กลุ่มราษฎร และขบวนประชาชน 4 ภาค ผนึกกำลัง ไล่ พล.อ. ประยุทธ์ พ้นนายกฯ

เรียกร้อง ‘ศาล รธน.’ เร่งวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ “พล.อ. ประยุทธ์” เกิน 8 ปี ขัด รธน. ขอ ‘รัฐสภา’ เร่งแก้ รธน. ตัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ

วันนี้ (21 ส.ค.65) ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มราษฎร ขบวนประชาชน 4 ภาค และภาคีเครือข่ายรวม 38 องค์กร นำโดย รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, สมบูรณ์ คำแหง, ธนพร วิจันทร์, ธัชพงศ์ แกดำ, ชุมาพร แต่งเกลี้ยง ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ราษฎรและขบวนประชาชน 4 ภาค  ‘ให้มันจบที่ 8 ปี’ พอกันทีนายกเถื่อน ผนึกกำลังและเชิญชวนภาคีองค์กรภาคประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ร่วมผนึกกำลังขับไล่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นนายกรัฐมนตรี หลังดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค. นี้

สาระสำคัญในแถลงการณ์ ระบุว่า ถึงช่วงเวลากว่า 8 ปี ที่สังคมไทยตกอยู่ในช่วงเวลาที่มีการสืบทอดอำนาจผ่านกลไกที่ไร้ความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกพ้อง ที่สร้างวิกฤตการณ์ทางการเมือง ใช้อำนาจอำนวยผลประโยชน์กลุ่มชนชั้นนำ วางกลกไกสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญ โดยไม่สนใจคำคัดค้านจากประชาชน

อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีการบัญญัติเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้ในมาตรา 158 วรรค 4 ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่ง ติดต่อกันหรือไม่แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง” รวมทั้ง ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 170 วรรคสอง ได้บัญญัติไว้ด้วยว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดตามมาตรา 158 วรรค 4 ด้วย” 

“เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 และรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 264 ได้บัญญัติไว้ว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้…” จึงต้องถือว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องสิ้นสุดลงในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นวันครบกำหนด 8 ปี ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การจะตีความตัวบทกฎหมาย ย่อมไม่สามารถจะพลิกแพลงตลบตะแลงเปลี่ยนไปเป็นอื่นได้“

แถลงการณ์ระบุ 

สำหรับข้อเรียกร้องก่อนการเลือกตั้ง ระหว่างการอ่านแถลงการณ์ 3 ข้อ คือ

  1. ให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที
  2. หาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ลงจากอำนาจ ศาลธรรมนูญต้องมีคำวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2565
  3. ให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

ด้าน สมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช) กล่าวว่า การเข้าร่วมครั้งนี้ได้ผ่านการหารือคณะกรรมการทั้ง 4 ภาค ซึ่งเห็นตรงกันว่าหลักนิติรัฐในประเทศนี้จะต้องได้รับการเคารพ ซึ่งนายกฯ ประยุทธ์ ก็บอกเช่นนี้มาตลอด แต่เหตุใดกำลังละเมิด และ 8 ปี ที่แปดเปื้อน รัฐบาลชุดนี้มีการบริหารงานที่ฉ้อฉล สมคบคิดกับกลุ่มทุนร่วมกันปล้นแผ่นดินและเข้ายึดกุมฐานทรัพยากรทั้ง ดิน น้ำ ป่า ทะเล โดยการผลิตนโยบายและโครงการต่าง ๆ เช่น ทวงคืนผืนป่า คุกคามสิทธิชุมชน รวมถึงกลุ่มชาติพันธ์ นิคมอุตสาหกรรมท่าเรือน้ำลึก สร้างเขื่อน ขุดแร่ หาผลประโยชน์จากฐานพลังงาน ทั้งไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่สนใจความทุกข์ร้อนของประชาชน และไม่สนใจที่จะสร้างระบบรัฐสวัสดิการอย่างแท้จริง  

“ทั้งยังลดทอนและทำลายความคิดเห็นและเสรีภาพทางสังคม การเมือง ของประชาชนทุกกลุ่ม เพียงเพื่อรักษาไว้ซึ่งฐานอำนาจของตนเองและพวกพ้อง จนแทบจะสูญสิ้นความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ และนี่คือเหตุผลเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น ที่ยืนยันว่า ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป“ 

สมบูรณ์ คำแหง

ประธาน กป.อพช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การแถลงการณ์ร่วมครั้งนี้ ถือเป็นการประกาศจุดเริ่มต้นการเคลื่อนไหว โดยหลังจากนี้จะจับตาอย่างใกล้ชิด หากวันที่ 24 สิงหาคม นี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ออกจากตำแหน่ง ไม่เป็นไปตามขอเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อย่างแน่นอน 

Author

Alternative Text
AUTHOR

ทัศนีย์ ประกอบบุญ

นักข่าวสายลุย เกาะติดประเด็นแล้วไม่มีปล่อย รักการเดินทาง หลงรักศิลปะบนรองเท้า และชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