ยุติชุมนุมชั่วคราว! ภาคีเพื่อนหมอสุภัทร เตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวใหญ่กว่าเดิม

สธ.รับคำร้องชาวบ้าน ปมโยกย้าย นพ.สุภัทร พร้อมดำเนินการตรวจสอบตามกรอบเวลา 30 วัน ขณะที่ อนุทิน – ปลัดโอภาส อยู่ จ.กาญจนบุรี ชงกัญชาไทยขึ้นทะเบียนมรดกโลก 

วันนี้ (10 ก.พ. ​2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.30 น. ชาวบ้านจะนะ จ.สงขลา ภาคีเพื่อนหมอสุภัทร ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านยุติการชุมนุมชั่วคราว หลังปักหลักอยู่กระทรวงสาธารณสุขมานาน 5 วันยังไม่ได้พบ อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์  ปลัดสธ. ทั้งยังรับหมายศาลให้ย้ายสถานที่การชุมนุมแต่ประกาศจะกลับมารวมตัวกันใหม่หลายเครือข่ายมากกว่าเดิม ยกระดับการชุมนุมและอาจพุ่งเป้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล

โดยแถลงการณ์ ของภาคีเพื่อนหมอสุภัทรและผู้รักความเป็นธรรม เรื่อง ขอพักการชุมนุมชั่วคราว เพื่อยกระดับการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ระบุว่า 

การแสดงออกของภาคีเพื่อนหมอสุภัทรและผู้รักความเป็นธรรม ซึ่งได้เดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึงวันนี้ นับรวมเวลา 5 วัน เรามีเจตนาอันบริสุทธิ์ที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมในการย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจออกจากโรงพยาบาลอำเภอจะนะ ไปยังโรงพยาบาลอำเภอสะบ้าย้อย ด้วยความประจักษ์ชัดว่ามีการใช้อำนาจทางการเมืองกลั่นแกล้ง นพ.สุภัทร อย่างไม่เป็นธรรม ถือเป็นความไม่ชอบธรรมของฝ่ายบริหาร เข้าลักษณะของการสร้างวัฒนธรรมอำนาจนิยมในกระทรวงสาธารณสุขอันนำไปสู่การทำลายธรรมาภิบาลของการบริหารราชการขององค์กรนี้อย่างน่าเป็นห่วง

การมาใช้พื้นที่ของกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้พวกเราพยายามใช้ความสงบและตั้งอยู่บนสิทธิเสรีภาพอันพึงมีเพื่อขอพบและยื่นหนังสือกับปลัดกระทรวงฯพร้อมกับต้องการคำอธิบายต่อเหตุผลอันแท้จริงในการย้าย นพ.สุภัทร ในครั้งนี้แต่ท่านกลับหลบเลี่ยงพวกเราหลายครั้ง ทั้งที่พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านกลุ่มเล็ก ๆ ที่เพียรพยายามเดินทางมาพบกับท่านจากจังหวัดสงขลา มาถึงสถานที่ทำงานของท่าน แต่ท่านกลับปฏิบัติกับเราเสมือนมิใช่ประชาชนของประเทศนี้และยังพยายามใช้อำนาจบารมีกดดันเจ้าพนักงานตำรวจให้กระทำการขับไล่พวกเราออกจากพื้นที่ของกระทรวงฯ ตลอดเวลา และทำการริดรอนสิทธิเสรีภาพของพวกเราทุกรูปแบบ

เราขอประกาศว่า การใช้วิธีดังกล่าวไม่ได้ทำให้เราหวั่นเกรงแต่อย่างใด ด้วยเพราะเชื่อมั่นว่าการแสดงออกในครั้งนี้ ตั้งอยู่บนเจตนาบริสุทธิ์และตั้งอยู่บนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันรับรองไว้ ถึงกระนั้นก็ตามเพื่อไม่ให้ทุกอย่างเป็นไปตามเกมส์ที่พวกท่านอยากให้เป็น เราจึงขอประกาศพักการชุมนุมไว้ก่อน และจะเตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวที่ใหญ่กว่าเดิม 

โอกาสนี้เราจึงขอสื่อสารไปยังทุกองค์กร/ภาคีเครือข่าย ผู้ยึดมั่นในความเป็นธรรมทั้งหลายร่วมกันแสดงออกอย่างถึงที่สุดเพื่อรักษาไว้ซึ่งธรรมาภิบาลในการบริหารกระทรวงสาธารณสุขให้คงอยู่ต่อไป ซึ่งจะมีการประกาศเคลื่อนไหวครั้งต่อไปในเร็ววันนี้

เลิศพันธุ์ เทียนทอง ผอ.สำนักงานบังคับคดี จ.นนทบุรี ได้อ่านคำสั่งศาล ระบุว่าการชุมนุมเป็นการรบกวนการทำงาน ใช้สถานที่ของรัฐ จึงขอย้ายไปชุมนุมสถานที่ที่จัดให้ ดังนั้น อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ม.22 วรรค 2 เห็นควรให้ไปชุมนุมที่สนามหญ้าด้านข้างใกล้ลานจอดรถ ที่จัดไว้ให้ชุมนุมและห้ามทำอะไรที่เป็นการรบกวนการปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้บริการสถานที่ แต่หากผู้ชุมนุมไม่เคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ดังกล่าวในระยะเวลาที่ศาลกำหนด ให้มีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมภายในวันที่ 10 ก.พ. เวลา 12.00 น.

สธ.รับคำร้องชาวบ้าน ปมโยกย้าย นพ.สุภัทร 

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงสาธารณสุขบอกกับ The Active ว่าวานนี้ (9 ก.พ. 2566) ได้ลงไปเยี่ยมชาวบ้านจะนะ พร้อมกับรับคำร้องที่กลุ่มชาวบ้านยื่นมาให้ตรวจสอบการโยกย้าย นพ.สุภัทร ออกจากโรงพยาบาลจะนะ ไม่เป็นธรรม ซึ่งก็ดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนโดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วันก็จะมีหนังสื่อตอบกลับผู้ร้อง 

อนุทิน – ปลัดโอภาส อยู่ จ.กาญจนบุรี ชูกัญชามรดกโลก 

ที่ วิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี นายอนุทินชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สัมมนาวิชาการ ยกระดับการเพาะปลูกกัญชาในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จังหวัดกาญจนบุรี มู่งสู่มาตรฐานอุตสาหกรรมทางการแพทย์ระดับโลก สนับสนุนสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเกษตรกรตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว รวมถึงเกณฑ์ประเมินและมาตรฐานการส่งออก เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ นำไปผลิตยาได้มาตรฐานและปลอดภัย 

โดยนายอนุทิน บอกว่า ประเทศไทยมีพืชสมุนไพรที่หลากหลายและมีคุณภาพดีขอให้นำประโยชน์จากสมุนไพรไทยมาใช้ในการเสริมสร้างสุขภาพประชาชนและสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ ด้วยการสนับสนุนเกษตรกรเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน ตามนโยบาย Health for Wealth สำหรับพืชกัญชายังถือเป็นคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ควรรักษาไว้ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอกัญชาไทยขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย และจะมีการเสนอต่อองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายในปีนี้ 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active