ฟังความทุกข์ “คนนอกคันกั้นน้ำ” จ.อยุธยา “ปรับตัวอยู่กับน้ำได้ แต่ทำไมน้ำท่วมเราทุกปี”

ปีนี้ท่วม แต่จัดการน้ำได้ดี ชูเครือข่ายภาคประชาชนและรัฐทำงานร่วมกัน สื่อสารเตือนภัยเข้าใจง่าย เยียวยาตรงจุด ด้านสส.พรรคประชาชน เสนอ ตัดยอดน้ำก่อนถึง “ทุ่งรับน้ำ” ช่วยผู้เสียสละ ปกป้องเศรษฐกิจ กรุงเทพฯ

14 ต.ค. 67 (วันนี้) The Active ลงพื้นที่ ต.บางหลวงโดด ต.บางหลวง และ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ฟังเสียงสะท้อนคนนอกคันกั้นน้ำ พบว่า วันนี้ระดับน้ำหลายบ้านลดลงแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ยังต้องสัญจรด้วยเรือ และบางจุดแม้น้ำลดแต่การเดินทางก็ยังลำบากต้องใช้ทั้งเรือ รถ และยังต้องเดินลุยน้ำ

ชาวบ้านสะท้อนว่า ปีนี้การบริหารจัดการน้ำดีขึ้น เพราะน้ำปีนี้น้อยเมื่อเทียบกับปี 2554 และ ปี 2565 แต่ปัญหา คือ น้ำมาเร็ว และลงเร็วทำให้ยากต่อการจัดการ เฉพาะปีนี้ ชาวบ้านต้องรับน้ำไปแล้ว 2 รอบ โดยรอบแรกช่วงต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนรอบนี้ น้ำได้ท่วมขังนานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว และยังมีความกังวลน้ำที่จะท่วมในระลอกถัดไป ช่วงวันที่16-20 ต.ค.นี้จากปัจจัย น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนและปริมาณฝน

“ปีนี้น้ำมา 2 รอบแล้ว แม้จะชินว่าเราอยู่กับน้ำ แต่ปีนี้น้ำมาเร็ว ไปเร็ว แล้วก็เตรียมจะมาอีก เป็นความยากลำบากอีกแบบหนึ่ง …เราก็คิดเหมือนกันทำไมบ้านเราถึงท่วมทุกปี ไม่ท่วมตรงอื่นบ้าง” เสียงสะท้อนชุมชนนอกคันกั้นน้ำ พระนครศรีอยุธยา 

ภาคประชาชนมีส่วนร่วมออกแบบ จัดการน้ำ ช่วยลดผลกระทบ

จากการสอบถามประชาชนที่เดือดร้อนหลายหลัง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้น้ำน้อย และไม่มีความขัดแย้งเรื่องการรับน้ำเหมือนปีที่ผ่านมา เพราะมี “เครือข่ายภาคประชาชน” ที่ตั้งกลุ่มจัดการองค์ความรู้ และทำงานประสานกับภาครัฐมากขึ้น ทำให้การสื่อสารทั้งการเตือนภัย การเยียวยา สอดคล้องตรงกับความต้องการของชาวบ้านมากขึ้น

สันติ โฉมยงค์ เครือข่ายภาคประชาชน  จ.พระนครศรีอยุธยา ให้สัมภาษณ์ ว่า ภาคประชาชนเริ่มก่อตัวจัดตั้งหลังน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 จึงมีการรวมกลุ่มประชาชนที่สนใจด้านน้ำ จาก 7 ทุ่งรับน้ำ ทำข้อมูลแผนที่ ประเมินสถานการณ์ จุดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมมาตั้งแต่ช่วงต้นปี และเริ่มเตือนตั้งแต่เริ่มมีการระบายน้ำอยู่ที่ 500 ลบ.ม. กลไกสำคัญของการรวมกลุ่มภาคประชาชน ยังมีบทบาทสำคัญในการแปลงข้อมูลภาพกว้างจากการเตือนภัยในระดับรัฐ จากตัวเลขน้ำหน่วยลูกบาศก์เมตร เป็นภาษาที่เข้าใจเลยว่า ชาวบ้านจะต้องรับน้ำสูงระดับใด และใช้เวลาเดินทางนานกี่วัน 

คู่ขนานกับ การทำงานของ สส.ในพื้นที่ ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ พรรคประชาชน ทำเพจออนไลน์สื่อสารเรื่องการเตือนภัย และมีส่วนสำคัญในการประสานความต้องการของประชาชนไปถึงภาครัฐ และใน สภาฯ 

เช่น สถานการณ์วันนี้ มีการแจ้งเตือนระดับน้ำของจังหวัด ทั้ง สส.ในพื้นที่ และเครือข่ายภาคประชาชน ก็จะแปลงข้อมูลให้ประชาชนเผชิญกับภัยได้อย่างทันท่วงที ยกตัวอย่างเช่น

  • ปริมาณน้ำผ่าน อ.เมืองนครสวรรค์(C.2) จ.นครสวรรค์ : 1,964 ลบ.ม./วินาที สามารถสื่อสารได้เลยว่า อีก 48 ชม. น้ำจะถึงอยุธยา ขอเตรียมรับมือ ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน
  • หรือ เขื่อนเจ้าพระยา(C.13) จ.ชัยนาท ระบายน้ำที่ระดับ : 1,751 ลบ.ม./วินาที สามารถบอกได้ว่า อีก 24 ชม. ถึงอยุธยา ขอเตรียมรับมือ ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน
  • ปริมาณน้ำผ่าน อ.พระนครศรีอยุธยา(C.35) จ.พระนครศรีอยุธยา : 1,035 ลบ.ม./วินาที สามารถระบุให้ชาวบ้านเข้าใจได้ว่า รับมือผลกระทบหนัก : น้ำเข้าท่วมบ้านเรือน เริ่มกักตุนของจำเป็น เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก โดยเสนอให้มีการแก้ปัญหาตั้งแต่การตัดยอดน้ำ ให้จังหวัดก่อนหน้า พระนครศรีอยุธยา ไม่ให้เป็นจังหวัดเดียวที่แบกรับภาระเป็นประจำทุกปี 

สันติ ย้ำว่า  ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ เป็นชาวบ้านนอกคันกั้นน้ำ แช่น้ำนานหลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ขณะที่ชาวบ้านในคันกั้นน้ำ ที่ทำนา, ทำธุรกิจ ฯลฯ น้ำกลับไม่ท่วม ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการบริหารจัดการน้ำ การมีเครือข่ายภาคประชาชน ที่ช่วยกันติดตาม กำกับเรื่องน้ำ และเก็บข้อมูลเพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของคนที่อยู่กับน้ำ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ภาคประชาชนยังต้องทำงานต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำระหว่างประชาชน กับภาครัฐ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และลดผลกระทบ ความทุกข์ใจของคนรับน้ำได้มากที่สุด

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active