สร้างนวัตกรรม 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ แก้โจทย์ช่วยเด็กไปต่อไม่ไหวระบบแพ้คัดออกการศึกษาไทย ผุดทางเลือกการเรียนรู้ ยืดหยุ่นเงื่อนไข เวลาเรียน เปิดโอกาสนำ ‘วิชาชีพ’ วัดผล ‘วิชาเรียน’ เล็งขยายผล กระจายความเป็นเจ้าของทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน ร่วมแก้ปัญหาการศึกษา
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/09/522521-1024x614.jpg)
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.66 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับ สมัชชาการศึกษาจังหวัดราชบุรี เครือข่ายหน่วยงานรัฐ และ ภาคเอกชน เปิดพื้นที่นวัตกรรมการเรียนรู้ ตอบโจทย์ชีวิต ราชบุรี ‘Zero Dropout’ เด็กทุกคนต้องได้เรียน สร้างพื้นที่ทำงานร่วมกันให้กับหน่วยงานที่จัดการศึกษาทุกประเภท และทุกภาคส่วนใน จ.ราชบุรี เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
กสศ. พบข้อมูลเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาในประเทศไทย มี 35,003 คน สาเหตุของการออกจากโรงเรียนกลางคัน อันดับแรกคือ ความยากจน (ร้อยละ 22.38) รองลงมาคือ ปัญหาในครอบครัว (ร้อยละ 13.40) และ เด็กถูกผลักออกจากระบบ เนื่องจากปัญหาพฤติกรรม (ร้อยละ 10.77) ในจำนวนเด็กที่หลุดออกจากระบบเหล่านี้ 4 ใน 5 ไม่มีเป้าหมายด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพที่ชัดเจน แม้ว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษาก็ตาม
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/09/522518-1024x576.jpg)
ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. ระบุว่า ในแต่ละปีมีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาเป็นจำนวนมาก ปีละแสนกว่าคน โดยเฉพาะช่วงรอยต่อในการเปลี่ยนช่วงชั้นการศึกษา (ป.6 ขึ้น ม.1 หรือ ม.3 ขึ้น ม.4) จะมีเด็กออกจากระบบไปด้วยเหตุผลของความยากจนเป็นหลัก และความยากจนเป็นรากปัญหาของสาเหตุทั้งหมด เช่น การอาศัยอยู่ในแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ปัญหาครอบครัวแยกทางกัน ตลอดจนปัญหายาเสพติด
หากภาครัฐ สามารถนำเด็กที่หลุดไปคืนกลับสู่ระบบการศึกษา (ทั้งในและนอกระบบ) ได้ทั้งหมด จะสามารถเพิ่ม GDP ในประเทศได้ถึงร้อยละ 3 และ ถ้าสามารถทำให้เด็กจบการศึกษาในระดับสูงขึ้นได้ เช่น ปวช. ปวส. ปริญญาตรี พวกเขาจะมีโอกาสยกระดับรายได้มากขึ้น นำไปสู่การจัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้มากกว่าเดิม เพราะมีจำนวนประชากรที่มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำของการจัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น ภาษีนี้ก็จะเข้าหนุนระบบการศึกษาอีกครั้ง เป็นวัฏจักรที่ทำให้สังคมไทยก้าวหน้าต่อไปได้ด้วยคำว่า “โอกาสทางการศึกษาถ้วนหน้า”
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/09/6207-1024x683.jpg)
‘ราชบุรีโมเดล’ นวัตกรรมเรียนรู้ 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
สำหรับพื้นที่นวัตกรรมการเรียนรู้ ตอบโจทย์ชีวิต จ.ราชบุรี หรือที่เรียกว่า ‘ราชบุรีโมเดล’ นี้ กสศ.วางบทบาทการทำงานเอาไว้ 3 โจทย์สำคัญ คือช่วงตั้งต้นปีแรก ในปี 2565 เน้นไปที่การ ‘ฟื้นฟูโอกาส’ ซึ่งเวลานั้นอยู่ในช่วงหลังวิกฤตโควิด โจทย์สำคัญที่ กสศ.พยายามทำคือ สร้างโอกาสและหลักประกันการศึกษา เช่น การให้ทุน ป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากระบบ การฟื้นฟูโรงเรียน ให้มีโอกาสจัดการศึกษาที่ต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์โควิด
