เร่งบริหารจัดการน้ำเขื่อนใหญ่ลดผลกระทบแล้ง

แม้ขณะนี้น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่จะมีปริมาตรน้ำ ​ร้อยละ 64 และยังอยู่ในแผนการจัดสรรน้ำ ในพื้นที่ในเขตชลประทาน แต่ยังไม่อาจวางใจได้ หลังมีการคาดการณ์ 2-4 ปีข้างหน้าเสี่ยงแล้ง ด้านกรมชลประทานชวนเที่ยวเขื่อนทั่วไทย​ผ่อนคลายอากาศร้อนจัดสงกรานต์

เขื่อนภูมิพล


วันนี้ (1 ม.ย.66 ) ​ประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 48,527 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 64 เทียบกับปี 2565 (47,805 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 63) มากกว่าปี 2565 จำนวน 722 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 21.14 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 150.59 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 27,810 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนสิริกิติ์

แผนและผลการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2565/66 (1 พ.ย.65 – 30 เม.ย.66)
กรมชลประทาน วางแผนความต้องการใช้น้ำจากโครงการชลประทานขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศในช่วง
ฤดูแล้งปี 2565/66 (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 – 30 เมษายน 2566) ปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
จำนวน 43,740 ล้าน ลบ.ม.

โดยความต้องการใช้น้ำฤดูแลงทั้งประเทศมีจำนวน 27,685 ล้าน ลบ.ม. โดยมีการวางแผนจดสรรน้ำชลประทานตามลำดับความสำคัญดังนี้เพื่อการเกษตร 16,330 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการอุปโภค-บริโภค 2,535 ล้าน ลบ.ม.อุตสาหกรรม 550 ล้าน ลบ.ม. และรักษาระบบนิเวศและอื่น ๆ 8,270 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยามีความต้องการใช้น้ำ 9,100 ล้าน ลบ.ม. มีการวางแผนจัดสรรน้ำชลประทานแยกเป็น เพื่อการเกษตร 5,795 ล้าน ลบ.ม. เพื่ออุปโภค-บริโภค1,150 ล้าน ลบ.ม. อุตสาหกรรม 135 ล้าน ลบ.ม. และการรักษาระบบนิเวศและอื่น ๆ 2,020 ล้าน ลบ.ม.
ผลการจัดสรรน้ำ ทั้งประเทศ

เขื่อนเจ้าพระยา

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึงปัจจุบันใช้น้ำไปแล้ว 20,927 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 76 ของแผนจัดสรรน้ำ ส่วนในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์แควน้อยฯ ป่าสักฯ) วันนี้ใช้น้ำไป 49.66 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึงปัจจุบันใชน้ำไปแล้ว 7,228 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 83 ของแผนจัดสรรน้ำ

สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำให้มีการจัดระเบียบการเพาะปลูก และเก็บเกี่ยวให้ทันตามแผนที่กำหนดไว้ สำหรับค่าความเค็มในแม่น้ำสายหลัก 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง ภาพรวมสถานการณ์ค่าความเค็มยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์

อธิบดีกรมชลประทาน ยังเปิดเผยอีกว่าเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ว่า ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำในอ่างฯ ประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ประมาณ 1,000 ล้าน ลบ.ม. มีการระบายน้ำเฉลี่ยวันละประมาณ 7.38 ล้าน ลบ.ม. ลงสู่ลำปาวและแม่น้ำชี เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ด้านท้ายน้ำในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ก่อนกระจายน้ำเข้าสู่คลองชลประทานต่าง ๆ ส่งไปให้เกษตรกรที่กำลังเพาะปลูกข้าวนาปรัง ทำการประมง และเพาะเลี้ยงกุ้งแม่น้ำ

