กองทุนวินแก้หนี้ แนะรัฐตั้งกองทุนกู้ยืม แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างลาดพร้าว 101 ตั้งกลุ่มแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ชี้แรงงานนอกระบบเข้าถึงกลุ่มกองทุนกู้ยืมยาก แนะรัฐจัดตั้งกองทุน เสนอธนาคารลดหย่อนเงื่อนไข 

วันนี้ (2 ธ.ค. 2565) กลุ่มชุมชนวินลาดพร้าว 101  จัดตั้งกองทุนออมทรัพย์ และวิสาหกิจชุมชนให้กับสมาชิกวินลาดพร้าว 101 หวังแก้หนี้นอกระบบสำหรับกลุ่มวินรับจ้าง   เฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า วินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในกลุ่มลาดพร้าว 101  ส่วนมากเป็นคนจากต่างจังหวัด และที่บ้านส่วนมากก็ทำอาชีพเกษตรกร จะต้องส่งเงินเป็นก้อนกลับบ้าน เพื่อทำเกษตรทุกช่วงฤดูกาล เช่น การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยว อาชีพวินมอเตอร์ไซค์แม้จะได้เงินทุกวันแต่ก็ไม่สามารถที่จะเก็บเงินเป็นก้อนพอที่จะใช้จ่ายในช่วงฤดูกาลได้ 

ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องยืมเงินเป็นก้อน แต่ทางเลือกของวินมอเตอร์ไซค์มีไม่มาก เนื่องจากว่าเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่มีความมั่นคงทางการเงิน ไม่มีหลักฐานรายรับ รายจ่ายที่ชัดเจน จึงไม่สามารถที่จะขอกู้เงินจากธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินได้ส่วนมากจึงจำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินก้อนจากการกู้ยืมรายวันที่เป็นหนี้นอกระบบ    

เฉลิม กล่าวว่า แม้วินมอเตอร์ไซค์จะหาเงินได้วันละ 600 ถึง 700 บาท แต่เมื่อหักลบกับรายจ่ายในแต่ละวันก็ไม่พออยู่ดีจึงมีการพยายามที่จะหาวิธีการแก้ไขปัญหาตรงนี้ ด้วยการตั้งกองทุนออมทรัพย์ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อที่จะมีหลักประกันในการกู้ยืมเพิ่มมากขึ้น แต่การระบาดของ โควิด-19 ทำให้สมาชิกหลายคนลาออกจากกองทุน จึงจำเป็นจะต้องหาเงินมาทดแทน 

ซึ่งกองทุนออมทรัพย์ของกลุ่มวินลาดพร้าวถูกตั้งมาแระมาณ 10 ปีแล้ว ได้เริ่มจากการจัดตั้งกลุ่มแล้วไปยื่นขอกู้จากธนาคารเป็นครั้งแรกได้วงเงินมา 3 ล้านบาท แล้วมากระจายกองทุนเป็นออมทรัพย์ให้สมาชิกถือหุ้น แล้วมีการออมเป็นรายเดือนตามที่ กลุ่มกำหนด อาจจะ 500 บาท หรือ 1,000 บาทตามตกลงกันในกองทุน กรณีที่ต้องการเบิกถอนเงิน จะต้องลาออกจากกลุ่มออมทรัพย์เท่านั้น และส่วนนั้นจะต้องขายให้กับคนอื่นมาถือแทน แบบการซื้อขายหุ้น แต่อยู่ในรูปแบบของการออมไปเรื่อยๆ ช่วงแรกของการตั้งกองทุนออมทรัพทย์ มีสมาชิก 300 กว่าคน แต่การระบาดของ โควิด-19 ทำให้สมาชิกหลายคนลาออกจากกองทุน เฉลิมเปิดตัวเลขล่าสุดว่ามีสมาชิก เหลือประมาณ 80 คนเท่านั้น 

“ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการประนอมหนี้ส่งผลให้เครดิต ในการกู้เงินต่อหายไปเลยจะกู้ใหม่ไม่ได้เพราะอันเก่าเราก็ยังคงประนอมหนี้อยู่ธนาคารมองแบบนี้ซึ่งเราก็ต้องทำใจเพราะว่าเหตุการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้พวกเราไม่สามารถที่จะยืมเงินได้”

นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีการพยายามตั้งร้านค้าเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อที่จะนำรายได้จากการขายของมาเป็นทุนหมุนสำรอง ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้เงินทุนสำรองที่ได้จากการเปิดร้านวิสาหกิจชุมชน เพื่อที่จะช่วยเหลือกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ที่รายได้น้อย ก็ต้องยอมให้เขาติดเงินไว้ก่อน ค่อยมาจ่าย การจับจ่ายซื้อขายไม่ได้ดีมาก จากเคยขายได้ 2 ล้านบาท ช่วงนี้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท แต่สามารถที่จะช่วยหมุนเงินกองทุนออมทรัพย์ยังไปต่อได้ คาดว่าหากสถานการณ์หลังจากการระบาดของโควิดดีขึ้น การบริหารเงินกองทุนจะกลับมาเสถียรเหมือนเดิม

สมนึก ศรีทองอินทร์ สมาชิกกองทุนออมทรัพย์ วิสาหกิจชุมชนลาดพร้าว 101 กล่าวว่า ตนเคยเป็นหนึ่งในคนที่กู้ยืมหนี้นอกระบบ ยอมรับว่าไม่สามารถที่จะหาเงินมาใช้ได้ทัน แต่ด้วยความที่ตนทำอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ ไม่สามารถที่จะไปยืมสถาบันทางการเงินหรือธนาคารได้ จึงจำเป็นจะต้องอาศัยเงินกู้นอกระบบ แต่การมีกองทุนออมทรัพย์สามารถช่วยแก้ไขเรื่องหนี้นอกระบบได้ดี

“ประชาชนอย่างเราไปกู้ธนาคาร ไม่ได้เพราะไม่มีเครดิตที่จะกู้ธนาคารนอกเสียจากว่าเราจะมีสมบัติหรือทำงานมีเงินเป็นรายเดือน กองทุนออมทรัพย์ที่เราอยู่ช่วยได้เยอะถ้าเราบริหารได้เราก็จะไม่ได้ไปอาศัยเงินนอกระบบ”

ทั้งนี้ทางกลุ่มออมทรัพย์วิสาหกิจชุมชนลาดพร้าว  101 ผลักดันให้กระทรวงรายงานเก็บข้อมูลแรงงานนอกระบบและเสนอให้กระทรวงแรงงานมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานนอกระบบเพื่อที่จะเข้าถึงสวัสดิการ ทั้งยังเสนอเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยการตั้งกองทุน เพื่อประกอบอาชีพให้สำหรับแรงงานนอกระบบ และแก้เรื่องของกฎระเบียบของธนาคารที่มีปัญหาอยู่ 

“พอคุยกับธนาคาร ธนาคารบอกให้เราไปคุยกับแบงค์ชาติ แบงค์ชาติก็ให้ข้อมูลมาว่าไม่ได้ห้ามสามารถให้ธนาคารดำเนินการได้เลย แต่ทางธนาคารตอบกลับว่าในส่วนของเงินเป็นของธนาคารไม่ใช่รัฐบาล รัฐบาลแค่มีนโยบายให้เราทำ แต่เงื่อนไขการปล่อยกู้ธนาคารเป็นองค์กรที่กำหนดเอง สุดท้ายก็ยังคงติดเงื่อนไขตรงนี้และโยนกันไปมา ” นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าว 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active