หน่วยงานรัฐ รับสภาพ “ระบบราชการ” ข้อจำกัด ทำกลไกขับเคลื่อนแก้ปัญหา “ชาติพันธุ์ชาวเล” ล่าช้า ขณะที่ ผู้ตรวจราชการ พม. ย้ำ ต้องปรับแนวคิด แก้ปัญหาเฉพาะกลุ่ม ต้องไม่มีตัดเสื้อโหล
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/DSC07743-Large-1024x683.jpg)
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 ศูนย์ประสานงานเครือข่ายชาวเลอันดามัน จัดงาน “รวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล” (มอแกน มอแกลน อูรักลาโว้ย) ครั้งที่ 13 ภายใต้ชื่อ “โอบกอดฉันไว้ จนกว่าจะเจอความยุติธรรม” จัดขึ้นที่ชุมชนชาวเลแหลมหลา-หินลูกเดียว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ปรีดา คงแป้น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ระบุในเวทีเสวนา “สถานการณ์สุขภาวะและคุณภาพชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล” ย้ำว่า ชาวเลเป็นชาติพันธุ์กลุ่มแรกที่มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับรอง คือ มติ ครม. 2 มิถุนายน 2553 ที่ผ่านมาชาวเลปะทะกับภัยคุกคามใหญ่ 2 เรื่องหลัก คือ นโยบายพัฒนาการท่องเที่ยว ที่กระทบต่อพื้นที่ทำกิน ที่อยู่อาศัยของชาวเล อีกเรื่องสำคัญ คือ นโยบายการประกาศเขตพื้นที่อนุรักษ์ ทำให้ชาวเลถูกเบียดขับออกจากชุมชนดั้งเดิม บางชุมชนตกอยู่ในสถานะผู้บุกรุก ไร้ซึ่งสิทธิและโอกาสการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมไปถึงการสูญเสียวิถีวัฒนธรรม ประเพณีในแบบฉบับของตัวเอง
“ถามว่าหวังอะไร ตอนนี้อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยดี ตามกลไกที่เกิดขึ้นผ่านมติ ครม. พี่น้องจะได้ไม่ต้องไปร้องเรียน กสม. ก็ต้องติดตามการแก้ไขปัญหา คาดหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาชาวเลอย่างเป็นรูปธรรม”
ปรีดา คงแป้น
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/DSC07732-Large-1024x683.jpg)
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/DSC07708-Large-1024x683.jpg)
พม. ย้ำ ปรับหลักคิด หยุดตัดเสื้อโหล แก้ปัญหาชาติพันธุ์
กิตติ อินทรกุล ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระบุว่าจากนี้ พม. จะไม่ใช้วิธีการแก้ไขปัญหาแบบตัดเสื้อโหล สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ อย่างกลุ่มชาวเลทั่วประเทศจะต้องได้รับการจัดสวัสดิการเฉพาะกลุ่มเป้าหมายอย่างเหมาะสมกับกลุ่มชาติพันธุ์ในอนาคต บทบาทสำคัญคือ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ต้องไปดำเนินการ ทำให้งานชาติพันธุ์เป็นงานหลัก งานใหญ่ จึงต้องการให้ทุกหน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อน ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนบอกว่าทำงานหมด แต่ไม่ได้เจาะจงลงไปชัดเจน
“อยากให้มาทบทวนโครงสร้างของ พส. ว่า จะขยายงานไปสู่กลุ่มชาติพันธุ์อื่นอย่างไร โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2568 พม.จะตั้งงบประมาณไปช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิต เปลี่ยนบทบาทจากการตัดเสื้อโหล เป็นการตัดเสื้อตามเป้าหมายเฉพาะ ถือเป็นกรอบการทำงานในอนาคต”
กิตติ อินทรกุล
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/DSC07693-Large-1024x683.jpg)
เล็งประกาศพื้นที่คุ้มครองชาวเล อย่างน้อย 10 ชุมชน ปีหน้า
ในเวทีฯ ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ อย่าง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ในพื้นที่ 5 จังหวัดอันดามัน, ตัวแทนศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) และหน่วยงานท้องถิ่น ได้ให้ข้อมูลว่า การ “ประกาศพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล” ต้องอยู่บน 3 เงื่อนไขสำคัญ คือ ฐานข้อมูลชุมชน, กระบวนการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุมชน รวมถึงการมีธรรมนูญชุมชนเป็นกติการ่วมกัน ซึ่งหน่วยงานรัฐให้ข้อมูลว่า เวลานี้ มีชุมชนที่จัดทำฐานข้อมูลพร้อมแล้ว 17 ชุมชน แต่ยังติดขัดข้อจำกัดบางเรื่องจึงยังประกาศพื้นที่คุ้มครองฯ ไม่ได้ อย่างไรก็ตามคาดว่า ภายในปี 2567 น่าจะมีอย่างน้อย 10 ชุมชน ที่มีความพร้อม ได้ประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ฯ
ตัวแทนหน่วยงานรัฐ ยังยอมรับด้วยว่า อุปสรรคสำคัญที่ทำให้การขับเคลื่อนการประกาศพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลทำได้ล่าช้า คือระบบราชการ และการจัดทำเอกสารที่ต้องทำร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ และชุมชน อีกประเด็นสำคัญที่ยังเป็นข้อจำกัดของระบบราชการ คือ อคติที่มีต่อชาติพันธุ์ ที่มองว่า ไม่ใช่คนไทย เป็นคนล้าหลัง ซึ่งถือเป็นอคติเฉพาะของบางหน่วยงาน จึงเชื่อว่าเป็นบทบาทของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ ต้องสร้างกระบวนการทำงาน ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อย้อนมาสู่ความเข้าใจของภาคราชการด้วย
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/DSC07619-Large-1024x683.jpg)
สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล เป็นชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิม อยู่หากินบริเวณทะเลอันดามันมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 300 ปี ปัจจุบันมีชุมชนชาวเล 46 ชุมชน กระจายอยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จ.ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, สตูล และกระบี่ มีประชากรประมาณ 14,000 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ มอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย
ส่องสถานการณ์ ผลกระทบวิถีชาติพันธุ์ชาวเล
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากชาวเลอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวอันดามัน แม้ผ่านมา 13 ปี ภายหลังมีมติ ครม. 2 มิถุนายน 2553 แต่ปัญหาชาวเลก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ชุมชนชาวเลยิ่งถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน เช่น ความไม่มั่นคงด้านที่อยู่อาศัย มี 25 ชุมชน ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิเป็นของตัวเองทั้ง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่มาดั้งเดิม แต่ที่ดินกลับกลายเป็นพื้นที่ของรัฐหลายประเภท นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่ทำกินในทะเล
ความไม่มั่นคงด้านที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการประกาศเขตอุทยานฯ การไร้ซึ่งพื้นที่จิตวิญญาณ สุสาน และพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พื้นที่ประกอบพิธีกรรมถูกคุกคาม รุกราน จากการสำรวจพบว่า กำลังเกิดปัญหาขึ้นถึง 15 แห่ง ที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบทับพื้นที่จิตวิญญาณของชาติพันธุ์ชาวเล
นอกจากนั้น ยังมีปัญหาเรื่องการศึกษา ภาษา และวัฒนธรรม ที่กลุ่มลูกหลานชาวเลไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ ขาดความภาคภูมิใจในภาษา และวัฒนธรรมของตัวเองทำให้เสี่ยงที่จะสูญหายไป
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/DSC07679-Large-1024x683.jpg)
ขณะเดียวกันยังพบ ปัญหาด้านสุขภาวะ เข้าไม่ถึงระบบบริการสาธารณสุข รวมทั้ง ปัญหาการไร้ซึ่งสัญชาติ โดยพบว่ายังมีชาวเลอีกกว่า 400 คน ไม่มีสัญชาติไทย
สำหรับงาน “รวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล” ครั้งที่ 13 จะได้ร่วมกัน ประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตชุมชน กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลหินลูกเดียว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตชาวเล แห่งที่ 2 ด้วย