โดยในปีนี้มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังเต็มพื้นที่กว่า 300,000 ไร่ รวมทั้งยังส่งน้ำให้ประชาชนได้ใช้อุปโภคบริโภค ตลอดจนรักษาระบบนิเวศได้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวในช่วงฤดูแล้งปีนี้ ถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีสามารถส่งน้ำไปสนับสนุนการเพาะปลูกพืชและการใช้น้ำอุปโภคบริโภคให้กับพื้นที่ด้านท้ายได้อย่างเพียงพอ ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนปี 2566 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอใช้ตลอดทั้งปี จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด และเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้งที่วางไว้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ในอีก 2-4 ปีข้างหน้า

ขณะที่ฤดูร้อนปีนี้ส่อแววจะร้อนระอุมากกว่าปีที่ผ่านมา คาดการณ์อุณหภูมิเกิน 40 องศหลาย ๆ คนคงคิดว่าหน้าร้อนจะต้องไปเที่ยวทะเลเท่านั้น แต่ปัจจุบันหลายเขื่อนได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายรูปชมวิวทิวทัศน์ หรือทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น เล่นน้ำ ล่องแพ พายเรือ เพื่อคลายความร้อน

กรมชลประทานเชิญชวนชวนหนีร้อนไปผ่อนคลายรับความสดชื่นกับ 10 จุดเช็คอิน เขื่อนชลประทาน เพื่อเป็นตัวเลือกดับร้อนในช่วงซัมเมอร์และเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้

สำหรับเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน ที่กระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย ถือเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะจะทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บกักน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากและส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ที่สำคัญยังเป็นตัวช่วยในการหน่วงหรือชะลอความเร็วของน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่โดยรอบ ตลอดจนใช้น้ำในการผลักดันน้ำเค็ม ช่วยรักษาระบบนิเวศ นับเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย ในช่วงซัมเมอร์และเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จึงขอเชิญไปท่องเที่ยวเขื่อนต่าง ๆ เพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ คลายร้อนจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว

เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก

เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในโลก ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์บริเวณเหนือสันเขื่อน และมีบริการรถรางนำชมรอบเขื่อนด้วย นอกจากจะได้ชมความสวยงามและสูดอากาศบริสุทธิ์ ช่วงหน้าร้อนนี้ยังมีจุดเล่นน้ำในหลาย ๆ พื้นที่ จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำคลายร้อนกัน นอกจากนี้ เขื่อนยังเปิดน้ำสามารถล่องแก่งเรือยางท้ายเขื่อนได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยกินพื้นที่ทั้งหมด 2 จังหวัด คือ ลพบุรีและสระบุรี หลังจากที่ในช่วงนี้ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว บริเวณท้ายเขื่อน บ้านท่าฤทธิ์ ฝั่งสระบุรี กลายเป็นจุดชมวิวได้ฟิลเหมือนเที่ยวนิวซีแลนด์ เพราะคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่มีทั้งฝูงแพะและฝูงวัวให้นักท่องเที่ยวได้มาชมกัน แต่แนะนำว่าให้มาช่วงเย็น ๆ แดดร่มลมตกกำลังดี แล้วพกเซ็ตปิคนิคมานั่งกินลมชมพระอาทิตย์ตกดิน ครบสูตร สายมินิมอล ห้ามพลาดเลย

เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี

เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี ที่นี่เป็นเขื่อนดินที่ยาวเป็นอันดับสองของประเทศไทยที่รองลงมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและเป็นจุดชมวิวใกล้กรุงเทพฯ ที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ บริเวณสันเขื่อนยังเป็นจุดวิ่งออกกำลังกายและสามารถเช่าจักรยานปั่นชมวิวได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีหาดทรายท้ายเขื่อนกระเสียว หรือที่เรียกกันว่า “ทะเลน้ำจืดแห่งเมืองสุพรรณ” ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำคลายร้อนกัน โดยมีวิวทิวทัศน์ภูเขาเป็นฉากหลังและผืนน้ำกว้างใหญ่คล้ายเป็นหาดทรายริมทะเล

เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่

เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ แวะมาขึ้นเหนือกันบ้าง หากใครต้องการสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน ด้วยวิวที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา เหมาะแก่การเดินเล่นถ่ายรูปบนสันเขื่อน เพราะอากาศสดชื่นสุด ๆ และสำหรับใครที่ต้องการพักผ่อนแบบสงบท่ามกลางสายน้ำ ที่นี่มีเรือนแพคอยให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ของคนรักธรรมชาติสุด ๆ

