ภาคีเครือข่ายประชาชนภาคใต้หยุด SEC สับ ‘ร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้’ อำนาจล้น สร้างกลไกพิเศษ เอื้อกลุ่มทุนต่างชาติ พร้อมประเคนทรัพยากรในพื้นที่ เปิดทางอุตสาหกรรมทุกรูปแบบ ขู่มีปฏิบัติการขั้นเด็ดขาด หากยังเดินหน้า SEC
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.67 ภาคีเครือข่ายประชาชนภาคใต้หยุด SEC ซึ่งประกอบด้วยภาคประชาชน กว่า 40 องค์กร ร่วมจัดเวทีวิพากษ์ร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. … หรือ กฎหมาย SEC โดยตั้งข้อสังเกตว่า ร่างกฎหมาย SEC ที่เสนอโดย พรรคภูมิใจไทย จำนวน 2 ฉบับ คือ ฉบับที่เสนอโดย อนุทิน ชาญวีรกูล และ ฉบับที่เสนอโดย สฤษดิ์พงษ์ เกี่ยวข้อง อาจทำให้เกิดวาระซ่อนเร้นของพรรคการเมืองกับการบัญญัติกฏหมาย ที่มีลักษณะของการละเมิดสิทธิมนุษยชน และสิทธิชุมชนท้องถิ่น เชื่อว่าจะนำไปสู่การแย่งยึดฐานทรัพยากรในพื้นที่ภาคใต้อย่างรุนแรงในอนาคต ทั้งยังมองว่า เป็นการสร้างกฎเกณฑ์ และกลไกให้มีอำนาจพิเศษโดยคนเฉพาะกลุ่ม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกับทุนต่างชาติ
ตัวแทนเครือข่ายฯ จึงมีความเห็นร่วมกันที่จะต้องยับยั้งไม่ให้กฏหมายฉบับนี้ ถูกบัญญัติในกระบวนการรัฐสภา พร้อมกันนี้ ยังได้อ่านคำประกาศภาคีเครือข่ายประชาชนภาคใต้ เพื่อแสดงถึงจุดยืนดังกล่าว โดยระบุว่า
ขณะนี้มีกฎหมายอยู่ในสภาฯ 2 ฉบับชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ มีสาระสำคัญที่พรรคการเมือง ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ขึ้น เมื่อสรุปใจความแล้วพบว่า
- ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่ากับเป็นการซื้อ-ขายภาคใต้ เพราะในท้ายที่สุดแล้วทั้ง 67 มาตรา ที่ถูกเขียนขึ้นในร่างกฎหมาย คือการใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงที่ดินของประชาชน ใช้อำนาจเปลี่บยแปลงผังเมือง ใช้อำนาจยกเลิกที่ดิน ส.ป.ก. ใช้อำนาจยกเลิกที่ดินราชพัสดุ ใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงการถือครองที่ดินของประชาชน 10 ล้านคนในภาคใต้
- พ.ร.บ. ฉบับนี้ ให้อำนาจการแก้กฎหมาย และบัญญัติกฎหมายใหม่ได้ หมายความว่า เมื่อไรก็ตามที่พื้นที่หนึ่งสามารถบัญญัติกฎหมายเองได้ โดยไม่ต้องผ่านกลไกนิติบัญญัติของประเทศไทย เท่ากับว่ากำลังสถาปนารัฐอิสระขึ้นมาบนแผ่นดินภาคใต้ ซึ่งในคำประกาศของเครือข่ายฯ ใช้คำว่า “การทำเช่นนี้เป็นหลักการเหยียบคนใต้ให้จมดิน”
- การบัญญัติว่าไม่ต้องทำตามกฎหมายไทยทุกฉบับ ไม่ว่ามีกฎหมายใดก็สามารถแก้ได้ทุกฉบับ
- อำนาจในการให้สิทธิพิเศษ ที่ระบุอยู่ในมาตรา 8 ยังหยิบยื่นกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ต่างชาติถือครอง ได้โดยไม่ต้องปฎิบติตามกฎหมายว่าด้วยการจัดการที่ดิน ในขณะที่ประชาชนคนไทย ยากลำบากในเรื่องการไม่มีที่ดิน
- อำนาจการกำหนดการพัฒนา ภาคใต้มีประชากร 10 ล้านคนอาศัยอยู่ มีกระบวนการทางเศรษฐกิจที่มีความสมดุลระหว่างการเกษตร การท่องเที่ยว การประมง และภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยมองว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะแปรพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัดไปเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมทุกชนิด และมีอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 ชนิดที่จะต้องพลักดันให้ได้
“รายละเอียดกฎหมายทั้งหมด คือการพรากอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนใต้ เป็นการหยิบยื่น และประเคนทรัพยากรทุกอย่างที่ประชาชนภาคใต้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไปให้นายทุนเพียงไม่กี่คน ท่านสามารถที่จะยกที่ดินให้กับนักลงทุนต่างชาติ ท่านสามารถที่จะเขียนกฎหมายว่านักลงทุนต่างชาติสามารถนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาอยู่ในประเทศนี้ โดยไม่จำกัดจำนวนและเวลา ท่านยังจะยกเลิกกฎหมายอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ท่านทำลายอาชีพคนไทยโดยให้ต่างชาติสามารถทำทุกอาชีพได้ และยังยกเว้นภาษีอนุญาตให้มีการเข้าออกประเทศไทยอย่างมีอิสระภาพสำหรับนักลงทุน นักลงทุนที่มาไม่ต้องปฎิบัติตามกฎหมายควบคุมเงินตรา อนุญาตให้มีการใช้เงินตราต่างประเทศซื้อขายกันได้”
ในประกาศดังกล่าว ทางเครือข่ายฯ ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า สิ่งที่บรรจุไว้ในร่าง พ.ร.บ. SEC จำนวน 8 หมวด 67 มาตรา คือสัญญาซื้อ-ขายภาคใต้ ทุกข้อที่อยู่ในสัญญาฉบับนี้เป็นการกระทำระหว่างรัฐบาลไทย พรรคการเมืองในรัฐบาลไทย กับนักลงทุนทั่วโลก คือการยกทรัพยากรของภาคใต้ไปให้กับนักลงทุนทั้งหมด
“นี่คือภัยคุกคามครั้งใหญ่ และสำคัญที่สุด หาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา มันจะทำหน้าที่แปรสภาพภาคใต้ไปสู่การเป็นพื้นที่การสร้างอุตสาหกรรมทุกชนิด เราไม่เคยไปเรียกร้อง ขูดรีด กระทำการใดใดต่อพรรคการเมือง เราไม่เคยไปขูดรีดต่อผู้มีอำนาจในประเทศนี้ แต่พวกท่านอาศัยอำนาจ สิทธิ อะไร จึงเขียนกฎหมายมาเพื่อยกทรัพยากรทุกอย่างให้ต่างชาติ”
สำหรับร่าง พ.ร.บ. SEC ที่อยู่ในสภาฯ ทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งถูดเสนอโดย สส.พรรคภูมิใจไทย นั้นเครือข่ายฯ ขอประกาศว่า พรรคการเมืองทุกพรรคที่สนับสนุนให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา ประชาชนจะทำให้ภาคใต้ไม่ให้เหลือ สส. พรรคนั้นแม้แต่คนเดียว โดยหลังจากนี้อีก 2 เดือน หากพรรคภูมิใจไทย ไม่ถอนร่าง พ.ร.บ. SEC ทั้ง 2 ฉบับออกจากสภาฯ ประชาชนภาคใต้จะมีปฎิบัติการเด็ดขาด รวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่กำลังทำกฎหมายอีก 1 ฉบับ เพื่อมาสนับสนุนกฏหมาย 2 ฉบับของพรรคภูมิใจไทยด้วย
“ใครก็ตามที่มุ่งมั่นทำลายแผ่นดินภาคใต้ด้วยกฎหมายฉบับนี้ เราจะไม่มีวันยินยอมโดยเด็ดขาด หลังจากนี้อีกไม่เกิน 2 เดือน เราจะลุกขึ้นมาชูธงการพัฒนาของตนเอง”