ยกระดับสู่ความหลากหลาย เมืองน่าอยู่ สำหรับทุกคน ‘เสริมศักดิ์’ ย้ำ LGBTQIAN+ ไทยมีศักยภาพ พร้อมสนับสนุนกิจกรรมฟอรั่ม แดร็กโชว์ ปักหมุดความพร้อมเจ้าภาพ World Pride 2030
วันนี้ (20 พ.ค. 67) กลุ่มนฤมิตไพรด์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมความพร้อมงาน “บางกอกไพรด์ เฟสติวัล 2024” (Bangkok Pride Festival 2024) ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Celebration of Love เพื่อเฉลิมฉลองสมรสเท่าเทียมทางเพศ 31 พ.ค.-4 มิ.ย. นี้
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า งานบางกอกไพรด์ครั้งนี้ถือเป็นพลังในการขับเคลื่อน และส่งเสริมให้ไทยมีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เกิดสิทธิเสรีภาพอย่างถ้วนหน้า และช่วยให้กระทรวงฯ บรรลุเป้าหมายในการจัดหารายได้เข้าประเทศ 3.5 ล้านล้านบาท และการแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นการแถลงข่าวที่ยิ่งใหญ่ มีความหมายต่อชุมชน และมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อความหลากหลาย
ทั้งนี้ความหลากหลายทางเพศไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิ แต่เป็นเรื่องคุณภาพชีวิต และความเท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสทางเศรษฐกิจ พร้อมกล่าวเชิญชวนทุกคนมาร่วมเฉลิมฉลอง และสนับสนุนงานบางกอกไพรด์ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ และชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และแสดงให้เห็นว่าบางกอกไพรด์เป็นมากกว่าเทศกาล แต่เป็นการเดินหน้าสู่สังคมที่เท่าเทียม
“ธงสีรุ้งจงสะบัดพลิ้วไหว ความเท่าเทียมจงเจริญ”
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า รู้สึกดีใจที่ทุกเดือน มิ.ย. จะมีการจัดงานไพรด์เพื่อรำลึกถึงความหลากหลาย และยกระดับความเท่าเทียม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้อย่างยาวนาน ทั้งนี้งานไพรด์ไม่ใช่เพียงเรื่องความสนุกสนาน แต่ยังเป็นเรื่องในเชิงนโยบาย ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้ โดยได้มีการออกนโยบายต่าง ๆ เช่น นโยบายที่อนุญาตให้ ข้าราชการแต่งตัวตามเพศสภาพ ไพรด์คลินิก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องมิติของสังคม ซึ่งในช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ทาง กทม.ได้มีการจัดให้จดแจ้งสมรสของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยเชื่อว่า การจัดงานบางกอกไพรด์ในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับความหลากหลาย ซึ่ง กทม.ยินดีที่จะสนับสนุน และให้ความร่วมมือกับชุมชน LGBTQIAN+ รวมถึงร่วมผลักดันกับภาครัฐ เพื่อสร้าง กทม. ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน
ขณะที่ อรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง “นฤมิตไพรด์” ได้เล่าถึงความพิเศษของงานบางกอกไพรด์ในปีนี้ว่า มี 50 องค์กรจากภาคประชาสังคมมาร่วมในการทำงาน ซึ่งงานในปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่ขึ้น เนื่องจากทางกลุ่มนฤมิตไพรด์ต้องการแสดงศักยภาพว่า ในปี 2030 ไทยจะสามารถจัดงานระดับโลกได้ ซึ่งองค์ประกอบที่จะบรรลุเป้าหมายได้มีมากกว่าการเดินขบวนพาเหรด ในปีนี้จึงมีการร่วมมือกับคอมมูแดร็ก ที่เป็นคอมมูนิตี้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
อีกทั้งยังมีการร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในระดับโลก และเล่าถึงเป้าหมายในการเป็นเจ้าภาพงาน World Pride ของไทยว่า บางกอกไพรด์ในปีนี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะมาร่วมเปิดงาน และเดินขบวนเพื่อแสดงจุดยืน และกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนทุกรายทั้งสื่อที่ร่วมถ่ายทอดสดงาน รวมถึงภาครัฐและภาคเอกชนอื่นๆ
“จากการที่เราต้องลงบนท้องถนนเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียม ตอนนี้ผู้นำเรามาร่วมลงถนน เป็นภาพประวัติศาสตร์ ว่าประเทศไทยพร้อมเป็นประตูเปิดรับความหลากหลายทุกมิติ”
อรรณว์ ชุมาพร
นอกจากกิจกรรมขบวนไพรด์พาเหรด หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้ คือ ไพรด์ฟอรั่ม (Pride Forum) โดยมี รศ.อดิศร จันทรสุข คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เป็นคณะวิทยาการเรียนรู้ผลักดันการตระหนักเรื่องความหลากหลาย ทั้งในประเด็นเรื่องของอคติต่อกลุ่ม LGBTQIAN+ และแนวทางการขับเคลื่อนว่า จะทำอย่างไรให้พื้นที่การศึกษาเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
รศ.อดิศร ย้ำว่า สังคมไทยยังต้องการการทำงานในอีกหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องสิทธิที่ไม่เท่าเทียมและการเลือกปฏิบัติ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่โอบรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และเชิญชวนทุกคนให้มองว่า การแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องของคนทุกคนในสังคม เพราะเราไม่สามารถปล่อยให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญหน้าแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่เพียงกลุ่มเดียว รวมทั้งครูและผู้ที่ทำงานในแวดวงการศึกษา มีหน้าที่สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กเพื่อให้พวกเขาไม่รู้สึกถูกด้อยค่า ล้อเลียน หรือดูถูก พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณผู้มีส่วนช่วยผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และในส่วนของกฎหมายอื่น ๆ เช่น พ.ร.บ.คำนำหน้านาม ฯลฯ ยังต้องอาศัยการให้ความรู้คนในสังคมเพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นจริง
เช่นเดียวกับ ชัญญา รัตนธาดา ผู้อำนวยการร่วม กิจกรรม Bangkok Pride Forum กล่าวถึง เวทีเสวนาเศรษฐกิจสีรุ้งที่จะจัดขึ้นที่สยามพารากอนว่า ไม่ใช่เวทีเสวนาทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เวทีเสวนานี้จะประกอบไปด้วย 4 เสาหลักคือ เศรษฐกิจ การแพทย์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่า GDP ให้ประเทศมานาน แต่ไม่เคยถูกนับรวม หรือมองเห็นคุณค่าเลย
พร้อมกล่าวย้ำว่า ชุมชน LGBTQIAN+ เป็นผู้ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญมากทั้งในเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น อุตสาหกรรมซีรีส์วาย การแสดงแดร็กและคาบาเรต์ และในเชิงอุตสาหกรรมการส่งออก ซึ่งในเวทีเสวนานี้จะมีคณะกรรมการจาก Inter Pride มาร่วมด้วย เพื่อพูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจสีรุ้งโดยตรง
และเนื่องจากกิจกรรมเฉลิมฉลองเดือนไพรด์ จัดขึ้นทั่วประเทศตลอดทั้งเดือน มิ.ย.นี้ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. ให้ความสำคัญกับการจัดงานบางกอกไพรด์ โดยร่วมงานในทุกจังหวัด และร่วมผลักดันความเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQIAN+ และชี้ว่า คนกกลุ่มดังกล่าวมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งจากการศึกษาพบว่า กลุ่ม LGBTQIAN+ สร้างรายได้ทั่วโลกถึง 6.6 ล้านล้านบาท พร้อมกล่าวขอบคุณความแข็งแกร่งของผู้มีความหลากหลายทางเพศที่จัดงานแล้วงานดีขึ้นทุกปี
นอกจากภาครัฐแล้ว การแถลงข่าวในครั้งนี้ได้มีภาคเอกชนต่างๆ ทั้งจากภาคธุรกิจ และวงการบันเทิงมาร่วมด้วย โดยได้กล่าวแสดงจุดยืน และสนับสนุนการจัดงานบางกอก ไพรด์ และความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
ทั้งนี้งาน “บางกอก ไพรด์ เฟสติวัล 2024” (Bangkok Pride Festival 2024) จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. – 4 มิ.ย. นี้ ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่
- ขบวนบางกอกไพรด์ 2024 (Bangkok Pride Parade 2024) ภายใต้แนวคิด “Celebration Of Love เฉลิมฉลองสมรสเท่าเทียม” ที่ประกอบไปด้วย 5 ขบวนหลัก 5 นิยามความรัก โดย ไทยพีบีเอส รับหน้าที่ถ่ายทอดสดบรรยากาศตลอดทั้งงาน
- เวทีเสวนา (Bangkok Pride Forum) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จากภาคประชาสังคม ภาครัฐ และภาคเอกชน
- DRAG BANGKOK Festival 2024 ที่ขนการแสดงมากมายจากศิลปินแดร็กไทย และต่างประเทศ รวมถึงขบวนแดร็กพาเหรด
