5 ผู้สมัคร สว. เล่าประสบการณ์หลังตกรอบแรก พบความผิดปกติ เอื้อคนบางกลุ่ม ขณะที่ เครือข่ายประชาชน ย้ำเลือกระดับอำเภอไม่ยุติธรรมกับผู้สมัคร จี้ กกต. ปรับปรุงหลายประเด็น ฝั่ง นักวิชาการ ชี้ ปัญหาหลักคือตัวระบบบิดเบี้ยว มาตรฐานแต่ละอำเภอต่างกัน
วันนี้ (11 มิ.ย. 67) ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือข่ายภาคประชาชน และนักวิชาการ เปิดพื้นที่เสวนา “เชิญชวนประชาชนรับฟังประสบการณ์ตรงจากผู้สมัคร สว. ที่ตกรอบในระดับอำเภอ ว่าเผชิญกับอะไรบ้างในกระบวนการเลือกกันเองครั้งแรกในโลก”
พร้อมรับฟังเสวนาโดยนักวิชาการและภาคประชาสังคมที่ติดตามการเลือก สว. อย่างใกล้ชิดถึงปัญหาที่พบในการเลือกระดับอำเภอการในช่วงการแถลงปัญหาการเลือก สว. ระดับอำเภอ ของเครือข่ายภาคประชาชน อย่าง Actlab We Watch และ iLaw ก็พูดถึงคำพิพากษาของศาลฎีกากว่า 300 คดี และผู้สมัครได้สิทธิ์คืน 38 คดี เช่น การถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
โดยมองว่าการที่ กกต. แถลงว่าการร้องเรียน 22 คำร้อง และการเลือกระดับอำเภอผ่านไปอย่างเรียบร้อย คงไม่ใช่ความจริงทั้งหมด นอกจากนี้ กกต. ยังขาดการประชาสัมพันธ์ในหลายอำเภอด้วย
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/06/image-17-1024x768.png)
ทั้งนี้มองว่า การจัดพื้นที่ให้สังเกตการณ์ผ่านจอนั้น บางอำเภอมองภาพไม่ชัด และไม่ได้ยินเสียง ทำให้ไม่สามารถสังเกตหลักฐานได้ นอกจากนี้ยังพบว่าในหลายอำเภอ อาสาสมัครถูกคุกคาม ทำให้อาสาสมัครรู้สึกหวาดกลัว ไม่ปลอดภัย ปัญหาเหล่านี้คงไม่สามารถทำให้เราบอกได้ว่าการเลือก สว.ระดับอำเภอเป็นการเลือกที่โปร่งใสและไม่มีปัญหา
ส่วนมาตรฐานของ กกต. ที่มองว่าแต่ละอำเภอมีมาตรฐานในการเลือกแตกต่างกันนั้น จากการเก็บข้อมูลพบว่า ในหลายพื้นมีลักษณะต่างกัน อาจทำให้ส่งผลต่อการเลือกอย่างมีนัยยะสำคัญ
ในเรื่องการเก็บอุปกรณ์สื่อสาร สิ่งที่เกิดขึ้นของการเก็บของแต่ละอำเภอมีความเข้มงวดต่างกัน บางอำเภอผู้สมัครสามารถนำ หูฟังบลูทูธ นาฬิกา smart watch เข้าไปได้ และเอกสาร คู่มือ สว.3 บางอำเภอให้เอาไปได้ ซึ่งส่งผลต่อการเลือก
“การเลือกระดับอำเภอที่ผ่านมาไม่ยุติธรรมกับผู้สมัคร อยากให้ กกต. ปรับปรุงเรื่องนี้”
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/06/S__9232435_0-1024x576.jpg)
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw จึงมีข้อเสนอ 3 ข้อ คือ
- เจ้าหน้าที่ กกต. ควรทำให้กระบวนการรวดเร็วกว่านี้ เนื่องจากบางอำเภอมีกระบวนการล่าช้ามาก หากในระดับจังหวัดถ้าเจ้าที่ล่าช้าก็จะส่งผลกระทบต่อการเลือกด้วย
- ขอพื้นที่ให้ประชาชนเข้าไปสังเกตการณ์มากกว่านี้
- ขอความชัดเจนของทุกเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน เช่น การพูดคุยกันของผู้สมัครในสถานที่เลือก หาก กกต.ต้องชัดเจนว่าให้ผู้สมัครทำอะไรได้บ้าง และต้องมีมาตรฐานที่เท่ากัน
ผู้สมัคร สว. ตกรอบ ย้อนปมไม่ชอบมาพากล
จากนั้นเวทีเสวนาได้ร่วมกันฟังประสบการณ์จากผู้สมัคร สว. ที่ตกรอบ โดย ณัฏฐธิดา มีวังปลา ผู้สมัครจาก อ.เมือง จ.จันทบุรี กลุ่มสาธารณสุข บอกว่า ในการรับสมัครเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารนานเกือบ 2 ชั่วโมง และเกิความติดขัดเพราะถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสาร ส่วนในใบ สว.3 เห็นว่า ข้อมูลแต่ละคนไม่มีการกรอกเบอร์โทรศัพท์ ทำให้สื่อสารกันได้ยาก
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/06/image-16-1024x768.png)
นอกจากนี้ยังถูกล่าวหาจากผู้สมัครคนอื่นว่าเป็นคนที่พรรคการเมืองจัดตั้งมา และเมื่อถึงการเลือกรอบไขว้ บัตรเสียเยอะมากเนื่องจากไม่รู้จักใครเลย
พัชรี พาบัว อ.เมือง จ.ลพบุรี กลุ่มประชาสังคม ทราบว่าใน จ.ลพบุรี มีผู้สมัครไปรับใบสมัครมากที่สุดในประเทศ โดยในวันที่ไปรับเอกสาร สว.3 รู้สึกว่าข้อมูลไม่เพียงพอ เพราะมีแค่ 5 บรรทัด ไม่มีช่องติดต่อเพียงพอกับผู้สมัครคนอื่น ๆ
มีบางคนมีประวัติการทำงานสั้น ๆ แต่พัชรีก็พยายามทำความรู้จักกับผู้สมัครคนอื่น แต่เข้าใจว่าผู้สมัครคนอื่นมาด้วยกัน และรู้จักกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ในวันเลือกเห็นว่าผู้สมัครกับเจ้าหน้าที่รู้จักกัน มีผู้สมัครจดโพยว่ารู้จักใครบ้าง และจะเลือกใครอย่างเปิดเผย และความอิสระค่อนข้างน้อย เหมือนตั้งใจมาเลือกคนอื่นโดยเฉพาะ
สากล พูนกลาง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ กลุ่มอาชีพอิสระ บอกว่า ก่อนลงสมัครศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง เลือกลงสมัครในกลุ่มอิสระ ในวันเลือกระดับอำเภอ สังเกตเห็นความผิดปกติหลายอย่าง เช่น มีกลุ่มคนที่รู้จักกัน และมาเตรียมกันหน้างานว่าใครอยู่กลุ่มอาชีพใด ใครจะเป็นผู้รับรอง นอกจากนี้ยังพบคนที่ไม่ใช่ผู้สมัครเข้าไปจัดแจงการเลือกตลอดทั้งวันอีกด้วย
อาจมีการตั้งกลุ่มบล็อกโหวต เช่น กลุ่ม อสม. กลุ่มสตรี แต่เมื่อตนจะไปร้องเรียน กกต. กลับถูกเจ้าหน้าที่ประกบติดตามตัว สากล ยังเผยอีกว่า มีหลักฐานการทุตริตในการเลือกระดับอำเภอและจะดำเนินการร้องเรียนต่อ กกต.