เขื่อนแม่สรวย จ.เชียงราย

เขื่อนแม่สรวย จ.เชียงราย เขื่อนท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยภูเขากับบรรยากาศสุดฟิน ที่คุณจะได้พบกับวิวแบบ 360 องศา ได้ชาร์จพลังงานธรรมชาติอย่างเต็มที่ แถมยังมีกิจกรรมทางน้ำ ให้ได้ล่องแพเปียก และเครื่องเล่นสนุก ๆ อีกมากมาย โดยภายในบริเวณเขื่อน มีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง

เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง “เขื่อนกิ่วลม ลำปางปลายทางฝัน” อีกหนึ่งที่เที่ยวยอดฮิตของจังหวัดลำปาง เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนมีแต่ความสบายตา และเมื่อมาเช็คอินที่นี่แล้ว ต้องห้ามพลาดกับกิจกรรมล่องแพชมวิวกับบรรยากาศฟิน ๆ รับรองเลยว่าใครมาที่นี่ต้องติดใจ ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น เงียบสงบ และใกล้ชิดธรรมชาติ

เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา

เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา เปิดประตูสู่แดนอีสาน ยลโฉมความงามของธรรมชาติบนสันเขื่อน วิวมุมสูงที่จะมองเห็นสายน้ำขนาบไปกับขุนเขา บอกเลยว่าเป็นความสวยงามที่เหนือคำบรรยายจริง ๆ และหากมาในยามที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ที่นี่สวยฟินไม่เหมือนใครแน่นอน นอกจากนี้คุณยังสามารถปั่นจักรยานชมวิวรอบเขื่อนชมความอุดมสมบูรณ์ของป่า พร้อมถ่ายรูปกังหันลมยักษ์ได้อีกหลากหลายมุมด้วย

เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์

เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนดินขนาดใหญ่ แหล่งทำมาหากินและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะที่นี่มีกิจกรรมแน่น ๆ อย่างการขึ้นไปถ่ายรูปชมวิวบนสันเขื่อน ชมทัศนียภาพความงดงามของหาดดอกเกด ซึ่งเป็นชายหาดกว้างที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงน้ำลด ทำให้สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างฉ่ำใจ รวมทั้งยังมีร้านอาหารที่มีให้บริการตลอดทั้งปี

เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กิจกรรมทางน้ำแบบจัดเต็ม ต้องยกให้ที่แก่งกระจาน สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ถือว่าเป็นที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ไม่ว่าจะสายแคมป์ปิ้ง สายล่องแก่ง ล่องแพ ลอยคอเล่นน้ำ เรียกว่าครบจบในที่เดียว หรือหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศกลางลำน้ำ ที่นี่ก็มีบริการล่องเรือชมเขื่อนเช่นกัน เพราะบริเวณรอบเขื่อนจะมีเกาะแก่งกระจายกันอยู่หลายเกาะมาก ๆ และอีกหนึ่งไฮไลท์คือ สะพานแขวนเหนือเขื่อนแก่งกระจาน ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พร้อมกับรับอากาศบริสุทธิ์ไม่แพ้ที่อื่นเลย

เขื่อนกะทูน จ.นครศรีธรรมราช

เขื่อนกะทูน จ.นครศรีธรรมราช ชวนล่องใต้เยือนเมืองคอน เที่ยวชมธรรมชาติกับบรรยากาศสุดโรแมนติก โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวทะเลสาบที่มีฉากหลังเต็มไปด้วยทิวเขา เหมาะกับการนั่งกินลมชมวิวอย่างมาก กิจกรรมที่นี่ก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะล่องเรือ ปั่นจักรยาน รวมถึงดูดาวในยามค่ำคืน ถือเป็นสถานที่ที่น่าสนใจไม่น้อย สมกับการได้รับฉายา “สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้” นั่นเอง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active