ชาวเลหลีเป๊ะบุก 4 กระทรวง ทวงคืนแผ่นดิน

ย้ำผลการศึกษาร่วม ก.มหาดไทย ก.เกษตรฯ พบการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบ แต่ถูกเพิกเฉย มานาน 33 ปี เครือข่ายชาวเลอันดามันบุกทวงถามให้เร่งดำเนินการ ก่อนที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะตกเป็นของนายทุน 

วันนี้ (16 ม.ค.) ตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ เครือข่ายชาวเลอันดามัน เดินทางทวงถามความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินระหว่างเอกชนกับชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ  ณ กระทรวงศึกษาธิการ  สลวย หาญทะเล ตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ บอกว่า เธอเดินทางมาร่วมกิจกรรม เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการคุ้มครองเด็ก ๆ นักเรียนโรงเรียนเกาะอาดัง ต.เกาะสาหร่าย อ. เมือง จ. สตูล เนื่องจากเวลานี้ ปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะ กำลังส่งผลกระทบกับเด็ก ๆ และบุคลากร ทางเข้าออกโรงเรียนถูกปิดตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว  เนื่องจากเอกชนอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 

“ตอนนี้เด็ก ๆ ลำบากมากต้องปีนรั้วข้ามรั้วเข้าโรงเรียน มันเป็นเรื่องความปลอดภัยด้วย เส้นทางนี้เราใช้มาตั้งนานแล้ว ขนปลาก็ทางนี้”

ด้าน วิทวัส เทพสง ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวเล บอกว่าปัญหาเวลานี้ลุกลามเหมือนมะเร็ง จากเดิมที่เคยต่อสู้ตั้งแต่ปี 2547 หลังเห็นอาการเจ็บป่วย แต่ตอนนี้ลุกลาม ทั้งการฟ้องร้อง ปิดทางสาธารณะ สุสานถูกแย่งชิง ศาลบรรพบุรุษซึ่งเป็นศาลของโต๊ะคีรี ที่บุกเบิกเกาะหลีเป๊ะก็ไปตกอยู่ในที่ดินของเอกชน 

“มะเร็งระยะสุดท้าย พี่น้องเกาะหลีเป๊ะกำลังจะตาย อยู่ไม่ได้แล้ว พี่น้องสุด ๆ แล้ว ที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะเป็นของเขาบรรพบุรุษที่เขาทำมาไม่เหลืออยู่แล้ว ต้องร่วมกันปกป้องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะไม่ใช่แค่ให้เราแต่ให้นักท่องเที่ยวและพี่น้องคนไทยด้วย”

สำหรับเอกสารที่ยื่นต่อ ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการระบุว่า ภาคเอกชนพยายามยึดที่ดินของโรงเรียนไปเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง โดยตามแผนที่ราชพัสดุ ทะเบียนที่ สน.๒๘ ระบุที่ดินเป็นที่ตั้งของโรงเรียนไว้จำนวน 600-10.4 ไร่ โดยรูปที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ปัจจุบันกลับโดนเอกชนพยายามชี้เขตที่ดินของตนเองรุกล้ำเข้ามาในเขตโรงเรียน อีกทั้งมีการข่มขู่ คุกคาม ทางเครือข่ายชาวเลอันดามันและภาคีเครือข่าย จึงเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการขอให้กระทรวงฯ เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงด้านการคุกคามสิทธิและสวัสดิการของเด็กและบุคลากร กำหนดมาตรการในการป้องกันมิให่เกิดเหตุดังกล่าวอีก ขอให้เร่งพิสูจน์ขอบเขตที่ดินของโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง และหากพบว่ามีการบุกรุกที่ดินของโรงเรียนขอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว รวมถึงหาแนวทางเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ

บุก กระทรวงมหาดไทย เรียกร้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ซึ่งผ่านการศึกษาแล้วตามมติ ปี 2533

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ เครือข่ายชาวเลอันดามัน เดินทางไปยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้เร่งดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งมีผลการศึกษาว่าออกโดยมิชอบแล้ว ไมตรี จงไกรจักร์  มูลนิธิชุมชนไท บอกว่า มีความเห็นของคณะกรรมการชุดที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันศึกษาและเสนอมติเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2533 โดยมีผลการตรวจสอบว่ามีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ค.1 ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายทั้งสิ้น 17 แปลง และเห็นควรให้จำหน่ายและมี นส. 3 จำนวน 12 แปลง ที่ออกโดยมิชอบตามกฎหมาย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการตามมติดังกล่าว

“เรามาวันนี้ก็อยากรู้เหมือนกันว่า ทำไมผ่านมา 33 ปีแล้วถึงไม่มีการเพิกถอนที่ดินที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ถ้าท่านจริงจังก็ให้เริ่มใหม่ใช้ข้อมูลที่เราทำให้ก็ได้เผื่อท่านไม่มีเวลาอ่าน พี่น้องชาวเลไม่ได้ต้องการที่ดินทั้งหมด เราขอแค่ส่วนหนึ่งเท่าที่อยู่ร่วมกัน ในรูปโฉนดชุมชนหรืออื่น ๆ เพื่อป้องกันที่ดินหลุดมือ”

สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ตามกำหนดการ “ชาวเลหลีเป๊ะทวงคืนแผ่นดิน” วันพรุ่งนี้(17 ม.ค.) จะเดินทางไปที่องค์การสหประชาติ หรือ ยูเอ็น เพื่อยื่นหนังสือในประเด็น ”รัฐไทยกับการละเลยปฏิญญาการคุ้มครองกลุ่มชาติพันธ์ุ“ จากนั้นไปกระทรวงการคลัง  ติดตามประเด็น “เอกสารสิทธิ์เอกชนรุกที่ดินโรงเรียน“ จากนั้นไปยื่นหนังสือต่อที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ประเด็นการบังคับใช้กฎหมายในการทวงคืนที่ดินอุทยาน”  

ส่วนวันที่ 18 ม.ค. นี้ จะเดินทางต่อไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อมูลถึง  พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี วันที่  19 ม.ค. นี้ จะมีการแถลงกระบวนการฮุบที่ดินชาวเล และกิจกรรมวันสุดท้าย วันที่ 20 มกราคม ยื่นข้อมูลชาวเลเกาะหลีเป๊ะให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินของชาวหลีเป๊ะ

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active