เกรียงไกร สันดิพจนา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลุ่มศิลปะวัฒนธรรม เล่าประสบการณ์ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง จนถึงบรรยากาศการเลือก และยังพบการฮั้วกันแบบนัดแนะในกลุ่มไลน์ผู้สมัคร การจับคู่บัดดี้เพื่อขอคะแนนเสียงต่อกัน
ไม่ต่างจาก พนิดา บุญเทพ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กลุ่มประชาสังคม บอกว่า ตัวเองตกตั้งแต่รอบกลุ่ม ไม่ได้เข้าไปเลือกในรอบไขว้ สังเกตเห็นความผิดปกติหลายอย่างเกี่ยวการตั้งคำถามแปลก ๆ ของผู้สมัครคนอื่น ๆ ในวันรับสมัคร และเมื่อเข้ากลุ่มไลน์ของผู้สมัครใน อ.คลองหลวง จาก 16 คน แต่มีผู้มาแสดงตัวแค่ 4 คน นอกจากนี้ยังเล่าถึงบรรยากาศการเลือกในระดับอำเภอ รู้สึกว่าถึงความอึดอัดในกลุ่มอาชีพของตัวเอง
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/06/448093880_1004710744349978_8133017891589117748_n_0.jpg)
นักวิชาการ ชี้กระบวนการเลือก สว. บิดเบี้ยว
ช่วงสุดท้ายยังมีเสวนา “ติดตามผลและปัญหาการเลือก สว.” จากนักวิชาการ โดย ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า ระบบเลือกนี้เป็นระบบที่ใช้ไม่ได้ และการลงกลุ่มอาชีพนั้นก็มีปัญหามาก จะทำอย่างไรให้การเลือกระดับจังหวัดไม่มีปัญหา
ส่วนการร้อง กกต. มีเวลาแค่ 3 วันถึงวันที่ 12 มิ.ย.67 เท่านั้น หากผู้ที่ผ่านระดับจังหวัดเข้ามามีความไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อไปถึงระดับประเทศก็จะมีปัญหา ดังนั้น ระบบจึงร้องเป็นรอบ รอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วค่อยไปร้องเรียนจึงไม่ทัน
นอกจากนี้ยังเสนอว่าการเลือกในรอบที่จะถึงนี้ ต้องมีการรู้จักกัน อยากให้มีการแนะนำตัวให้เต็มที่ อย่าให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการฮั้วกัน และอย่างน้อยที่พูดมาก็มีน้ำหนักที่ กกต. รับฟัง
“ระบบนี้เป็นระบบที่อาศัยต้องอาศัยดวงในเป็น สว.”
ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/06/image-15-1024x768.png)
ขณะที่ ปุรวิชญ์ วัฒนสุข คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า เมื่อมีกระบวนการเลือกแบบนี้จะนำไปสู่การได้มาซึ่งสว. แบบไหน? และก็พอจะเห็นภาพแล้วว่า จะได้ สว. แบบไหนจากที่ผู้สมัครเล่ามา เนื่องจากกระบวนการบิดเบี้ยว ถ้าไม่อยากให้มีการจัดตั้ง ก็ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ที่มีแนวปฏิบัติ และมาตรฐานไม่เหมือนกันนั้น เห็นว่าเป็นปัญหาหลักเสมอมาในการเลือกตั้ง จึงขอให้ทำแต่ละพื้นที่มาตรฐานเท่ากัน
เช่นเดียวกับ รศ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ย้ำว่า การเลือกตั้ง สว. ในครั้งนี้มีการฮั้วกันจริง แต่ไม่ใช่ทุกพื้นที่ เนื่องจากบางพื้นที่อยู่ในเครือข่ายของบางหน่วยงาน แต่หลายพื้นที่เป็นไปอย่างอิสระ โดยอาศัยการแนะนำแลกเปลี่ยนกัน ชี้ว่าระบบการเลือกตั้งแบบนี้แม้ยังไม่สมบูรณ์ แต่ยังดีกว่าเอาปืนมาจี้ประชาชน แล้วมีการแต่งตั้ง สว. เหมือนครั้งที่ผ่านมา
จึงมีข้อเสนอแนะเพื่อให้ กกต. ไปปรับ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่อาศัยข้อบกพร่องของการเลือกเพื่อให้การเลือกล่ม หรือข้อร้องเรียน หากใครมีเจตนาแบบนี้ข้อให้เลิกความคิดนี้ แล้วหันมาช่วยกันตรวจสอบแทน ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าใครที่ได้เข้าไปเป็น สว. แล้วอาจโดนภาคประชาชน เก็บหลักฐานแล้วนำไปร้องเรียน ทำให้ สว. หลุดออกจากตำแหน่งได้ในภายหลัง