‘กทม.’ เตรียมรื้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาคาร

หลังพบหลายชุมชนเดือดร้อนจากคอนโดมิเนียมสูงในซอยแคบ ‘สภาผู้บริโภค’ จี้ กทม. ยกเลิกใบอนุญาต 3 โครงการ เหตุสร้างคอนโดฯ สูงในซอยแคบไม่ถึง 6 เมตร ส่อผิดกฎหมาย เตรียมทำหนังสือส่งข้อมูลให้ กทม. เพื่อยกเลิกใบอนุญาต

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2566 สภาผู้บริโภค นำโดย สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค พร้อมตัวแทน 3 ชุมชนที่ร้องเรียนการสร้างคอนโดมิเนียมสูงในพื้นที่แคบ ลงพื้นที่สำรวจเพื่อรังวัดถนนว่ามีขนาด 6 เมตรตามกฎหมายหรือไม่ โดยพบว่าอาจผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร – ละเมิดสิทธิความเป็นอยู่เดิมของคนในชุมชน

สุรัช ติระกุล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมอาคาร กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การรังวัดถนนตามข้อบัญญัติ กทม. จะมีวิธีวัดจากกำแพงชนกำแพงอีกฝั่งหนึ่ง ไม่ได้รังวัดตามผิวถนนจราจร อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ร่วมกับสภาผู้บริโภคทำให้พบปัญหาข้อเท็จจริงในพื้นที่  ซึ่งหลังจากนี้สำนักควบคุมอาคารจะรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงไปพิจารณาต่อไปถึงปัญหาของชุมชนในพื้นที่ดั้งเดิมว่าถูกกระทบอย่างไร

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจะรื้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาคาร ที่ให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นหลัก รวมไปถึงการก่อสร้างอาคารสูงในพื้นที่แคบอาจจะต้องพิจารณาในเรื่องของวิธีการรังวัดถนนที่สอดคล้องกับความเดือดร้อน หรือการใช้จริงของในพื้นที่

“การลงพื้นที่ของสภาผู้บริโภคทำให้ได้รับฟังปัญหาของชุมชนและเห็นสภาพจริงของการใช้พื้นที่ ซึ่งหากวิธีการวัดความกว้างถนน ตามหลักการวัดของ กทม. จะวัดจากรั้วถึงรั้วเป็นหลัก การวัดเสาไฟฟ้าถึงรั้วจะไม่นับเพราะเสาไฟฟ้าถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งไม่ถูกหลักการวัดของ กทม. แต่อย่างไรก็ตามในอนาคต กทม. กำลังพิจารณาจะทบทวนกฎหมายเหล่านี้รวมถึงวิธีการรังวัดถนนให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนออกมาบังคับใช้”

สุรัช ติระกุล

สำหรับข้อมูลการสำรวจชุมชนของซอยประดิพัทธ์ 23 พบปัญหาการสัญจรติดขัด เพราะภายในซอยมีตลาด ที่มีการสัญจรเพื่อขนส่งสินค้าและซื้อของในตลาด ทำให้การสัญจรเข้าออกทำได้ไม่สะดวก รวมไปถึงการจอดรถในซอยที่ไม่มีมาตรการมากำกับดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้ต้องมีการเบี่ยงเส้นทางการจราจรเมื่อมีรถสวนทางกัน อีกทั้งเป็นซอยที่เข้าออกได้ทางเดียวไม่สามารถทะลุเพื่อไปออกถนนหลักอีกเส้นได้

ด้าน สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า หลังสภาผู้บริโภค ลงพื้นที่พร้อมผู้อำนวยการสำนักควบคุมอาคาร ของกรุงเทพมหานคร พบว่า ทั้ง 3 ชุมชนที่ประกอบด้วยชุมชนโครงการเอส – ประดิพัทธ์ (ประดิพัทธ์ ซอย 23) โครงการเอส – รัชดา (รัชดา ซอย 44) และโครงการเดอะมูฟ (พหลโยธิน 37) มีระยะห่างของถนนจาการวัดพื้นผิวถนนไม่ถึง 6 เมตร ส่อผิดข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 รวมไปถึงข้อเท็จจริงในการละเมิดสิทธิความเป็นอยู่ชุมชนเดิม

ทั้งนี้ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร 2544  ระบุขนาดความกว้างของ ถนนสาธารณะ ในการก่อสร้างอาคาร เอาไว้ดังนี้ อาคารขนาดใหญ่ขนาดไม่เกิน 9,999 ตารางเมตร ความกว้างถนนสาธารณะต้องมีตั้งแต่ 6 -10 เมตร ซึ่งทั้ง 3 โครงการเข้าข่ายผิดข้อบัญญัติดังกล่าว สารี กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ พบว่าทั้ง 3 ชุมชนมีขนาดถนนที่ใช้ในการสัญจรไม่ถึง 6 เมตร ตลอดแนวจนถึงพื้นที่ขออนุญาตนั่นหมายความว่า เป็นการอนุญาตที่ไม่ถูกต้องตามกติกาของกรุงเทพมหานคร  หรือตามกติกาของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เพราะฉะนั้น สภาผู้บริโภคจะรวบรวมข้อมูลทั้ง 3 ชุมชนเพื่อขอให้กรุงเทพมหานครทบทวน แล้วนอกจากขอให้กรุงเทพมหานครทบทวนแล้ว จะส่งข้อมูลไปให้กับคณะกรรมการผู้ชำนาญพิจารณาการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (คชก.) เพื่อพิจารณาด้วยว่าสิ่งที่อนุญาตไปแล้วเป็นการเข้าใจผิดว่าถนน 6 เมตรเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องจะได้ทบทวนโครงการนี้ต่อไป

สารี กล่าวย้ำว่า เอกสารและข้อมูลที่ส่งไปยัง กทม. และ คณะกรรมการ คชก. มีจุดประสงค์ขอให้ยกเลิกเพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากหลังจากรังวัดความกว้างของถนนทั้ง 3 โครงการมีความกว้างของถนนสาธารณะไม่ถึง 6 เมตรทั้งหมด จึงขอให้ กทม. ยกเลิกใบอนุญาต โดยจะรวบรวมข้อมูลเสนอต่อกรุงเทพมหานคร พิจารณายกเลิกในสัปดาห์หน้า

“ชุมชนที่มีปัญหาสามารถร้องเรียนเข้ามาได้ที่สภาผู้บริโภคทุกช่องทาง โดย ขณะนี้สภาผู้บริโภคมีผู้เชี่ยวชาญจาก 3 ชุมชนที่พร้อมจะทำงานในเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ โดยหวังว่าเราจะเดินหน้าผลักดันเรื่องผังเมืองซึ่งควรจะเป็นมิตรกับผู้คนอยู่อาศัยดั้งเดิม ผังเมืองที่ควรจะรองรับทุกคนที่จะมีชีวิตอยู่ในกรุงเทพมหานครได้”

สารี อ๋องสมหวัง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active