วิวาทะ ‘อนุทิน VS สมศักดิ์’ ปมดึง ‘กัญชา’ กลับเป็น ‘ยาเสพติด’

‘สมศักดิ์’ ปฏิเสธข้อเสนอ ‘เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย’ ยืนยันนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ด้าน ‘อนุทิน’ พร้อมโหวตโนในคณะกรรมการ ป.ป.ส.

วันนี้ (9 ก.ค. 67) เป็นวันที่ 2 ที่ เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ปักหลักชุมนุมอยู่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย หากพิจารณาจากข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯ ยังยืนยันมาตลอดถึงการ ขอให้ควบคุมกัญชา ด้วย ร่าง พ.ร.บ.กัญชา โดยไม่นำกลับไปเป็นยาเสพติด และขอให้ตั้งคณะกรรมการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบโทษของกัญชากับเหล้าและบุหรี่ 

สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ครม. ว่า การดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด เป็นความต้องการของประชาชน เพราะข้อมูลจากการทำประชาพิจารณ์ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพให้โทษ ประชาชนผู้สนับสนุนให้นำ กัญชา กัญชง กลับไปเป็นยาเสพติดด้วย แต่สำหรับการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคนั้น ยังสามารถทำได้ โดยแพทย์จะเป็นผู้สั่ง

“หากโอกาสหน้าหรือรัฐบาลหน้า ต้องการเปลี่ยนแปลง ประชาชนก็สามารถเสนอกฎหมาย หรือ สส. เสนอกฎหมายได้ แต่รัฐบาลชุดนี้รับผิดชอบและมองเห็นผลเสียมากกว่าผลดีต่อประชาชน”

สมศักดิ์ เทพสุทิน  

ส่วนการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเป็นการหักกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น รมว.สธ. บอกว่า จะไม่กระทบพรรคภูมิใจไทย ตนก็เคยเอาใจช่วยแล้วแต่กฎหมายไม่สามารถพิจารณาได้ทัน ดังนั้นก็จะต้องรับผิดชอบต่อสังคม 

ขณะที่ กรณีผู้ชุมนุมยืนยันปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาลจนกว่ารัฐจะควบคุมโดย พ.ร.บ.กัญชา สมศักดิ์ มองว่า เขาต้องการใช้ในด้านนันทนาการ ได้เรียนไปตามข้อเท็จจริงแล้ว และได้ให้แนวทางของแพทย์แผนไทย หากมีข้อสงสัยให้สอบถามได้ที่ อย. 

ด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เคยปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม. ว่า ไม่ได้เห็นด้วยกับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ซึ่งกรรมการชุดนี้เป็นชุดเดียวกันกับที่แนะนำให้ดึงกัญชาออกจากยาเสพติดเมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่ตนเป็น รมว.สธ. 

“เหตุใดในวันนี้คณะกรรมการชุดเดิมจึงจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการส่วนใหญ่ เป็นข้าราชการที่ต้องทำตามนโยบายของรัฐมนตรี เขาอธิบายมาแบบนี้ แต่การตัดสินใจแต่ละครั้งก็ควรใช้หลักการบ้าง”  

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

อนุทิน ยังบอกอีกว่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มา 4 ปี ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่ากัญชาไม่ดี แต่ละเดือนกระทรวงสาธารณสุข พาไปทำแคมเปญกัญชา และไม่มีโรงพยาบาลไหนไม่มีคลินิกกัญชาเลย ได้รับการสนับสนุนทุกอย่าง

“หากในอนาคตปรับคณะรัฐมนตรีแล้วพรรคภูมิใจไทยได้กลับไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง เกิดวันนั้นจะดึงกัญชาออกจากยาเสพติดอีก ก็ต้องไปทำกันใหม่หมด แบบนี้จะสร้างความเชื่อมั่นกับคนที่มาลงทุนเกี่ยวกับกัญชาอย่างไร ชักเข้าชักออก กระทบทั้งประเทศ”

อนุทิน ชาญวีรกูล

อนุทิน ยืนยันว่าจะโหวตโนไม่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดในคณะกรรมการ ป.ป.ส.แน่นอน แม้โหวตไปก็แพ้ แต่ก็จะโหวต หากจะตัดสินกันด้วยมติ กระทรวงมหาดไทย มีแค่ 4 เสียง ไม่ทราบว่าปลัดกระทรวงมหาดไทย จะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะไม่สามารถไปบังคับใครได้ และไม่คิดที่จะไปสั่งใคร ทุกคนต้องใช้ดุลยพินิจของตนเอง

ป.ป.ส. เตรียมพร้อมรอ สธ. ชงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด 

ขณะที่ มานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะโฆษก สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เปิดเผยถึงข้อสงสัย ที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคมในขณะนี้ หลังคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ กระทรวงสาธารณสุข ประชุมเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีมติให้คืน กัญชา กัญชง กลับไปเป็นยาเสพติด อีกครั้งว่า ป.ป.ส. มีการเตรียมพร้อมดำเนินการในขั้นตอนต่อไป จะได้นำเรื่องดังกล่าว บรรจุในวาระการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ซึ่งมี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ เบื้องต้นคาดว่าจะมีการประชุมในห้วงปลายเดือน ก.ค. นี้ 

สำหรับแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เมื่อพืชกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อีกครั้ง สำนักงาน ป.ป.ส. ก็มีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมและกำกับดูแลตั้งแต่การปลูก การจำหน่าย และการใช้ประโยชน์พืชกัญชาให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางเดิมที่เคยปฏิบัติมาก่อน

สำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงยืนยันที่สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์เท่านั้น และมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ และขอเน้นย้ำไม่สนับสนุนการใช้ในเชิงนันทนาการ ซึ่งผิดเจตนารมณ์ของกฎหมายและเป็นสิ่งที่รัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีนโยบายในการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด สนับสนุนการเข้ารับบำบัด และให้ยาเสพติดเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนของประเทศในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย ลดความเดือดร้อนของประชาชน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active