จับตาฝนตกชุกหนาแน่น ส่วนใหญ่เป็นภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ จ. ชุมพร ลงมา อาจมีฝนหนักถึงหนักมาก ส่งผลหลายจังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม
วันนี้ (9 พ.ย. 67) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) หรือ สสน. รายงานระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ 53 หน่วยงาน 12 กระทรวงพบว่าปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ประเทศไทยมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายตัวบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนล่าง
ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ปัตตานี 99 มิลลิเมตร, นราธิวาส 79 มิลลิเมตร, ชุมพร
70 มิลลิเมตร, นครศรีธรรมราช 69 มิลลิเมตร, ประจวบคีรีขันธ์ 56 มิลลิเมตร, พัทลุง 55 มิลลิเมตร, ยะลา 54 มิลลิเมตร, สงขลา 44 มิลลิเมตร, สุราษฎร์ธานี 40 มิลลิเมตร
สำหรับคาดการณ์ฝนตก ในช่วงวันที่ 9 – 11 พ.ย. 67 พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมตอนบนของประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลงและอาจมีเล็กน้อยถึงปานกลางได้ในบางแห่ง
โดยภาคใต้ ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะ 14 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และ นราธิวาส ที่จะเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก
ขณะที่ ในช่วงวันที่ 12 – 15 พ.ย. 67 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงและอาจมีฝนตกเล็กน้อยได้ในบางแห่ง
ส่วนร่องมรสุมยังคงพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และอาจมีฝนตกหนักได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก
นอกจากนั้นในช่วงวันที่ 9 – 10 พ.ย. 67 ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ส่งผลให้ทะเลฝั่งอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1.5 – 2.0 เมตร ส่วนทะเลฝั่งอันดามันมีคลื่นสูง 1.0 – 1.5 เมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำใน เขื่อนภาคใต้ พบว่า เขื่อนบางลาง จ.ยะลา มีปริมาณน้ำเก็บกัก 697 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุเก็บกัก (ปริมาตรน้ำเก็บกักสูงสุด 1,454 ล้าน ลบ.ม.) สามารถรับน้ำได้อีก 757 ล้าน ลบ.ม.
ขณะที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดการณ์ว่าเฉพาะเดือนพฤศจิกายนนี้ ภาคใต้จะเสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก 16 จังหวัด 107 อำเภอ 484 ตำบล เกิดน้ำท่วมฉับพลัน 16 จังหวัด 70 อำเภอ 168 ตำบล ที่ จ.เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส
น้ำหลาก 12 จังหวัด 80 อำเภอ 316 ตำบล ที่ จ.เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, พังงา, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สงขลา, สตูล และ นราธิวาส