เมื่อฟื้นฟูโอกาสได้แล้ว ปีที่ 2 คือในปีนี้ ก็มองว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เด็กหลุดออกจากระบบ หรือเด็กที่อยู่นอกระบบ ทำอย่างไรถึงจะมีหลักประกันโอกาสการเรียนรู้ตามที่ต้องการ รวมถึงโอกาสการทำงานด้วย ดังนั้นจำเป็นที่โรงเรียนต้อง ‘ยืดหยุ่น’ เพื่อสร้างความเสมอภาคให้เกิดขึ้นตั้งแต่ในโรงเรียน ไม่ควรมองโจทย์การศึกษาแค่ด้านเดียว ต้องทำให้ระบบยืดหยุ่น จนเกิดเป็น 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ขึ้นซึ่งปัจจุบันเริ่มต้นไปแล้วในโรงเรียน 12 แห่ง ที่เอื้อให้เกิดการจัดการศึกษา 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. การศึกษาในระบบ 2. การศึกษานอกระบบที่ยืดหยุ่นด้วยเนื้อหา หลักสูตรที่สอดคล้องกับปัญหา และความต้องการของผู้เรียน รวมถึง 3. การศึกษาตามอัธยาศัย เรียนรู้ตามศักยภาพ และความสนใจ โดยทั้ง 3 รูปแบบนี้ สามารถเทียบโอนผลการเรียนที่สะสมไว้ระหว่างเรียนในรูปแบบเดียวกันหรือต่างรูปแบบก็ได้ อีกทั้งยังมีทางเลือก ผ่านศูนย์การเรียนรู้ สร้างโอกาส ผ่านพื้นที่การเรียนรู้ที่สร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมจัดการศึกษาอย่างเต็มที่ ออกแบบการเรียนรู้เป็นรายคน ยืดหยุ่นทั้งเวลา รูปแบบเงื่อนไขการเข้าเรียน ไม่จำกัดอายุผู้เรียน เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยได้ แม้สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ พูดกันมานานแล้วแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ถูกทำให้เกิดความยั่งยืน
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/09/522509-1024x576.jpg)
ที่สำคัญคือเวลานี้ ราชบุรีโมเดล ได้รับการสนับสนุนทรัพยากรจากภาคเอกชนอย่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ทำให้มีงบฯ นอกระบบราชการ สามารถยืดหยุ่นได้มากกว่า เพื่อทำให้จัดการศึกษาที่มีหลายทางเลือก นำไปสู่โจทย์ที่ 3 คือการสร้างความ ‘ยั่งยืน’ ของรูปแบบโครงการ เพื่อขยายผลต่อไปสู่การสร้างสมัชชา ภาคี เครือข่ายการศึกษา เพื่อขยับให้ภาคเอกชนอื่น ๆ ในพื้นที่เข้ามาทำงานด้านการศึกษามาขึ้น
“เมื่อเราสร้างโอกาส สร้างหลักประกัน ทำให้มีรูปแบบที่ยืดหยุ่น สามารถกระจายความเป็นเจ้าของการจัดการศึกษา ให้ทุกภาคส่วนมามีส่วนร่วม ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นกับพื้นที่ และคาดหวังว่า ราชบุรีโมเดล จะเป็นจุดเริ่มต้นให้จังหวัดอื่น ๆ ใช้เป็นต้นแบบ สร้างการเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กัน”
ไกรยส ภัทราวาท
‘เอกชน’ ตัวช่วย เติมเต็มโอกาสการศึกษา
ขณะที่ สมัชชา พรหมศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายการตลาดดิจิตอลและสื่อสารการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บอกว่า เป้าหมายความร่วมมือที่เกิดขึ้น เพราะต้องการมีส่วนช่วยผลักดันความเท่าเทียมทางการศึกษาซึ่งหมายถึงการพัฒนาทุนมนุษย์ แน่นอนว่าผลลัพธ์ทางการศึกษาเหล่านี้ ไม่สามารถวัดได้ด้วยผลกำไร หรือผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับบริษัท แต่การศึกษาที่มีคุณภาพ ย่อมนำไปสู่การผลิตแรงงานที่มีศักยภาพ และนำไปสู่เศรษฐกิจที่ขยายตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลย้อนกลับมายังภาคเอกชนในประเทศอยู่ดี
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/09/6215-1024x683.jpg)
“การเข้ามาสนับสนุนพื้นที่นวัตกรรมการเรียนรู้ ตอบโจทย์ชีวิต จ.ราชบุรี บริษัทฯ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในเชิงธุรกิจกับพื้นที่ จ.ราชบุรี ทำให้เราเลือกทำงานในพื้นที่แบบนี้ ซึ่งมองว่าภาคเอกชนมีส่วนสำคัญกับการเข้ามาช่วยทำให้กลไกการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และสามารถสร้างโอกาสให้กับเด็กเยาวชนได้มองเห็นอนาคตของตัวเอง เพราะการจัดการงบฯ ของเอกชนที่ยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้สามารถเติมเต็มในสิ่งที่โรงเรียน และพื้นที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงอยากเห็นภาคเอกชนในแต่ละพื้นที่ ยื่นมือเข้ามาสนับสนุนโอกาสให้กับเด็ก เยาวชนให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความยั่งยืนการแก้ปัญหาทางการศึกษาของประเทศ”
สมัชชา พรหมศิริ
สร้างทางเลือกการเรียนรู้ กำหนดชีวิตตัวเอง
เนตรดาว ยั่งยุบล อาจารย์จากศูนย์นวัตกรรมทางสังคม คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในฐานะ ผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานโครงการดังกล่าว ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษาไม่ใช่เพียงเพราะความยากจน แต่พวกเขาตกอยู่ในสภาวะยากลำบาก เจอปัญหาความด้อยโอกาสในชีวิตที่ซับซ้อน ดังนั้นการศึกษาในระบบภาคบังคับ สำหรับพวกเขาจึงไม่ตอบโจทย์ จึงจำเป็นต้องมีระบบการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้ค้นพบความต้องการ ความถนัดที่แท้จริงของตนเอง และมีเป้าหมายว่าตนเองเรียนไปเพื่ออะไร มีความสำคัญมาก
“การพาน้องกลับเข้าโรงเรียนอาจไม่ใช่ทางออกทั้งหมด เด็กบางคนการพากลับเข้าสู่ระบบโรงเรียน คงไม่ต่างจากการถูกข่มขืนซ้ำสอง จึงต้องหาทางออกที่หลากหลาย สอดคล้องกับตัวเด็ก ให้เขาเป็นผู้กำหนดชีวิตว่าต้องการการศึกษาแบบไหน เราจำเป็นต้องมีพื้นที่แห่งโอกาสที่ทำให้เด็กได้สร้างสรรค์ทั้งรูปแบบการเรียนรู้ และชีวิตของเขา เพื่อดึงศักยภาพออกมาให้ได้สูงสุด”
เนตรดาว ยั่งยุบล
ผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. บอกอีกว่า ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนอกระบบใน จ.ราชบุรี เข้าสู่โปรแกรม ‘Zero Dropout’ เพื่อเด็กทุกคนต้องได้เรียนการศึกษานอกระบบแล้ว 400 คน นำร่องใน 5 อำเภอ 32 ตำบล ประกอบด้วยอำเภอเมือง, บ้านโป่ง, สวนผึ้ง, บ้านคา และจอมบึง โดยโมเดลการศึกษานี้ ช่วยสนับสนุนให้เกิดกลไกโอบอุ้ม คุ้มครองระดับตำบล เพื่อวางระบบการค้นหา ช่วยเหลือ ฟื้นฟู พัฒนาและส่งต่ออย่างมีประสิทธิภาพยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งสุขภาพกายใจ สังคม การศึกษา โดยมีอาสาสมัครเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเด็กและชุมชน
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/09/6225-1024x683.jpg)
ใช้ ‘วิชาชีพ’ วัดผล ‘วิชาเรียน’
วงษ์สัน คูหามณีโชติ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาราช 7 อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หนึ่งในโรงเรียนต้นแบบ 1 โรงเรียน 3 ระบบ ตามแนวทางของราชบุรีโมเดล ระบุถึงการจัดรูปแบบการศึกษาหลักสูตรทางเลือกของโรงเรียน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือเด็กจะได้รับการเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไป และอีกส่วนคือวิชาชีพที่บูรณาการกัน เช่น เด็กบางคนออกนอกระบบไปแล้วมีงานทำอยู่ร้านซ่อมรถ หรือ ทำงานอยู่ในภาคการเกษตร รับจ้างต่าง ๆ ก็สามารถนำวิชาชีพเหล่านั้นมาปรับให้เข้ากับการวัดผลของโรงเรียน ว่าอ้างอิงตัวชี้วัดกับวิชาอะไรได้บ้าง แล้วสามารถวัดผลได้เลยโดยไม่ต้องมาเรียนอีก ทำให้การเรียนสั้นที่สุด รวดเร็วขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของเด็กที่ไม่ต้องการอยู่ในระบบการศึกษา ซึ่งมองว่า 2 ส่วนที่ทำสำหรับการจัดพื้นที่การเรียนรู้แบบนี้ จะทำให้เด็กมีความสุขมากขึ้น ส่งผลทั้งต่อคุณภาพการศึกษา และชีวิตของเด็กจะดีขึ้นด้วย
