ส่องอัตราค่าจ้างใหม่ ต่ำสุด 400 บาท สูงสุด 650 บาท เทียบเกณฑ์วัดค่าทักษะ ฝีมือ ความรู้ ความสามารถ ย้ำมีผลบังคับใช้อีก 90 วัน
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่องอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 16 สาขา ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นเกณฑ์วัดค่าทักษะ ฝีมือ ความรู้ ความสามารถ โดยกำหนดอัตราค่าจ้างแต่ละสาขาอาชีพและในแต่ละระดับ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ใน 90 วัน หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา (11 มิ.ย.65) ซึ่งประกอบด้วย
- อาชีพช่างก่อสร้าง สาขาช่างติดตั้งยิปซัม ระดับ 1 ได้เงินไม่น้อยกว่าวันละ 450 บาท และระดับ 2 ไม่น้อยกว่า 595 บาท
- อาชีพช่างก่อสร้าง สาขาช่างเขียนแบบก่อสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ ระดับ 1 วันละ 645 บาท
- อาชีพช่างก่อสร้าง สาขาช่างปูกระเบื้องผนังและพื้น ระดับ 1 วันละ 450 บาท ระดับ 2 วันละ 550 บาท และระดับ 3 เป็นวันละ 650 บาท
- อาชีพก่อสร้าง สาขาช่างสีอาคาร ระดับ 1 ไม่น้อยกว่าวันละ 465 บาท และระดับ 2 วันละ 600 บาท
- อาชีพก่อสร้าง สาขาช่างก่อและติดตั้งคอนกรีตมวลเบา ระดับ 1 วันละ 475 บาท และระดับ 2 วันละ 575 บาท
- อาชีพช่างอุตสาหกรรมศิลป์ สาขาช่างเครื่องประดับ (รูปพรรณ) ระดับ 1 วันละ 450 บาท ระดับ 2 วันละ 550 บาท และระดับ 3 วันละ 650 บาท
- อาชีพช่างอุตสาหกรรมศิลป์ สาขาช่างประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ระดับ 1 วันละ 430 บาท และระดับ 2 วันละ 550 บาท
- อาชีพอุตสาหกรรมศิลป์ สาขาฝีมือเครื่องประดับแนวอนุรักษ์ (เทคนิคโบราณ) ระดับ 1 วันละ 525 บาท
- อาชีพอุตสาหกรรมศิลป์ สาขาช่างเครื่องถม ระดับ 1 วันละ 625 บาท
- อาชีพภาคบริการ สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (หัตถบำบัด) ระดับ วันละ 460 บาท และระดับ 2 วันละ 575 บาท
- อาชีพภาคบริการ สาขาผู้ประกอบขนมอบ ระดับ 1 วันละ 400 บาท และระดับ 2 วันละ 505 บาท
- อาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานต้อนรับล่วงหน้า ระดับ 1 วันละ 440 บาท และระดับ 2 วันละ 565 บาท
- อาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่มธุรกิจในโรงแรมและภัตตาคาร ระดับ 1 วันละ 440 บาท
- อาชีพภาคบริการ สาขาช่างแต่งผมสตรี อันดับ 1 วันละ 440 บาท ระดับ 2 วันละ 510 บาท และระดับ 3 วันละ 650 บาท
- อาชีพภาคบริการ สาขาช่างแต่งผมบุรุษ ระดับ 1 วันละ 430 บาท ระดับ 2 วันละ 500 บาท และระดับ 3 วันละ 630 บาท
- อาชีพภาคบริการ สาขาการดูแลผู้สูงอายุ ระดับ 1 วันละ 500 บาท
สำหรับค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นนี้ จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อ 90 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไป