เป็นเวลานับเดือนที่ภัยพิบัติในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงไม่สามารถเดินหน้าฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ เพราะความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ ส่งผลให้ยังมีฝนตกลงมาซ้ำเติมหลายพื้นที่ น้ำในแม่น้ำสายหลักทั้งในตัวเมือง และ อ.แม่สาย ยังเพิ่มขึ้นส่งผลให้บางจุดเกิดน้ำหลากเข้าท่วมซ้ำ การฟื้นคืนชีวิตปกติให้กับชาวบ้านในหลายชุมชน จึงยังเต็มไปด้วยอุปสรรค โดยเฉพาะการจัดการกับดินโคลน และขยะ บ้านหลายหลังจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้
แน่นอนว่าทุกสรรพกำลัง ถูกทุ่มลงไปให้กับภารกิจฟื้นฟูเมืองเชียงราย หนึ่งในนั้นยังมีกำลังแรงกายของเยาวชนอย่างน้อย 2 กลุ่ม ที่เข้าพื้นที่ร่วมภาริจช่วยเหลือประชาชนอย่างเงียบ ๆ มาไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ที่กำลังพูดถึงคือ คนหนุ่มสาวชาว ‘อุเทนถวาย’ ที่ในอดีตมักถูกสังคมตัดสินตีตราในทางลบด้วยข่าวคราวการทะเลาะวิวาทต่างสถาบัน แต่วันนี้พวกเขาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง และศิษย์เก่าเกือบ 100 ชีวิต เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมฟื้นฟูน้ำท่วมที่เชียงราย อีกกลุ่ม คือ ‘เยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก’ กว่า 20 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ ก็เดินทางเข้าพื้นที่ด้วยเช่นกัน
เตชาติ์ มีชัย ประธานมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว ยอมรับว่า นี่คือภารกิจที่เด็ก เยาวชน ที่เคยถูกมองในแง่ลบจากสังคม และบางคนเคยก้าวพลาด พยายามใช้พลังกาย พลังใจ ตอบแทนคืนสู่สังคมในยามที่เผชิญกับความยากลำบากแบบนี้ ซึ่งมูลนิธิฯ ถือเป็นเพียงลมใต้ปีกที่คอยสนับสนุนภารกิจของทั้ง 2 กลุ่มให้ลุล่วง และพยายามระดมทรัพยากรช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ขณะที่ ศุภชัย ลิ้มพิพัฒนโสภณ นายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย บอกว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมระดมเงินจากรุ่นพี่ หน่วยงาน ห้างร้าน องค์กรเครือข่ายเพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูน้ำท่วม โคลนถล่มที่เชียงราย ซึ่งได้เดินทางเข้าพื้นที่มาตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยแบ่งภารกิจเป็น 2 ส่วน คือ
- ส่วนแรก คือ ประจำการที่สนามกีฬากลาง อบจ.เชียงราย สนับสนุนภารกิจจัดการกับของบริจาค และจัดส่งสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยในที่ต่าง ๆ
- ส่วนที่สอง คือ สนับสนุนทีมเข้าไปในพื้นที่ที่น้ำท่วมโคลนถล่ม ช่วยตักโคลน ล้างบ้าน แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่เป็นอย่างดี จนภารกิจที่วางไว้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
“มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนที่ลำบาก พวกเราทุกคนได้รับการต้อนรับจากคนในพื้นที่เหมือนลูกเหมือนหลาน น้อง ๆ ที่มาช่วยก็เต็มใจมา เห็นแววตาที่ชาวบ้านมองเราอย่างเอ็นดู”
เป็นความรู้สึกที่ อนนทกรณ์ นาดี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย สัมผัสได้ หลังร่วมภารกิจอาสาสมัครครั้งนี้ แม้ยอมรับว่าทั้งเหนื่อย หนัก และได้พักผ่อนน้อยมาก แต่เชื่อว่าทุกคนมีความสุขที่ได้ออกไปทำงาน เมื่อได้ยินเสียงขอบคุณจากชาวบ้าน ได้เห็นแววตาที่ลุง ๆ ป้า ๆ มองมา การโอบกอดอย่างลูกหลานคือพลังใจที่เราได้กลับมา
ไม่ต่างจากความรู้สึกของ เอ (นามสมมติ) เยาวชน จากบ้านกาญจนาฯ ที่ยอมรับ และทำใจไว้ล่วงหน้าตั้งแต่อาสามาเชียงรายแล้วว่า จะต้องเจอกับงานใหญ่แน่นอน ซึ่งก็เจองานหนักจริง ๆ ในแต่ละวันการเข้าพื้นที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย งานตักโคลน งานล้างบ้าน ทำความสะอาดทุกอย่าง ต้องใช้พลังกาย พลังใจอย่างมาก ต้องทำงานแข่งกับเวลา แต่สิ่งที่ตอบแทนกลับมามันมีคุณค่ามาก ๆ สำหรับพวกเรา คือ รอยยิ้ม คำขอบคุณ และความเมตตาของลุงป้าน้าอา ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ
“ชาวบ้านมองเราเหมือนเป็นลูกหลานจริง ๆ หลาย ๆ บ้านคุณตา คุณยายร้องไห้ บอกให้เราแวะมาเยี่ยมด้วยนะถ้ามีโอกาส เรารู้สึกได้เลยว่านี่คือคุณค่า คือความหมายที่พวกเราตามหามานาน และไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจมาที่นี่ แม้จะเหน็ดเหนื่อยก็ตาม”
เยาวชนบ้านกาญจนาฯ ทิ้งท้าย