วันนี้ จุดไหนเสี่ยง พื้นที่ไหนได้รับผลกระทบ แนวทางรับมือ เยียวยาน้ำท่วม มีมาตรการอะไรน่าสนใจ The Active รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว!
ริมแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ วิกฤต! ระดับน้ำสูงถึง 5.01 ม. ผู้ว่าฯ เผย คืนนี้อาจแตะ 5.20 ม.
Thai PBS News รายงานสถานน้ำท่วมใน จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำปิง ยังคงวิกฤต ซึ่งเมื่อเวลา 17.00 น. เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้แจ้งเตือนว่า ขณะนี้ระดับน้ำปิงอยู่ในระยะวิกฤต เป็นสีแดง วัดได้ 5.01 ม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยผ่านเพจ PR Chiangmai ว่า ในช่วงเวลา 01.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค. 67) ระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะเพิ่มสูงขึ้นถึงแตะระดับ 5.20 ม.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์เอง ก็ต้องเร่งบรรจุทรายลงกระสอบเพื่อทำเป็นแนวป้องกันน้ำที่จะทะลักเข้าร่วมยังบริเวณโรงพยาบาล หลังระดับน้ำในแม่น้ำปิงมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจนอาจจะเอ่อทะลักบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิง และอาจส่งผลกระทบในบริเวณกว้าง
ส่วน บริเวณสะพานเม็งรายอนุสรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำในบริเวณแม่น้ำปิงกำลังเอ่อล้นเข้าท่วม เจ้าหน้าที่ได้มีการเสริมพนังกั้นน้ำที่เป็นกระสอบทรายในบริเวณทางน้ำแล้ว พร้อมกับประกาศเตือนประชาชนที่จอดรถในบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิงให้ย้ายไปจอดบนตึกสูงอีกด้วย
ด้าน ชาวบ้านช้างค้ำ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ต้องลุยเร่งเก็บข้าวของเท่าที่จะทำได้ แม้หลายคนเพิ่งจะทำความสะอาดบ้านเสร็จ แต่ก็ต้องมาเจอน้ำท่วมอีกครั้ง เพราะน้ำจากตัวเมืองเชียงใหม่ กำลังท่วม ทำให้ทรัพย์สินน่าจะเสียหายซ้ำ และอาจเสียหายไปทั้งหมด
ส่วนน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ระดับน้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะย่านช้างคลานและไนท์บาซาร์ ที่เป็นย่านที่พักและโรงแรม โดยช่วงเช้าวันนี้ โรงแรมหลายแห่งบนถนนช้างคลาน ต้องจัดหารถบรรทุกขนาดใหญ่ สำหรับรับ-ส่งลูกค้าโรงแรม หลังแม่น้ำปิงล้นตลิ่งเข้าท่วมเป็นรอบที่ 2
อัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงใหม่ และทีมพยาบาล โรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม่ นำส่งผู้ป่วยที่ประสบภัยน้ำท่วมจากบริเวณถนนราษฎร์อุทิศ พร้อมญาติ ไปยังพื้นที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ อัศนี ยังเร่งให้เจ้าหน้าที่เสริมแนวกระสอบทรายยังบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิงทุกจุด เนื่องจากว่าระดับของสะพานจะอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร ซึ่งจากการคาดการณ์ของสำนักงานชลประธานจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มวลน้ำที่กำลังจะมาถึงในตัวเมืองเชียงใหม่อาจมีความสูงมากกว่า 5 เมตร จึงอาจทำให้ระดับน้ำชนกับขอบสะพานได้
เช็ก! น้ำท่วม 6 สายทางผ่านไม่ได้
สำนักบำรุงทาง โดยกรมทางหลวงชนบท รายงานถึงโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย อุดรธานี แม่ฮ่องสอน เลย และตาก ซึ่งมีสายทางไม่สามารถสัญจรได้ 6 สายทาง ดังนี้
จังหวัดหนองคาย
- ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบทสาย นค.3009 – บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 12+825 ถึง 13+400)
- ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 – บ้านธาตุกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 ถึง 17+300)
จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ถนนสาย มส.3018 แยก ทล.108 – บ้านน้ำเพียงดิน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ช่วง กม.ที่ 8+400 ถึง กม.ที่ 8+500)
จังหวัดเลย
- ถนนสาย ลย.2002 แยก ทล.21 – บ้านนาซำแซง อำเภอภูเรือ, วังสะพุง จังหวัดเลย (ช่วง กม.ที่ 22+241 ถึง กม.ที่ 22+270)
- สะพาน ลย.018 สะพานอนุสรณ์ศรีฐานคณานุยุต อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
จังหวัดตาก
- ถนนสาย ตก.5015 แยกทางหลวงชนบท ตก.1004 – บ้านแม่เชียงราย อำเภอสามเงา จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 5+900 ถึง 5+940)
ทั้งนี้ แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้น และน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งปิดการจราจร ติดตั้งป้ายห้ามใช้เส้นทาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เตือน ‘อ่างทอง-อยุธยา-สิงห์บุรี’ เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำเพิ่ม 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที
กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาเมื่อเวลา 09.00 น. ดังนี้
- สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,282 ลบ.ม.วินาที มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 20 ซม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.18 เมตร
- สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,999 ลบ.ม.ต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ระดับน้ำท้ายเขื่อน เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 31 ซม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.84 เมตร
เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณฝนตกหนักทางพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำกรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันได ประมาณชั่วโมงละ 20 ลบ.ม.ต่อวินาที ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึงอัตราไม่เกิน 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ในเวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยากรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป โดยมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนี้
จ.อ่างทอง
- บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำคลองโผงเผง
โดย ขณะนี้ชาวบ้านในชุมชนตลาดอ่างทอง ได้ช่วยกันกรอกกระสอบทราย เพื่อใช้เป็นแนวคันป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ฝั่งตะวันตกแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของ จ.อ่างทอง หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ใกล้ล้นตลิ่ง
ขณะเดียวกันเทศบาลเมืองอ่างทอง นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ติดตั้งเพิ่ม บริเวณโรงสูบน้ำไฟฟ้าตลอดแนวริมแม่น้ำและใช้วิธีสูบน้ำออกจากพื้นที่
จ.พระนครศรีอยุธยา
- ต.หัวเวียง อ.เสนา
- ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ (แม่น้ำน้อย)
- คลองบางบาล
โดย นิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำระดับ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำพื้นที่ริมน้ำ เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 1-1.50 ซม.
