หวังรัฐสร้างมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวมากกว่านี้ หลังมั่นใจหนาวนี้ เชียงรายพร้อมเปิดการท่องเที่ยวแล้ว รับรองปลอดภัย ไร้กังวล ขณะที่ นายกฯ เรียกประชุม ติดตามแผนฟื้นฟูจังหวัดได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ 15 ต.ค. นี้
วันนี้ (13 ต.ค. 67) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยผลการประชุม ศปช. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการสนับสนุนด้านต่าง ๆ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของ จ.เชียงราย และ เชียงใหม่ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในภาคเหนือตอนบน
โดยขอให้เร่งฟื้นฟู พื้นที่ประสบอุทกภัยให้เข้าสู่ภาวะปกติตามที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายไว้ว่าจะต้องจบภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลก็จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติทันที
สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่เชียงใหม่ เชียงราย เปิดรับฟังข้อเสนอและการขอรับความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่ ขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือ “Soft Loan” เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมทั้งจัดแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ โดยทุกข้อเสนอรัฐบาลจะเร่งพิจารณาเพื่อให้การเยียวยาตรงจุดมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอโครงการ “แอ่วเหนือ“ เป็นโครงการนำร่องเร่งด่วน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวปลายปีนี้ ที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ยืนยันความพร้อมที่จะเปิดจังหวัดในด้านกิจกรรมรณรงค์การท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อม ๆ กันในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วนความคืบหน้าแผนฟื้นฟู ที่ จ.เชียงราย โฆษก ศปช. บอกว่า การให้ความช่วยเหลือประชาชนถือว่ามากกว่า 90% แล้ว ไม่มีสถานการณ์อุทกภัย และดินถล่มในพื้นที่เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด โดยยืนยันหน่วยงานต่างๆ ไม่มีการถอนกำลัง และยังคงเดินหน้าเพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ส่วนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยใน อ.แม่สายมีผู้ใช้ไฟฟ้ามีไฟฟ้าใช้แล้ว 12,268 ราย การฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน 819 หลัง ดำเนินการแล้ว 658 หลัง คิดเป็น80%
จิรายุ ยังเปิดเผยด้วยว่า วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคมนี้ เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) เพื่อติดตามสรุป สถานการณ์ ของ ศปช. รวมทั้งแผนการฟื้นฟูทั้งทางด้านกายภาพและการวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดต่าง ๆ ที่ประสบอุทกภัยทั้งการท่องเที่ยวและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เช็กความพร้อมเปิดเมืองเชียงราย รับท่องเที่ยวปลายปี
ขณะที่ ภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยกับ The Active ว่า ขณะนี้สถานการณ์เชียงราย หลาย ๆ จุดเริ่มคลี่คลาย และมีความพร้อมกลับมาเปิดเพื่อดำเนินธุรกิจอีกครั้ง อาจจะมีบางพื้นที่ที่อาจจะใช้เวลา และยังต้องเคลียร์พื้นที่บางจุดบางส่วนใน อ.แม่สาย ที่โคลนเข้าไปค่อยข้างเยอะ แต่ก็จะไม่ได้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เพราะส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือนของประชาชนมากกว่า
ในส่วนพื้นที่ท่องเที่ยว มีที่ได้ผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ประกอบการร้านกาแฟโรงแรมที่อยู่ริมแม่น้ำกก ที่โดนน้ำท่วมค่อนข้างเยอะ แต่ปัจจุบัน หลาย ๆ สถานประกอบการเริ่มทำความสะอาด เริ่มฟื้นกลับมาเปิดธุรกิจกันได้บ้างแล้ว โดยจากที่ตนได้เช็กส่วนใหญ่ คือ เร่งเปิดกิจการกันให้ทันช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว 3 วัน ซึ่งตามเดิมในช่วงนี้หากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม ก็คาดว่าจะเป็นช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของ จ.เชียงราย คนก็จะมาท่องเที่ยวกันเยอะ แต่พอมีสถานการณ์น้ำท่วม ก็อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวยังไม่มั่นใจ อาจจะหายไปบ้าง แต่ก็ยังมีคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวอยู่พอสมควร ซึ่งถ้าถามว่า ณ ปัจจุบัน ทางเชียงรายมีความพร้อมแค่ไหน ต้องบอกว่าพร้อมแล้ว
“ จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง 1 พฤศจิกายน ที่จะมีแคมเปญสนับสนุนการท่องเที่ยว เพราะผู้ประกอบการที่เชียงราย เราพร้อมจะรับนักท่องเที่ยวแล้วตอนนี้แล้ว เรื่องถนนหนทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ มีการซ่อมแซมเพื่อความปลอดภัยมั่นใจได้ โดยสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน จะบอกว่า ปีนี้น่าจะหนาวเร็วกว่าปกติ อากาศตอนนี้เริ่มมีลมเย็น ๆ เข้ามาแล้ว ก็เริ่มที่จะเหมาะกับการท่องเที่ยว เพียงแต่ว่าตัวแคมเปญ ประกาศการท่องเที่ยววันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ก็น่าจะเป็นเหมือนกับเป็นแคมเปญช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน“
ภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์
ในส่วนของโซนการท่องเที่ยวชุมชนบนพื้นที่สูง ตอนนี้แทบไม่มีปัญหาแล้ว ฟื้นฟูกันไปค่อนข้างเยอะ เรื่องถนนหนทางที่บางส่วนได้รับผลกระทบ ก็ได้รับการซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้แล้ว แต่ระยะยาวเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นก็อาจต้องรองบประมาณรัฐมาสนับสนุนจากนี้ ตอนนี้เส้นทางส่วนใหญ่ที่เดินทางไปที่จุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ใน จ.เชียงราย สามารถเดินทางได้ปลอดภัยทั้งหมด
เช่นกันกับสายการบิน หรือว่าทางถนน ก็ไม่ได้มีปัญหาแล้ว สามารถเข้ามาท่องเที่ยวใน จ.เชียงรายได้ อยากให้มั่นใจในเรื่องความพร้อมต้อนรับ และความปลอดภัยในพื้นที่
วอนรัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ครอบคลุม
ประธานหอการค้า จ.เชียงราย ยังกล่าวถึงการสนับสนุนของทางภาครัฐ ที่ใช้คำว่าขอเรียนตรง ๆ ถึงรัฐบาล ว่า ช่วงก่อนหน้านี้ทางผู้ประกอบการก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนอะไรจากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเลย ผู้ประกอบการในเชียงรายที่ได้รับผลกระทบภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้ แต่ละเจ้าพยายามฟื้นฟูตัวเอง พยายามทำทุกทางให้ร้านตัวเองกลับมาเปิดกิจการให้ทันหน้าหนาวนี้ จึงเป็นการช่วยเหลือตัวเองไปก่อน ฉะนั้นตอนนี้ ถ้าถามตนก็อยากขอให้ทางภาครัฐ เข้ามาช่วยสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการให้เงินทุน ซึ่งมีข่าวออกมาว่า ทางรัฐบาลก็อาจจะมีการปล่อย “Soft Loan” หรือ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบการธุกิจที่ได้รับผลกระทบ ตรงนี้เห็นด้วยมาก ๆ เพียงแต่ว่าในรายละเอียด อาจต้องลงลึกไปดู เพราะผู้ประกอบการที่โดนน้ำท่วมดินโคลนถล่มรอบนี้ มีทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการรายย่อย
ในส่วนของผู้ประกอบการรายใหญ่นั้น เชื่อว่าน่าจะเข้าถึงกลุ่มเงินทุน ต่าง ๆ ที่รัฐบาลปล่อยออกมาให้ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ชาวบ้าน ร้านอาหาร ร้านค้าเล็ก ๆ ที่บางทีเขาอาจจะไม่มีศักยภาพมากพอ จะยากต่อการเข้าไปใช้วงเงินพวกนี้
“โดยปกติการที่จะเข้าไปเอาวงเงินต่าง ๆ จากภาครัฐ อาจจะต้องมีเรื่องของการบันทึกข้อมูลของการทำธุรกิจในรูปแบบหนึ่ง จะมีเงื่อนไขในการใช้เงินต่าง ๆ ผมคิดว่า ผู้ประกอบการรายเล็ก อาจจะไม่ได้มีการทำเรื่องพวกนี้มาก่อน ก็จะเข้าถึงค่อนข้างยาก ทีนี้อยากจะฝากรัฐบาลไปว่า อยากให้ดูเงื่อนไข เรื่องที่จะเอามาช่วยผู้ประกอบการรายเล็ก ให้สามารถเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น และปรับเงื่อนไขการเข้าถึงให้ลดลง“
ภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์
ส่วนเรื่องการลดภาระค่าใช่จ่ายต่าง ๆ อันนี้เห็นด้วยกับรัฐบาล เพียงแต่อยากส่งเสียงไปว่า รอบนี้เชียงราย เจอวิกฤตน้ำท่วม ดินโคลนถล่มหนักจริง ๆ เพราะฉะนั้น อยากให้มีมาตรการช่วยเหลือ เป็นการช่วยเหลือที่มากพอสำหรับผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดค่าน้ำค่าไฟ การลดการเก็บภาษีต่าง ๆ หรือภาษีเฉพาะธุรกิจก็ตาม
ชี้ แคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง “ อาจไม่สร้างแรงจูงใจนักท่องเที่ยวมากพอ