เพิ่มทางเลือก สร้างจุดเปลี่ยนชีวิตเด็ก
ขณะที่ ดุดดาว พานิชเจริญวงศ์ มารดาของ ‘เอ็ม’ นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนมหาราช 7 ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเรียน 10 คน ที่เข้าสู่กระบวนการเรียนแบบทางเลือก เล่าว่า ลูกชายเริ่มบ่นว่าไม่อยากเรียนต่อก่อนจบ ม.2 เหตุผลที่เขาอธิบายคือ “หนูไม่ชอบครู” เมื่อถามที่มาที่ไปลูกก็บอกว่า “ครูดุ” ไม่ว่าวิชาไหนที่ครูคนนั้นสอน ทำให้เขาไม่อยากเรียนไปด้วย จนเปิดเทอม ม.3 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าไปเรียนได้แค่ 2 สัปดาห์ ลูกก็ขอไม่ไปโรงเรียนอีกเลย
“เราไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกเช้า เห็นเขาเดินเข้าโรงเรียน แต่เมื่อเรากลับเขาก็หนีออกจากโรงเรียน เป็นแบบนี้มาตลอด จนครูแจ้งให้ทราบว่าลูกไม่ได้เข้าเรียนเลย ทีแรกก็โกรธ เครียดมาก แต่ก็คุยกับเขาอย่างเปิดใจ ก็ได้รู้เหตุผล จึงไม่ได้บังคับ แล้วก็ให้เขามาช่วยทำงานในไร่ ช่วยเลี้ยงวัว แล้วให้เงินเป็นค่าตอบแทนเหมือนจ้างคนงานทำงาน ซึ่งเขาก็โอเคขึ้น จนในที่สุดครูที่โรงเรียนก็มาตามที่บ้าน ช่วยเสนอทางเลือกการศึกษาให้ เขาก็เลือกในรูปแบบการเรียนออนไลน์ เรียนที่ศูนย์การเรียนรู้ โดยไม่ต้องเข้าไปเรียนในห้องเรียน ซึ่งสามารถยืดหยุ่นเวลาเรียนได้ มีครูคอยมาให้คำแนะนำตลอด ก็รู้สึกดีขึ้นอย่างน้อยเขาก็ยังมีวุฒิการศึกษาติดตัว ถึงแม้เบื้องต้นอาจได้แค่วุฒิ ม.3 ก็แล้วแต่เขา ถ้าเขาอยากไปต่องานช่าง อย่างน้อยก็มีวุฒิไปเรียนต่อสายอาชีพ ดีกว่าออกมาอยู่บ้านเฉย ๆ โดยไม่มีอะไรติดตัวเลย เพราะเราก็ตั้งใจส่งเขาให้เต็มที่ที่สุด จะได้ไม่ลำบากเหมือนแม่”
ดุดดาว พานิชเจริญวงศ์
‘นายกฯ เศรษฐา’ ยก ‘ราชบุรีโมเดล’ ต่อยอดแก้ปัญหาการศึกษา
ศ.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. เชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นผ่าน ราชบุรีโมเดล ช่วยตอบโจทย์เด็กที่ทนไม่ไหวกับระบบการศึกษาที่แข่งขันแบบแพ้คัดออก เมื่อระบบการศึกษาไม่ตอบโจทย์ชีวิตและความต้องการ การแก้ปัญหาจึงมองแค่มิติเดียวไม่ได้ การจัดการศึกษา 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ จึงเป็นนวัตกรรมที่กำลังขับเคลื่อนไม่ใช่แค่ที่ราชบุรีเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการทำให้เกิดศูนย์การเรียน ที่สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ ฉบับใหม่ ให้ผู้เรียนมีสิทธิเสรีภาพ ออกแบบการเรียนรู้ตามความถนัน ความสนใจ ไม่ใช่ระบบที่ยึดติดระบบโรงเรียนอย่างเดียว จากนี้โรงเรียนขยายโอกาส จะต้องขยับมาเป็นโรงเรียน 3 ระบบ เพื่อสร้างการเรียนรู้ตอบโจทย์โลกอนาคต เรียนรู้สมรรถนะ ทักษะ การลงมือปฏิบัติ
“จากนี้รูปแบบการศึกษาจะเปลี่ยนไป ครูไม่ใช่ผู้บรรยาย แต่ปรับบทบาทเป็นนักจัดการเรียนรู้ ราชบุรีโมเดลกลายเป็นจุดปักหมุด ที่นายกฯ เศรษฐา ให้ความสำคัญกับการใช้เป็นรูปแบบเปลี่ยนแปลงการศึกษา เพื่อแก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบ และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยั่งยืนต่อจากนี้คือความท้าทายที่ทุกภาคส่วนในราชบุรี ต้องร่วมกันทำให้เกิดจังหวัดจัดการตัวเองด้านการศึกษา ถ้าราชบุรีทำได้ โดยทำให้เชื่อมโยงตั้งแต่ปฐมวัย จนถึงอุดมศึกษา ก็จะยิ่งกว่าการตอบโจทย์การศึกษา แต่หมายถึงโมเดลพัฒนาคนที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้เรียน และความต้องการของประเทศอย่างแท้จริง”
ศ.สมพงษ์ จิตระดับ