จ.สิงห์บุรี โดย ณรงค์ศักดิ์ วิงวอน นายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี ได้ประสานทหารจาก ป.71 พัน 711 จ.ลพบุรี เข้าช่วยเหลือประชาชน เคลื่อนย้ายสิ่งของ และช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน เพื่อความปลอดภัยในช่วงที่น้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำในปริมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้บ้านที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบ
อนุทิน ยืนยันเร่งช่วยเหลือ น้ำท่วม ‘เชียงใหม่-เชียงราย’ เต็มที่
Thai PBS News รายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่เชียงใหม่และเชียงราย โดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และรักษาการผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงราย ได้รายงานสถานการณ์ต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งด้านอุปกรณ์ และการระดมกองอาสารักษาดินแดน (อส.) จากทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าไปในพื้นที่จำนวน 1,000 กว่าคน รวมถึงทีมกู้ภัยที่เข้าไปช่วยเยียวยาด้วย
ส่วนผลกระทบจากการฟื้นฟูแต่มีน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย อนุทิน กล่าวว่า ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนจะต้องมีการปรับแผนหรือไม่นั้น น้ำมาเส้นทางเดิมจำนวนมากขึ้น เป็นปัญหาแบบเดิม การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จึงน่าจะดักทางถูกแล้ว และเร่งฟื้นฟูสภาพได้เร็วขึ้นกว่าครั้งแรก
นอกจากนี้ ในการเยียวยาสำหรับผู้ประสบภัยที่ได้รับผลจากน้ำท่วม 2 ครั้ง อนุทิน ยืนยันว่า กรอบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต้องทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งขณะนี้ในระเบียบเยียวยาได้เพียงครั้งเดียว แต่การประกาศพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉินยังประกาศอยู่ รูปแบบการช่วยเหลือจึงอาจแตกต่างไป
ขณะเดียวกัน การทบทวนเรื่องที่อยู่อาศัยที่มีการรุกล้ำลำน้ำ อนุทิน ระบุว่า เรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายจะเร่งดำเนินการ ควบคู่ไปกับหลักมนุษยธรรม วัฒนธรรม ซึ่งหากพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่สาเหตุน้ำท่วม อาจต้องพิจารณาให้ดี
ทั้งนี้ อนุทิน พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่ จ.เชียงราย และจ.เชียงใหม่ ในวันที่ 5 ต.ค. นี้ด้วย
ออมสิน พักหนี้กลุ่มน้ำท่วมซ้ำ 1.4 แสนบัญชี กว่า 5 พันหมู่บ้าน
Thai PBS News รายงาน โดย วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารออมสินได้ขยายระยะเวลามาตรการพักหนี้อัตโนมัติ จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน และเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์พักหนี้ตามมาตรการนี้ จากเดิม 110,000 บัญชี เป็น 140,000 บัญชี ซึ่งล่าสุดได้เพิ่มรายชื่อจังหวัดและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกินบริเวณกว้างมากขึ้นเป็น 43 จังหวัด 5,515 หมู่บ้าน (จากเดิม 41 จังหวัด 4,000 หมู่บ้าน)
สำหรับการขยายระยะเวลามาตรการพักหนี้อัตโนมัติ จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน ใช้หลักเกณฑ์เดิมคือให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบพักจ่ายเงินต้น และธนาคารไม่คิดดอกเบี้ย มีผลทันทีตั้งแต่งวดเดือนตุลาคม 2567 ถึงงวดเดือนมีนาคม 2568 ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อรายย่อย สินเชื่อบุคคล และ SMEs วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท (ยกเว้นสินเชื่อชีวิตสุขสันต์และสินเชื่อตามนโยบายรัฐ : PSA)
โดยธนาคารจะส่ง SMS หรือ จดหมายแจ้งเพื่อทราบการพักชำระหนี้ไปยังลูกหนี้ตามรายชื่อผู้มีสิทธิ์ร่วมมาตรการฯ ซึ่งมีภูมิลำเนา ที่อยู่ หรือที่ประกอบอาชีพ ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศฯ ในปัจจุบัน (ประกาศฯ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 67) และหลังจากสิ้นสุดมาตรการฯ ให้ลูกหนี้กลับมาชำระหนี้ตามสัญญาเดิมตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ลูกหนี้สถานะปกติที่มีการชำระหนี้ในช่วงเวลาของมาตรการฯ ธนาคารจะนำไปตัดลดต้นเงินของลูกหนี้ต่อไป