เปิดแคมเปญ “ก้าวไกล NEXT” วางยุทธศาสตร์ 7 มิติ หวัง กวาด ส.ส. มากที่สุด ทุกภาค ‘พิธา’ ย้ำจุดยืนรักษาความหวังประชาชน เปลี่ยนแปลงประเทศ
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/08/B0EBAC7F-A498-4706-B86F-E012F0F5ADB0-1024x683.jpeg)
วันนี้ (7 ส.ค. 65) ที่อาคารอนาคตใหม่ หัวหมาก พรรคก้าวไกล แถลงเปิดแคมเปญ “ก้าวไกล NEXT” เตรียมพร้อมการเลือกตั้งครั้งใหญ่ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมนำเสนอทิศทางการปฏิรูปพรรคก้าวไกล
7 มิติ ปฏิรูปพรรค สู่อนาคตที่ก้าวไกลกว่าเดิม
พิธา กล่าวว่า แคมเปญ “ก้าวไกล NEXT” เกิดขึ้นเพื่อเป็นโอกาสปฏิรูปพรรคให้ดีมากขึ้น และเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เป็นภารกิจของการตามหาอนาคต เพราะมองว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลอาจจะยังทำงานได้ไม่เพียงพอ ต่อวิกฤตที่ประเทศเผชิญ ทั้ง สถานการณ์โควิด-19 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาค่าครองชีพ สินค้าราคาแพงที่ประชาชนเผชิญ จึงคิดว่าในอนาคตเราต้องทำงานให้หนักมากกว่านี้
“ไม่ใช่แค่การมองหาอนาคตอย่างเดียว แต่มันคือเรื่องในอดีตด้วย ความตั้งใจสำคัญ ที่เคยมีมาตั้งแต่ครั้งพรรคอนาคตใหม่ จะยังมีต่อไป คือ การยุติรัฐราชการรวมศูนย์ การทลายทุนผูกขาด และการปฏิรูปกองทัพ และสุดท้าย คือการทำพรรคการเมือง ให้เป็นพรรคของมวลชนอย่างแท้จริง ผ่านฐานรากที่เข้มแข็งที่เราทำมาตลอด”
สำหรับการปฏิรูปพรรคก้าวไกล พิธา บอกว่า พรรคได้ตั้งประเด็นไว้ 7 มิติ คือ 1.ผู้แทนฯ ที่อยากเห็น กระบวนการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ และการอบรมพัฒนา 2.สื่อของพรรค ช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ออนแอร์ และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ 3.การนำเสนอนโยบาย การสื่อสาร กลุ่มเป้าหมาย และการจัดทำนโยบายที่หลากหลาย 4.งานสภา การร่างกฎหมาย การอภิปราย กรรมาธิการและการทำงานร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/08/D5DD8027-6F29-4C47-B8B8-A66E76B33E1C-1024x683.jpeg)
5.การทำงานเชิงพื้นที่ การเข้าถึงประชนฐานราก และการแก้ปัญหาในพื้นที่ การทำงานกับหน่วยงานราชการและชุมชน 6.งานสมาชิกและอาสาสมัคร การสร้างและพัฒนาอาสาสมัคร การมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค แคมเปญและวิธีการรับสมัคร และ 7.การระดมทุน ช่องทางการสนับสนุน และแคมเปญการระดมทุน
โดยทั้งหมดนี้จะเปิดกว้างให้ประชาชนได้เข้าร่วมใน 2 รูปแบบ คือ 1.การจัดทำกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นในลักษณะของทาวน์ ฮอลล์ โดยผมและแกนนำพรรคก้าวไกลจะเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อพบปะประชาชน และ 2. ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ https://next.moveforwardparty.org โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ มีวงคุยแรกนี้กับสื่อมวลชน จากนั้นจะตระเวนไปทุกภูมิภาค ก่อนที่จะมีเวทีใหญ่วันที่ 28 ส.ค.นี้
“ทั้งหมดที่เราระดมความเห็นนี้ ก็จะนำมาสู่การเปิดแคมเปญใหญ่ในวันที่ 9 เดือน 9 ซึ่งจะเป็นก้าวต่อไปของเราที่จะก้าวไกลกว่าเดิม จริงอยู่ว่าเราต้องการ ส.ส.เข้าสภาให้มากที่สุด แต่เราก็ต้องทำงานทางความคิดด้วย ทำให้คนชื่อว่าสังคมที่ก้าวหน้าเป็นไปได้ ยังมีความหวัง ในช่วงเวลาที่ประชาชนหมดหวังมากที่สุดตลอดหลายสิบปีมานี้”
