตรงมา โดยสิ่งที่เป็นอิทธิพลกับตัวเองคืออุดมการณ์ความเชื่อ ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล”
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
ศรายุทธ ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ซึ่งพรรคตระหนักเรื่องนี้ดีตั้งแต่สร้างพรรคอนาคตใหม่ จำเป็นต้องมีคนจำนวนมาก นี่คือสิ่งที่ต้องสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน จึงคาดหวังว่า ในอนาคตอันใกล้จะเพิ่มโครงสร้างการเมืองท้องถิ่น และคาดหวังที่สมาชิกพรรคจะไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ และถ้าเราทำสำเร็จ
ขณะที่ ศิริกัญญา ตันสกุล สส.อดีตพรรคก้าวไกล ระบุว่า ที่ผ่านมากระแสข่าวการเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ ถูกคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ยืนยันว่า ตนไม่มีความประสงค์ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น พร้อมระบุด้วยว่า ตัวเองเป็นผู้เสนอชื่อ ณัฐพงษ์ เป็นหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวด้วยความมั่นใจ
“และมั่นใจว่า นายณัฐพงษ์มีคุณสมบัติที่จะเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ที่จะสู้เลือกตั้งในปี 2570 ด้วยความที่ ณัฐพงษ์เป็นคนที่ครบเครื่อง ตั้งแต่เป็น สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมทั้งบริหารงานเบื้องหลังของพรรคในสายเทคโนโลยี และเป็นคนทำระบบต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการบริหารพรรค ทำให้ตนและเพื่อนสมาชิกมั่นใจให้เสียงสนับสนุน”
ศิริกัญญา ตันสกุล
ทั้งนี้สัญลักษณ์ของ พรรคประชาชน มีชื่อภาษาอังกฤษ ‘PEOPLE’S PARTY’ จะเป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมมุมกลับ ต่อยอดมาจากแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล วันนี้ที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรค 5 คน คือ
- ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค
- ศรายุทธ ใจหลัก เลขาธิการพรรค
- ชุติมา คชพันธ์ เหรัญญิก
- ณัฐวุฒิ บัวประทุม กรรมการที่ดูแลทะเบียนพรรค
- พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค
โดยในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค. 67) พรรคประชาชน จะจัดกิจกรรมทั่วประเทศ เพื่อเปิดรับสมาชิก และเปิดรับบริจาค โดยใน กทม. จะจัดงานใหญ่ที่ Stadium One ย่านบรรทัดทอง