ส่วนมาตรการสนับสนุนล่าสุด กับแคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ที่เป็นมาตรการช่วยเหลือ หรือสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบคนละครึ่ง กับนักท่องเที่ยวนั้น อาจยังไม่สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการท่องเที่ยวมากพอ
“คือรัฐบาลช่วย 50% นักท่องเที่ยวออก 50% ในวงเงินท่องเที่ยวต่อคนที่ 800 บาท คือรัฐบาลจะช่วย 400 บาทต่อคน ตรงนี้ก็ดีใจที่เริ่มมีมาตรการเข้ามา เพียงแต่มาตรการการช่วย 400 บาท ส่วนตัวมองว่ายังน้อยมาก อาจไม่ได้สร้างการจูงใจให้คนอยากมาเที่ยวมากนัก เพราะตัวเงินไม่ได้ช่วยเยอะ เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนที่มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีการช่วยเรื่องที่พักต่อคืนต่อห้องมากกว่านี้เยอะ และก็ได้ตั้ง 10 สิทธิ ต่อคน แต่อันนี้ 1 คนให้แค่ 400 บาท ผมมองว่าน้อยเกินไป ที่จะจูงใจคนมาเที่ยวที่เชียงราย ก็อาจจะฝากภาครัฐขอมาตรการที่แรง หรือกระตุ้นให้มากกว่านี้“
ภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์
ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีข้อมูลออกมาว่า แคมเปญนี้จะให้ถึง 10,000 สิทธิ์ ซึ่งจริง ๆ คนที่มาเที่ยวเชียงใหม่ หรือ เชียงรายช่วงหน้าหนาว ปริมาณก็จะมากกว่านั้นค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว และ 10,000 สิทธิ์ที่ว่า ถ้าต้องมาแชร์กันระหว่างจเชียงราย กับเชียงใหม่ เรียนตรง ๆ ว่า นักท่องเที่ยวย่อมโฟกัสหรือตรงไปที่เชียงใหม่มากกว่า เพราะฉะนั้น 10,000 สิทธิ์ ก็จะเทไปทางเชียงใหม่มากกว่าครึ่ง เชียงรายก็จะกลายเป็นว่าจะได้นิดหน่อยเท่านั้น ดังนั้นหากเป็นไปได้ อยากให้แยกสิทธิ์ไปเลย
“เชียงใหม่เองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากจะไป และภาพสื่อต่าง ๆ เสนอการเตรียมตัว การกลับมาฟื้นฟูเชียงใหม่ออกมาตลอด เพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่า เชียงใหม่เองก็ไม่น่าห่วงเท่าเชียงราย ที่ตอนนี้การนำเสนอข่าวเชียงรายก็เบาบางลง ดังนั้นหนึ่งในแคมเปญที่อยากให้ภาครัฐ ช่วยคือ การประชาสัมพันธ์ การช่วยโฆษณา ว่า เชียงรายเรากลับมาฟื้นฟูแล้ว และพร้อมสำหรับการรับนักท่องเที่ยว”
ภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์
เตรียมหารือภาคเอกชนเชียงราย ระดมความเห็นกระตุ้นการท่องเที่ยว
ประธานหอการค้า จ.เชียงราย ยังเปิดเผยด้วยว่า สัปดาห์ที่แล้วได้พูดคุยภายในหอการค้า รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาเครือข่ายสมาชิกและธุรกิจ ของเชียงราย หรือ YEC โฟกัสที่การทำแคมเปญ ให้อินฟูลเอนเซอร์ต่าง ๆ ช่วยกระจายข่าวสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งทางเชียงรายพร้อมในเรื่องการต้อนรับการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเตรียมที่จะพูดคุยกันในภาคเอกชน ทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัด กลุ่มการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงราย จะมีการจัด workshop เพื่อระดมความคิดเห็นในการกระตุ้น การท่องเที่ยวปีนี้ พูดคุยกันเพิ่มเติมถึงข้อเสนอต่อภาครัฐเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ที่มีการวางแผนอีเวนท์ต่าง ๆ ให้ยิ่งใหญ่มากกว่าทุก ๆ ปี ทั้งงานคอนเสิร์ต ฟาร์มเฟสติวัลงาน งานรถคลาสสิค เทศกาลงานเชียงรายดอกไม้อาเซียน และอีเวนท์เคาท์ดาวต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคม ยาว 10 วัน ที่อยากให้มีการสนับสนุนให้ยิ่งใหญ่เพื่อดึงนักท่องเที่ยว
“อยากฝากย้ำว่า ตอนนี้เชียงรายเราปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน พยากรณ์อากาศออกมาแล้วว่าหน้าหนาวมาไว อากาศจะเย็นช่วยปลายเดือนตุลาคมแล้ว ไม่ต้องรอพฤศจิกายน ที่จะดีเดย์เปิดเมือง นักท่องเที่ยวก็เดินทางกันมาก่อนได้ บนดอยตอนนี้อุณหภูมิ 10 กว่าองศาแล้ว เป็นปีที่เหมาะกับการท่องเที่ยวที่ จ.เชียงรายมาก อยากจะเชิญทุกท่านมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายปีนี้ รับรองประทับใจแน่นอน ได้รับอากาศหนาว การต้อนรับที่ดี กิจกรรมอีเวนท์ต่าง ๆ ที่สำคัญปลอดภัยแน่นอนไม่ต้องกังวล ขอเรียนเชิญท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย“
ภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์