ตั้งเป้าเป็นรัฐบาล กวาด ส.ส. ให้มากที่สุด ผ่านยุทธศาสตร์ใหม่
ชัยธวัช ตุลาธน กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคก้าวไกล มี 3 เป้าหมาย คือ 1.เพื่อเป็นรัฐบาลให้ได้ เพราะยอมรับว่าประเทศไทยภายใต้ระบอบประยุทธ์ 8 ปี ที่ผ่านมาตกต่ำทุกด้านทางรอดทางเดียวก่อนที่จะเกินเยียวยา คือ ฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปพลิกขั้วระบอบประยุทธ์ นี่คือทางออกเดียว ต้องผลักดันให้เกิดฉันทามติฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งครั้งหน้าให้ได้ 2.เพื่อขยายจำนวน ส.ส.เขตให้มากที่สุด และมี ส.ส.เขตอยู่ในทุกภูมิภาค เพราะเราต้องการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และ ส.ส.เขตจะเป็นฐานที่มั่นในการทำงานกับประชาชนที่แข็งแกร่งที่สุดของพรรค และ 3.เพื่อต่อยอดและรักษาความหวัง ความเชื่อมั่น ว่าประชาชนสามารถร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ก้าวหน้าได้ผ่านระบบรัฐสภา
“ชัยชนะหรือความล้มเหลวของพรรคก้าวไกลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นเดิมพันต่อความหวังและความเชื่อมั่นนี้ ทุกคะแนนเสียงที่เราได้รับจะเป็นทุกคะแนนเสียงที่เป็นคำตอบว่าประชาชนยังมีความหวัง และความเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้าขึ้นสามารถเกิดขึ้นได้ผ่านระบบรัฐสภาและพรรคการเมืองของประชาชน”
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/08/6AC20886-2940-4981-9404-BB6B8A2C818F-1024x683.jpeg)
เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายดังกล่าว มีสิ่งที่ต้องทำอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.การเตรียมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่จะเป็นตัวแทนประชาชนให้ดีที่สุด พร้อม ๆ กับการสร้างรากฐานของพรรคให้เข้มแข็งหลังจากถูกทำลายสมัยที่เราเป็นพรรคอนาคตใหม่ เริ่มฟื้นฟูคณะกรรมการระดับจังหวัด กรรมการระดับเขต พร้อมกับการสรรหาว่าที่ผู้สมัครส.ส.กว่า 400 เขตและทดลองทำงานร่วมกันแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจะดีขึ้นกว่าอนาคตใหม่อย่างมาก โดยเป็นหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ทุกคนเข้าใจจุดยืนและวิถีการทำงานของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างดี
2.การทำนโยบาย ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการตั้งศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต หรือ Think Forward Center ซึ่งมี เดชรัตน์ สุขกำเนิด เป็นผู้อำนวยการ ทำงานประสานกับฝ่ายนโยบายของพรรคและคณะทำงานจังหวัดทั่วประเทศ เราจะมีนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศไทยทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ตอบโจทย์ทั้งระดับประเทศและระดับพื้นที่ และจะเป็นนโยบายที่ประสานนโยบายการเมือง หรือนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ควบคู่ไปกับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าและเป็นธรรมอย่างเป็นเอกภาพ
3.การปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ เพื่อที่จะนำไปสู่การเก็บบทเรียนความผิดพลาดและจุดแข็งหรือความสำเร็จในอดีต เพื่อให้พรรคก้าวไกลตอบสนองความต้องการประชาชนได้มากกว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา นำไปสู่การรีเฟรซ ภาพลักษณ์ การจดจำ ต่อพี่น้องประชาชน ทำให้ตัวตนที่แข็งแรงอยู่แล้วชัดเจนมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีความสดใหม่เข้ากับสถานการณ์และอารมณ์พี่น้องในปัจจุบันมากขึ้น
“วันนี้ เราแตกต่างอย่างมากกับพรรคอนาคตใหม่ เพราะตอนนั้นเรามีกระแสสดใหม่ แต่คราวนี้เราไม่ใช่พรรคการเมืองใหม่ในสนามการเมืองไทยอีกแล้ว แต่เราเป็นพรรคการเมืองที่ได้พิสูจน์การทำงานให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่า พรรคทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นทีม มีประสิทธิภาพ ใช้ความรู้ ความเข้าใจ และกล้าหาญในการทำงาน”
ยันไม่ใช่เก่งแต่พูด ขอโอกาสบริหารประเทศ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีถูกมองว่าเก่งแต่พูด แต่ไม่สามารถบริหารได้จริงนั้น ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคก้าวไกลทุกคน ทำหน้าที่โดยไม่ได้คิดว่าเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แต่หากอยากรู้ว่าสามารถบริหารได้หรือไม่ ต้องพิสูจน์ผ่านการทำงาน เท่าที่สภาฯ จะอนุญาตให้ทำได้ และตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ว่าข้อเสนอแนะ และการทำหน้าที่ในสภาฯ นำไปสู่การแก้ปัญหาได้จริง
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/08/D95144C5-D0BE-4AE3-BF8B-F88E11C1BBE6-1024x683.jpeg)
“อันนี้ต้องพิสูจน์ให้ดูผ่านการทำงาน แต่การสื่อสารถึงข้อเสนอเชิงนโยบาย กว่าจะสกัดออกมาได้ ว่าปัญหาคืออะไรการแก้ไขคืออะไร อย่างเป็นลำดับขั้นตอน ไม่ได้มาได้จากการไม่รู้ แต่ผ่านการศึกษามาแล้ว กว่าจะออกมาอย่างถ้วนถี่การสื่อสารได้ว่าจะแก้อย่างไร จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน”
ขณะที่ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เสริมว่า แม้จะยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปบริหารประเทศ ในฐานะรัฐบาล แต่การทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล ทั้งในคณะกรรมาธิการ การอภิปรายในสภา ล้วนสร้างความเชื่อมั่นในกับประชาชน ที่ก่อนหน้านี้พรรคเคยโดนดูถูกว่าเป็น ส.ส. หน้าใหม่ จะทำหน้าที่ในสภาฯ ได้หรือ ซึ่งปัจจุบันประชาชนได้รับคำตอบแล้วว่า ส.ส.ของพรรค ทำหน้าที่นี้ได้ดีหรือไม่
จุดยืน สถาบันฯ จัดวางตำแหน่ง ลดความขัดแย้ง แก้รัฐธรรมนูญ และงบประมาณ
ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ นั้น พรรคก้าวไกลได้ทำหน้าที่อภิปราย และพูดความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนของสังคมไทยผ่านสภาฯ มาโดยตลอด พูดถึงอย่างกล้าหาญ อย่างมีวุฒิภาวะ และสุภาพ โดยมองไปที่การแก้รัฐธรรมนูญ และระบบงบประมาณให้สามารถตรวจสอบได้ พร้อมต้องการจัดวางสถาบันฯ ไว้ในพื้นที่ซึ่งจะลดความขัดแย้งให้คนในประเทศ และหันไปคิดในเรื่องอื่นซึ่งส่งผลดีกว่า ทั้งการศึกษา เศรษฐกิจ และเรื่องปากท้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมในช่วงท้าย พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แนะนำเว็บไซต์ https://next.moveforwardparty.org ขั้นตอนการร่วมแสดงความคิดเห็นในรูปแบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทาวน์ฮอลล์กับสื่อมวลชน เพื่อให้ข้อคิดเห็นในการปฏิรูปพรรคก้าวไกลด้วย