‘อธิบดีกรมปศุสัตว์’ สั่งขนย้ายสัตว์เลี้ยง ออกจากพื้นที่ 4 จังหวัด น่าน, แม่ฮ่องสอน, เชียงราย, พะเยา พื้นที่ประสบปัญหา รวม 22 อำเภอ พร้อมสำรวจความเสี่ยหาย เร่งชดเชยเยียวยาทันที หลังสถานการณ์คลี่คลาย
วันนี้ (23 ส.ค. 2567) น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ สั่งสำนักงานปศุสัตว์ทุกพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย ให้เข้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และปศุสัตว์ทั้งหมด ส่วนพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ขณะนี้เข้าช่วยเหลือใน 4 จังหวัดภาคเหนือที่น้ำท่วมวิกฤติ ด้วยการนำกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยขนย้ายปศุสัตว์สู่ที่สูง สนับสนุนอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ ตลอดจนรักษาสัตว์ป่วย ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์รายงานสัตว์ตายและสูญหายจำนวนหนึ่งด้วย
ทั้งนี้จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ด่านกักกันสัตว์ และ ศูนย์วิจัยอาหารสัตว์ หน่วยงานในสังกัดที่อยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ในพื้นที่ประสบอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง ให้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อย่างเต็มที่ หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากในภาคเหนือ เนื่องจากฝนตกหนัก
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า เบื้องต้นได้รับรายงาน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัดได้แก่ จ.น่าน, แม่ฮ่องสอน, เชียงราย และ พะเยา มีพื้นที่ประสบภัยรวม 22 อำเภอ 68 ตำบล 468 หมู่บ้าน โดยมีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 24,724 ราย มีสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 1,478,861 ตัวแบ่งเป็น
- โค 32,460 ตัว
- กระบือ 6,082 ตัว
- สุกร 7,633 ตัว
- แพะ/แกะ 692 ตัว
- สัตว์ปีก 1,431,994 ตัว
- รวมถึงแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 142 ไร่
ขณะที่รายงานสัตว์ตาย และสูญหายใน 3 จังหวัดได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน, เชียงราย และ น่าน แบ่งเป็น โค 9 ตัว, กระบือ 7 ตัว, สุกร 12 ตัว, แพะ 36 ตัว และสัตว์ปีก 538 ตัว รวมตาย/สูญหาย 602 ตัว สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่และหน่วยงานสังกัดกรมปศุสัตว์เข้าช่วยเหลือเฉพาะหน้า โดยอพยพสัตว์ 10,783 ตัว มอบพืชอาหารสัตว์ 31,615 กิโลกรัม สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 506 ชุด รักษาสัตว์ 76 ตัว
“สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแพร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองถูกน้ำท่วม จึงทำให้ต้องแจ้งหยุดทำการชั่วคราว ขณะนี้พื้นที่เลี้ยงสัตว์และสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร จ.แพร่ในพื้นที่ อ.สอง อ.หนองม่วงไข่ อ.ร้องกวาง อ.เมืองแพร่ อ.สูงเม่น อ.เด่นชัย ได้รับผลกระทบหลายราย ส่วน อ.ลอง และ อ.วังชิ้น คาดว่าจะได้รับผลกระทบตามมาอีก 1-2 วัน”
น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์
เช็กหลักเกณฑ์เยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เดือดร้อนจากน้ำท่วม
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุด้วยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานเร่งเข้าสำรวจผลกระทบและความเสียหายด้านปศุสัตว์ที่เกิดขึ้น และทันทีที่สถานการณ์คลี่คลายลง จะเร่งช่วยเหลือชดเชยเยียวยาตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติ เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2564 ซึ่งแต่ละชนิดสัตว์จะมีอัตราและเกณฑ์การช่วยเหลือดังนี้
- โคอายุน้อยกว่า 6 เดือนอัตราตัวละไม่เกิน 13,000 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 5 ตัว อายุ 6 เดือนถึงหนึ่งปี 22,000 บาท, 1-2 ปี 29,000 บาท, อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 35,000 บาท
- กระบืออายุน้อยกว่า 6 เดือน 15,000 บาท รายละไม่เกิน 5 ตัว อายุ 6 เดือน -1 ปี 24,000 บาท, อายุมากกว่า 1-2 ปี 32,000 บาท, อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 39,000 บาท
- สุกร อายุ 1-30 วัน 1,500 บาท ไม่เกินรายละ 10 ตัว อายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป 3,000 บาท
- แพะ/แกะ อายุ 1-30 วัน 1,500 บาท ไม่เกินรายละ 10 ตัว อายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป 3,000 บาท
- ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง อายุ 1-21 วัน 30 บาท ไม่เกินรายละ 300 ตัว อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 80 บาท
- ไก่ไข่อายุ 1- 21 วัน 30 บาท ไม่เกินรายละ 1,000 ตัวอายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 100 บาท
- ไก่เนื้ออายุ 1- 21 วัน อัตราไม่เกิน 20 บาท ไม่เกินรายละ 1,000 ตัวอายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 50 บาท
- เป็ดไข่ อายุ 1- 21 วัน 30 บาท ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 100 บาท
- เป็ดเนื้อเป็ด/เทศ อายุ 1-21วัน 30 บาท ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 80 บาท
- นกกระทา อายุ 1-21วัน 10 บาท ไม่เกินรายละ 1,000 ตัวอายุมาก อายุมาก 21 วันขึ้นไป 30 บาท
- นกกระจอกเทศ 2,000 บาท ไม่เกินรายละ 10 ตัว
- ห่าน 100 บาท ไม่เกินรายละ 300 ตัว
- แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 1,980 บาท ต่อไร่ รายละไม่เกิน 30 ไร่
หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องการแจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ สามารถแจ้งที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหรือ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ในพื้นที่ หรือแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง