กรมอุตุฯ ระบุ วันนี้ – 3 ต.ค. 67 ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ สภาพอากาศแปรปรวนหนัก ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ก่อนเจอมวลอากาศเย็น จากจีนระลอกแรก แผ่มาปกคลุม คาด อีสาน อุณหภูมิลด 1 – 3 องศาฯ ส่วนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย คลื่นลมแรง มีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่
วันนี้ (30 ก.ย. 67) สมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ตั้งแต่วันนี้ – 3 ต.ค. 67 เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะอากาศมีความแปรปรวนสูง เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน เป็นมวลอากาศเย็นระลอกแรกที่มีผลกระทบกับสภาพอากาศของไทย จะทำให้มีฝนฟ้าคะนองในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 2 ต.ค. 67 ฝนจะเริ่มจากทางตอนบนของภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่วนภาคอื่น ๆ จะได้ผลกระทบในระยะถัดไป
หลังจากนั้นอากาศจะเริ่มเย็นลงบ้างทางภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ต้องระวังฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ในช่วงแรก ๆ ที่มวลอากาศเย็นแผ่ลงมาถึง
สำหรับภาคใต้จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น ลมจะเริ่มเปลี่ยนเป็นลมตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ คลื่นลมแรงขึ้นบ้าง
ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 9 ต.ค. 67 ประเทศไทยตอนบน มีฝนลดลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย คลื่นลมแรงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง (ข้อมูลนี้ใช้เป็นแนวทางในการติดตามสภาพอากาศ ยังต้องติดตามด้วยข้อมูลจากผลการตรวจอากาศอื่น ๆ ร่วมด้วย)
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 (217/2567) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 3 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุม ภาคเหนือ (ด้านตะวันออก), ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง, ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ประเทศไทยตอนบน มีลักษณะอากาศแปรปรวนเกิดขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักบางแห่งใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ภาคตะวันออก และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ
หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม
สำหรับจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 30 ก.ย. 67
- ภาคเหนือ : เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : นครสวรรค์, ลพบุรี และสระบุรี
- ภาคตะวันออก : นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
วันที่ 1 ต.ค. 67
- ภาคเหนือ : แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, ตาก, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, ลพบุรี, สระบุรี, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
- ภาคตะวันออก : นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
วันที่ 2 – 3 ต.ค. 67
- ภาคเหนือ : แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, ตาก, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และสุรินทร์
- ภาคกลาง : นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, ลพบุรี, สระบุรี, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา, กาญจนบุรี, ราชบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
- ภาคตะวันออก : นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร