สรุป #น้ำท่วม2567 (13 ต.ค. 67)

#ภัยพิบัติ ที่ต้องรู้

  • เขื่อนเจ้าพระยา ปรับลดการระบายน้ำลงอีกจนเหลือแค่ 1,850 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำ ท้ายเขื่อนไม่เกิดปัญหา สอดคล้องสถานการณ์ฝนและน้ำทะเลที่จะหนุน ในช่วงวันที่ 13 – 24 ต.ค.นี้

รู้ทัน #ภัยพิบัติ

ศูนย์แจ้งเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ออกประกาศแจ้งเตือน พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วยอ.บ้านตาขุน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี, อ.ทุ่งสง อ.ฉวาง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช, อ.สะบ้าย้อย อ.เทพา อ.นาทวี จ.สงขลา, อ.เบตง อ.ธารโต จ.ยะลา, อ.ยี่งอ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส, อ.กะเปอร์ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง, อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา, ทุกอำเภอ จ.ภูเก็ต, อ.อ่าวลึก อ.ปลายพระยา อ.เขาพนม จ.กระบี่, อ.เมืองตรัง อ.นาโยง จ.ตรัง

ส่วนพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม ประกอบด้วย อ.พนม อ.บ้านนาสาร อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี, อ.พิปูน อ.ฉวาง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช, อ.เบตง อ.ธารโต จ.ยะลา

มีอะไรใน #ภัยพิบัติ

  • ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย ระบุ ขณะนี้อยู่ระหว่างฟื้นฟู ยืนยันไม่มีหน่วยงานถอนกำลัง เดินหน้าฟื้นฟูให้พื้นที่กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ส่วนที่ อ.แม่สาย ประชาชนมีไฟฟ้าใช้แล้ว 12,268 ราย ฟื้นฟูบ้านเรือน 819 หลัง ดำเนินการแล้ว 658 หลัง คิดเป็น 80%

  • จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษก ศปช.​ เปิดเผยภาพรวมการฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จ.เชียงราย ปภ. รายงานภาพรวมคืบหน้าถึง 97% โดยนอกเขตเทศบาลนครเชียงราย ทั้ง 6 ตำบล 1,285 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่เข้าล้างทำความสะอาดถนน ล้างทำความสะอาดบ้านเรือน จัดเก็บขยะ เสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือในพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและท้องถิ่นในพื้นที่ ยังคงล้างถนนและบ้านเรือน อีก 40 ครัวเรือน จากทั้งหมด 82 ครัวเรือนก็จะแล้วเสร็จตามเป้าหมาย ส่วนที่ อ.แม่สาย เฟส 2 ภาพรวมคืบหน้า 80% โดยที่ชุมชนหัวฝาย เหมืองแดงใต้ และปิยะพร ล้างทำความสะอาดบ้านเรือนให้ประชาชนเรียบร้อยแล้ว เหลือพื้นที่เหมืองแดง, ไม้ลุงขน, เกาะทราย และสายลมจอย ยังเร่งดำเนินการต่อเนื่อง

  • ส่วน จ.ลำพูน ขณะนี้ ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกจุดแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาอีก 5 วัน สถานการณ์คลี่คลาย ส่วนกรณีน้ำท่วมขังเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็นในพื้นที่บางจุด วันนี้ (13 ต.ค. 67) สถานีพัฒนาที่ดินลำพูน กรมพัฒนาที่ดิน แจกน้ำหมักและเชื้อจุลินทรีย์ ช่วยบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็น จำนวน 500 ขวด และ 500 ซอง ให้ผู้ประสบภัย หมู่ที่ 1, 2 และ 4 ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน
  • ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และนายอำเภอเบตง พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านธารมะลิ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต มอบเงินเยียวยาค่าจัดการศพให้แก่ครอบครัว กอเดร์ ลือบาจิ จำนวน 29,700 บาท และกิ่งกาชาดอำเภอเบตง จำนวน 3,000 บาท พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยจำนวน 7 ชุด หลังจากนั้น ได้สำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่

  • กระทรวงสาธารณสุข ระบุ กรณี นักท่องเที่ยวประสบภัยจากน้ำป่าไหลหลาก ที่น้ำตกวังลุง อ.พรหมคีรี จนมีผู้เสียชีวิต 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 คน ขณะนี้ แพทย์ รพ.พรหมคีรี อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว

  • ส่วนการจัดทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ออกดูแลช่วยเหลือประชาชน 56 ทีม ให้บริการ 4,303 คน ดูแลกลุ่มเปราะบาง 195 คน ประเมินสุขภาพจิต 310 คน พบผู้มีภาวะเครียดสูงต้องให้การดูแลจิตใจ 21 คน

  • รศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญคณะทำงานระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ IPCC ระบุว่า จากนี้การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม และชุมชนเข้มแข็ง คือ หัวใจสำคัญในการปรับตัวรับมือภัยพิบัติ ที่อาจจะรุนแรงขึ้น จากการคาดการณ์ ประมวลผลด้วยระบบ AI และ การวิเคราะห์ประมวลแบบจำลอง พบว่า ในปี 2568 – 2659 ไทยเสี่ยงกับภัยแล้ง อากาศร้อน จากภาวะเอลนิโญ และปี 2573 ไทยก็อาจกลับมาเผชิญความเสี่ยงน้ำทวมใหญ่อีกครั้ง ซึ่งอาจมีแนวโน้มมากกกว่าปี 2554 ดังนั้นรัฐบาลอาจต้องคิดต่อถึงการลงทุนสร้างชุมชนเข้มแข็งรับมือภัยพิบัติ จึงจะสามารถลดผลกระทบได้

  • ประธานหอการค้า จ.เชียงราย ระบุแคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ที่เป็นมาตรการช่วยเหลือ หรือสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบคนละครึ่ง กับนักท่องเที่ยวนั้น อาจยังไม่สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการท่องเที่ยวมากพอ 

  • พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ได้พูดคุยภายในหอการค้า รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาเครือข่ายสมาชิกและธุรกิจ ของเชียงราย หรือ YEC โฟกัสที่การทำแคมเปญ ให้อินฟูลเอนเซอร์ต่าง ๆ ช่วยกระจายข่าวสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งทางเชียงรายพร้อมในเรื่องการต้อนรับการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเตรียมที่จะพูดคุยกันในภาคเอกชน ทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัด กลุ่มการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงราย จะมีการจัด workshop เพื่อระดมความคิดเห็นในการกระตุ้น การท่องเที่ยวปีนี้ พูดคุยกันเพิ่มเติมถึงข้อเสนอต่อภาครัฐเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ที่มีการวางแผนอีเวนท์ต่าง ๆ ให้ยิ่งใหญ่มากกว่าทุก ๆ ปี ทั้งงานคอนเสิร์ต ฟาร์มเฟสติวัลงาน งานรถคลาสสิค เทศกาลงานเชียงรายดอกไม้อาเซียน และอีเวนท์เคาท์ดาวต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคม ยาว 10 วัน  ที่อยากให้มีการสนับสนุนให้ยิ่งใหญ่เพื่อดึงนักท่องเที่ยว 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active