บ้านเก่าอายุกว่า 200 ปีถล่ม เชื่อสาเหตุจากการสร้างเขื่อนกั้นน้ำและอาคารสูง

เจ้าของร้องสื่อมวลชน “บ้านโซวเฮงไถ่” พังถล่ม เชื่อเพราะการก่อสร้างตึกกรมเจ้าท่า ยืนยันไม่เคยสำรวจความเห็นทั้งที่อยู่ห่างระยะ100 เมตร ทำหนังสือสอบถามหน่วยงานรัฐยังไร้คำตอบ

ดวงตะวัน โปษยะจินดา เจ้าของบ้านโซวเฮงไถ่ เลขที่ 282 ซ. วานิช 2 แขวง ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ร้องเรียน The Active พร้อมพาทีมข่าวเดินสำรวจความเสียหายและชี้จุดห่างระหว่างตัวบ้านและตึกอาคารของกรมเจ้าท่า ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นสาเหตุของการพังถล่มครั้งนี้ เนื่องจากกรมเจ้าท่ามีการก่อสร้างอาคารใหม่หลายสิบชั้น มีการตอกเสาเข็มทั้งวันทั้งคืนเป็นจำนวนหลายร้อยต้นร่วมเป็นปี ทำให้บ้านซึ่งแตกร้าวอยู่แล้วยิ่งแตกร้าวมากยึ่งขึ้น อีกทั้งที่ผ่านมาในช่วงการก่อสร้างก็ไม่เคยสอบถามตนซึ่งเป็นผู้อาศัยใกล้เคียงในระยะ 1-2 กิโลเมตร จึงเรียกร้องให้กรมเจ้าท่าเข้ามาตรวจสอบเร่งด่วนพร้อมเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น

“สถานที่ก่อสร้างของกรมเจ้าท่า ห่างจากบ้านไม่ถึงร้อยห้าสิบเมตร จึงเกิดความเสียหายอย่างมาก”

เจ้าของบ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า บ้านโซวเฮงไถ่เป็นบ้านโบราณ ก่อสร้างก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ คาดว่ามีอายุมากกว่า 200  ปี เมื่อปี 2554 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่นี่มีน้ำท่วมขังติดต่อกันนานถึง 3 เดือน ต่อมาปี 2555 สำนักกรุงเทพมหานครได้สร้างเขื่อนกั้นน้ำเริ่มตั้งแต่ท่าน้ำราชวงศ์ถึงกรมเจ้าท่า ซึ่งระหว่างตีเขื่อนได้ผ่านบ้านโบราณหลังดังกล่าวและทำให้เกิดรอยแตกร้าวขึ้นบางส่วนบวกกับความชื้นจากน้ำท่วมและการก่อสร้างอาคารของกรมเจ้าท่า บ้านจึงเกิดพังถล่มลงมาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ขณะเดียวกันเธอได้พยายามทำหนังสือร้องเรียนไปยังกรมเจ้าท่าและกรุงเทพมหานครเพื่อชี้แจงถึงปัญหาดังกล่าว แต่ไม่เคยได้รับการตอบกลับจึงนำเรื่องมาร้องเรียนสื่อมวลชน 

บ้านโซวเฮงไถ่  เป็นบ้านสถาปัตยกรรมจีนแบบ “สี่เรือน ล้อม ลาน” ของพระอภัยวานิช (เจ้าสัวจาด) นายอากรรังนกชาวจีนฮกเกี้ยน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2340 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หรืออาจจะสร้างตั้งเเต่สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี

ปัจจุบันบ้านอยู่ในการดูแลของทายาทรุ่นที่ 8 ของพระอภัยวานิช ตระกูลโปษยะจินดา ที่ยังอนุรักษ์บ้านหลังนี้ไว้เพื่อเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชุมชน ขณะเดียวกันก็ได้ปรับปรุงพื้นที่ลานกลางบ้านให้เป็นโรงเรียนสอนดำน้ำในอดีตกรมศิลปากรเคยติดต่อขออนุรักษ์บ้านหลังดังกล่าว

Author

AUTHOR