ท้องถิ่นเร่งสร้างความเชื่อมั่น ไม่ให้ซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี 2559 และ 2560 เดินหน้าโครงการสร้างประตูระบายน้ำ ขุดคลองลัดย่นระยะทางน้ำลงทะเล ขณะที่ประชาชน ยืนยัน มั่นใจแต่ไม่วางใจ
The Active ลงพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูมรสุม โดยเฉพาะในพื้นที่ของเทศบาลกำเนิดนพคุณ ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก โดยเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีสถานที่สำคัญ ทั้ง โรงพยาบาล, โรงเรียน, สถานที่ราชการ, บ้านเรือนประชาชน
ทั้งนี้ด้วยลักษณะภูมิประเทศของ อ.บางสะพาน มีเทือกเขาตะนาวศรีทางตะวันตกเป็นแนวยาว เมื่อน้ำไหลจากเทือกเขาลงสู่ทะเล จะผ่านพื้นที่ของ อ.บางสะพาน ซึ่งที่ผ่านมาลำคลองในพื้นที่มีลักษณะคับแคบและคดเคี้ยว ทำให้น้ำไหลล้นเข้าพื้นที่ทุกปี โดยเฉพาะช่วงปี 2559 – 2560 ที่น้ำท่วมหนัก นำมาสู่การแก้ปัญหาครั้งใหญ่ของพื้นที่โดยแก้ทั้งระบบโครงสร้างการระบายน้ำ
ณัฐพงศ์ ไกรนรา ปลัดอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับ The Active ว่า หลังเจอน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2559 – 2560 กรมชลประทาน ได้เดินหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำไทยทอง บริเวณ ต.ทองมงคล อ่างเก็บน้ำคลองลอยตอนล่าง ในพื้นที่ ต.ร่อนทอง ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง หากแล้วเสร็จจะช่วยควบคุมปริมาณน้ำจากเทือกเขาตะนาวศรีลงมาสู่พื้นที่ อ.บางสะพาน ได้
ส่วนในพื้นที่ของ อ.บางสะพาน ได้ขุดคลองลัด เพื่อย่นระยะทางของน้ำในคลองบางสะพาน ที่เดิมทีมีลักษณะแคบ และคดเคี้ยว ระยะทาง 3 กิโลเมตร แต่คลองลัดระยะทาง 500 เมตร เพื่อช่วยระบายน้ำลงสู่ทะเลได้เร็วมากขึ้น และในช่วงก่อนฤดูมรสุม จะเตรียมความพร้อมของพื้นที่รับน้ำ โดยใช้เครื่องจักรขุดลอกคลองวังกระจอง เพื่อกำจัดวัชพืช ไว้เป็นแก้มลิงรับน้ำ โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์
“การเตรียมความพร้อม มีการประชุมตลอดทุกปีก่อนมรสุม เพราะพื้นที่ อ.บางสะพาน ด้านทิศตะวันตก มี 3 ตำบล ติดเทือกเขาตะนาวศรี ทั้งหมด และปริมาณน้ำฝนปีนี้คาดว่าจะเยอะ เราต้องเตรียมความพร้อม ยอมรับว่ามีความกังวลหากเกิดน้ำป่าไหลหลากหากฝนตกลงมาในปริมาณมาก”
ณัฐพงศ์ ไกรนรา
ปลัดอำเภอบางสะพาน ยังระบุถึงการแจ้งเตือนภัยด้วยว่า สำหรับประชาชนในพื้นที่จะแจ้งเตือนผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งผ่านไลน์กลุ่ม โซเชียลมีเดีย และเสียงตามสาย ซึ่งในส่วนของผู้นำชุมชน ทางอำเภอจะแจ้งข้อมูลปริมาณน้ำฝนให้ทราบรายวัน
วสันต์ ปลอดโปร่ง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พา The Active สำรวจประตูระบายน้ำที่สร้างขึ้นหลังจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ตามโครงการฯ เช่นกัน โดยระบุว่า เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2561 จุดแรกคือ ประตูน้ำบ้านล่าง หมู่ที่ 1 ตำบลพงศ์ประศาสน์ และ จุดที่ 2 คือ ประตูระบายน้ำวัดห้วยทรายขาว เทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ ซึ่งช่วยระบายน้ำในพื้นที่ให้ออกสู่ทะเลเร็วขึ้น ส่วนอีกจุดเป็นประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ปลายคลองบางสะพานและคลองลัด ซึ่งเป็นจุดระบายน้ำออกสู่ทะเล และยังเป็นประตูกั้นน้ำทะเลหนุนไม่ให้เข้ามาในพื้นที่อีกด้วย
นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังมีโครงการ “ขุดดินแลกน้ำ” เป็นลักษณะโครงการที่ให้ผลต่างตอบแทน โดย ธนาชัย บัวช่วง นายกองค์การบริการส่วนตำบลพงศ์ประศาสน์ เล่าวว่า เป็นโครงการที่ไม่ใช้งบประมาณจากรัฐ แต่จะเป็นการทำสัญญาร่วมกับเอกชน โดยให้เอกชนลงทุนนำเครื่องจักรเข้ามาดูดทรายจากคลอง ที่เป็นอุปสรรคที่ทำให้ลำคลองตื้นเขิน แลกกับการที่เอกชนสามารถนำทรายไปใช้ประโยชน์ได้
ขณะที่ อำภา เจียมรัตนศักดิ์ ประชาชนในตลาดบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ช่วงปี 2559 – 2560 ว่า ตอนนั้นชาวบ้านเดือดร้อนหนัก แม้ว่าจะเคยเจอเหตุการณ์ที่น้ำท่วมพื้นที่มาบ้างแล้ว แต่ไม่สูงมาก ซึ่งในปีนั้นหากลงไปยืนบนถนนน้ำน่าจะสูงท่วมหัว เพราะทั้งในบ้านและร้านก็เก็บของขึ้นที่สูงแล้วยังไม่พ้น แต่หลังจากนั้นมาเห็นการก่อสร้างคลองลัด ก็ไม่มีน้ำท่วมในพื้นที่อีกเลย
“ขนาดยกข้าวของขึ้นแล้ว หลังได้รับแจ้งเตือนจากพื้นที่ แต่ก็ไม่พ้น ข้าวของในบ้านได้รับความเสียหาย เพราะไม่คิดว่ามันจะเยอะ น้ำมาประมาณ 2 รอบ ตอนนี้ก็ดีขึ้น เพราะว่ามีคลองลัด เมื่อก่อนฝนตกติดต่อกัน 3 – 4 วัน หน้าบ้านก็ท่วมแล้ว ปีนี้ก็กังวล เพราะดูข่าวว่าน้ำมาเยอะ ถ้าเขาแจ้งให้ยกของก็คงต้องเก็บ”
อำภา เจียมรัตนศักดิ์
เช่นเดียวกับ พวงเพ็ชร์ อ่วมประเสริฐ แม่ค้าในตลาดบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกว่า ช่วงที่น้ำท่วมไม่ได้กลับเข้าบ้าน ต้องอาศัยนอนอยู่ในตลาด เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลอดภัยกว่า เพราะในตลาดยกสูงจากพื้นถนน แต่ถึงอย่างในตลาดก็ยังมีน้ำท่วมขังอยู่เช่นกัน และนับตั้งแต่มีคลองลัด คนในพื้นที่ก็อุ่นใจขึ้นแต่ก็ไม่ประมาท หากได้รับการแจ้งให้เตรียมความพร้อมรับมือก็ยินดีทำตามเพื่อลดผลกระทบ
