พีมูฟ นำข้าวต้มมัด ฝากถึง 8 พรรคร่วมฯ เรียกร้องให้จับมือกันแน่นตั้งรัฐบาล

ออกแถลงการณ์ ย้ำ 8 พรรคฝั่งประชาธิปไตย ต้องยึดมั่น เคารพเสียงประชาชน ยืนยันตามครรลองตามประชาธิปไตย หากมีความจำเป็น  ขปส.  ขอยืนยันรอได้ 10 เดือนเพื่อปิดสวิตช์ สว. 

วันนี้ (25 ก.ค.2566) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ( ขปส.) หรือ พีมูฟ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์เรื่อง ยืนยันหลักการ 8 พรรคร่วมตามเจตนารมณ์ประชาชน พร้อมรอ 10 เดือนปิดสวิตช์ สว. โดยได้นำข้าวต้มมัดมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ สื่อสารถึง 8 พรรคการเมืองให้มัดรวมกันแน่น อย่าแยกจากกันเหมือนข้าวต้มมัด 

“สัญลักษณ์ของข้าวต้มมัด คือการยืนยันว่า 8 พรรคการเมืองต้องรักกันให้เหมือนข้าวต้มมัด ก่อนหน้านั้นก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไปไม่ได้เพราะติด สว. ติด กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องรักก้าวไกลให้เหนียวแน่นเหมือนข้าวต้มมัด ไม่สามารถถีบพรรคก้าวไกลออกจากพรรคร่วมได้ ถ้าเพื่อไทยรักประชาธิปไตย ก็ต้องรักก้าวไกลและพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคที่ร่วมลงนามใน MOU ด้วย“ 

จำนงค์  หนูพันธุ์  ประธาน ขปส.  

แถลงการณ์ มีสาระสำคัญระบุว่า จากการประชุมสภาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 และวันที่ 19 กรกฎาคม2566 นับเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับภาคประชาชน จากปรากฏการณ์การเปิดประชุมสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จากพรรคที่ได้เสียงข้างมากกว่า 14 ล้านเสียงโดยการนำของพรรคก้าวไกล และรวมกันของอีก 7 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ รวมคะแนนได้ 312 เสียงเพื่อเสนอได้การจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ข้อตกลง MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล  แต่ถูกสกัดกั้นจากฝั่งผู้มีอำนาจทุกวิถีทาง ทั้งการใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และการอภิปรายถึงการแก้ไขมาตรา 112 ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่โจมตีฝั่งตรงข้าม รวมถึงท่าทีของสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่สนับสนุนฝั่งที่ได้เสียงข้างมากขึ้นมาเป็นรัฐบาล

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากกว่า 14 ล้านเสียงถูกกดดันอย่างหนักจาก สว. และพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ ที่ต่างออกปากว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลและไม่โหวตให้หากมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลท่ามกลางความพยายามของพรรคเพื่อไทยในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งทำให้เครือข่ายกังวลว่าพรรคก้าวไกลอาจถูกบีบออกจากพรรคร่วมรัฐบาล 

นอกจากนั้นการสังฆกรรมกับพรรคฝ่ายเผด็จการ อาทิ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ และชาติไทยพัฒนา ถือเป็นการละเลยเสียงเรียกร้องของประชาชนที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่แล้ว และเกิดกระแสตีกลับไปที่พรรคก้าวไกล ซึ่งเราเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นเกมการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งที่ความผิดนั้นเป็นของพวก สว. ที่ไม่เคารพเสียงของประชาชน 

แถลงการณ์ระบุ

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จึงขอประกาศจุดยืนและข้อเรียกร้อง ดังนี้

1.   8 พรรคฝั่งประชาธิปไตย ต้องยึดมั่น เคารพเสียงประชาชน ยืนยันตามครรลองตามประชาธิปไตย หากมีความจำเป็น ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอยืนยันรอได้ 10 เดือนเพื่อปิดสวิตช์ สว. เนื่องจากเราอยู่ในรัฐบาล คสช. มา 9 ปี และรอมาแล้วกว่า 91 ปีนับตั้งแต่การใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรก อยู่ในสังคมที่เสื่อมทรามไร้ความเป็นธรรมมาอย่างยาวนาน เราไม่ต้องการดำรงอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการอีกต่อไปและหากพรรคการเมืองใดคิดจะจับมือฝ่ายสืบทอดอำนาจเผด็จการ โดยจะไม่ยอมรับรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม ไม่เคารพและหักหลังประชาชน  

2. ขอส่งเสียงไปถึงสมาชิกวุฒิสภา ให้ยึดมั่นยืดหลักเคารพและฟังเสียงประชาชน โดยการโหวตสนับสนุนให้พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคที่มาจากเสียงข้างมากและยืนหยัดอุดมการณ์เคารพเสียงประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรีถ้ายังไม่เคารพเสียงข้างมากของประชาชนก็ลาออกไปเสีย อย่ามากินภาษีประชาชนอีก

3. เรายืนยันผลักดันการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทุกหมวด ทุกมาตรา เดินหน้ามุ่งสู่การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ล้มล้างรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็นมรดกเผด็จการ เป็นกลไกสืบทอดอำนาจที่เหนี่ยวรั้งประเทศให้ถอยหลัง

ดังนั้นเสียงประชาชน คือเสียงศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรมีผู้ใดที่จะขัดเจตนารมณ์นี้ 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active